- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 24 May 2017 17:55
- Hits: 1488
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นทันทียืน 1560 จุด พร้อมกับแกว่งตัวผันผวนแคบๆ ที่มีจุดต่ำสุดของวันที่ 1558.07 จุด เพิ่มขึ้น 0.34 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อหลัก ๆ จากหุ้นในกลุ่มพลังงาน อาหาร และแบงก์ผลักดันให้ดัชนีปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขึ้นทำจุดสูงสุดของวันได้แก่ 1565.61 จุด เพิ่มขึ้น 7.88 จุด ทำให้มีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 7.54 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ GGC, BANPU, CPALL, STA, SCC, SCB, CBG ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1564.69 จุด เพิ่มขึ้น 6.96 จุด (+0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 41,869 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ฟื้นตัวต่อได้อย่างแข็งแกร่ง จนสามารถเบรกเส้นแนวโน้มย่อยที่เป็นขาลงกดอยู่ขึ้นไปได้ และเส้นค่าเฉลี่ย 25 วัน (1560) ขึ้นทำ High ที่ 1565 จุด และทำปิดที่ใกล้จุดสูงสุดของวันที่ 1564 จุด จากภาพดังกล่าวทำให้แนวโน้มดัชนีมีโอกาสไปต่อโดยมีเป้าหมาย 1570-1580 จุด แต่อย่างไรก็ตามในภาพรายชม.เริ่มเตือนเข้าสู่ Overbought และมีแนวต้านรายสัปดาห์ 1568 จุด ซึ่งเหลือ Upside ไม่มาก ดังนั้นมีโอกาสที่จะชะลอตัวได้ ในลักษณะเป็นการแกว่งตัวออกข้าง มีแนวรับ 1555-1560 จุด แนวต้าน 1566-1568 จุด
แกว่งตัวผันผวน - เข้าใกล้เป้าหมายหลัก ระวังแรงขาย
Support 1545 // 1534 จุด Resistance 1570-1580 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(-) TVO : ปรับประมาณการลงจากแนวโน้มกำไรที่แย่กว่าที่คาด
(-) TNR : คาดกำไรสุทธิปี 2017 อ่อนตัวลงค่อนข้างมาก
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ประธานาธิบดีทรัมป์ ยื่นร่างงบประมาณปี 2018 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์เข้าสภาคองเกรส ระบุจะกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ โต 3% ในรายละเอียดมีทั้งแผนเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย และหนึ่งในนั้น คือแผนนำปริมาณน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ประมาณครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ออกมาขาย (ข้อมูลจาก Bloomberg ปริมาณสำรองน้ำมันฯตัวนี้ มีจำนวน 688 ล้านบาร์เรล)
ราคาน้ำมันดิบ WTI เช้านี้ อยู่ที่ $51 เหรียญ จากความเชื่อมั่นที่มีต่อแผนการคงกำลังการผลิตน้ำมันไว้ที่ระดับต่ำของกลุ่ม OPEC ที่มีข่าวบางกระแสว่าอาจคงกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปี 2561 เลยก็เป็นได้ กลบข่าวลบในเรื่องแผนการนำน้ำมันดิบของสหรัฐฯอกอมาขาย ที่จะมีผลต่อ supply ในตลาดที่จะเพิ่มขึ้นประมาณ 1% (ความต้องการใช้น้ำมันดิบของโลก ณ เม.ย.97.8 ล้านบาร์เรล/วัน) จากความแข็งแรงของราคาน้ำมันดิบในระดับนี้ เรามองเป็นปัจจัยบวกมาถึงหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี ในช่วงนี้ด้วย
เราประเมินปัจจัยต่างประเทศ ว่าความเสี่ยงการเมืองของสหรัฐฯลดลง และเป็นบวกสั้นๆต่อตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะงบประมาณของสหรัฐฯ เนื่องจากมีผลตรงต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และทำให้เห็นความคืบหน้าของการเดินตามนโยบายเศรษฐกิจหลังชะงักมาหลายสัปดาห์ รวมทั้งแนวโน้มราคาน้ำมันดิบ ที่น่าจะยืนเหนือ $50 เหรียญไปได้ระยะหนึ่ง แต่น้ำหนักในทางบวกนี้ อาจถูกลดทอนไปด้วยการที่นักลงทุนบางส่วนจะรอดูรายงานประชุม FOMC ครั้งก่อน ที่จะเผยแพร่ในวันนี้ (24)
ปัจจัยในประเทศ การประชุม กนง.ในวันนี้ ตลาดประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เพื่อต้องการให้ดอกเบี้ยต่ำเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ต่อไป และการประชุมเกี่ยวกับโครงการ EEC (Eastern Economic Corridor) ที่จะเป็นบวกหุ้นที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหุ้นที่ทำธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แรงของ technical rebound บวกกับได้ปัจจัยบวกช่วยหนุน จะทำให้ดัชนีฯ มีแนวโน้มที่จะเดินหน้าต่อ ตัวเลข Net Buy ของนักลงทุนตลาดหุ้นเอเซียและของไทยเอง บ่งชี้ว่าความกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯหรือเงินทุนไหลออก ยังมีไม่มากนัก
กลยุทธ์การลงทุน เรายังคงคำแนะนำ "ถือ" จาก momentum ของการ rebound ของตลาดที่คาดจะยังมีต่อ จุดที่จะเริ่มมีการขายทำกำไร จะเป็นตั้งแต่ระดับดัชนีฯ 1566 จุด หรือเมื่อมีตัวแปรในทางลบข้ามากดดันตลาดหุ้น ............ การเข้าลงทุน แนะให้เลือกตัวที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัวไว้ก่อน หรือมีแรงซื้อกลับของนักลงทุน ............... สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น BBL , IRPC , BANPU , BJC , WHA , LPH , TACC
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (23 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,564.69 จุด เพิ่มขึ้น 6.96 จุด (+0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 41,869.49 ล้านบาท หลังทางเทคนิคผ่านแนว 1,560 จุดขึ้นไปได้ และเงินบาทยังแข็งค่าต่อเนื่องเมื่อเทียบเงินดอลลาร์สหรัฐฯ
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 20,937.91 จุด เพิ่มขึ้น 43.08 จุด หรือ +0.21% หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ยื่นเสนองบประมาณประจำปี 2018 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยคาดว่างบประมาณดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัว 3% ต่อปี อย่างไรก็ตาม แรงบวกในตลาดได้ถูกสกัดในระหว่างวัน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ผันผวนของสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ในวันนี้ โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ดีดตัวขึ้น +0.2% ปิดที่ 392.02 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ +0.7% ปิดที่ 51.47 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปก จะร่วมมือกันขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีกอย่างน้อย 6 เดือน ในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์มีแผนขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน
เศรษฐกิจสหรัฐ - นายนีล แคชคารี ประธานเฟด สาขามินนีอาโพลิส ส่งสัญญาณให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยกล่าวว่า ขณะนี้เศรษฐกิจสหรัฐกำลังเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพมากกว่าในเดือนมี.ค. แต่เขาก็ยังไม่มั่นใจว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ไปถึงจุดดังกล่าวแล้ว และการร่วงลงของอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานถือเป็นเรื่องที่น่าวิตก
เศรษฐกิจสหรัฐ - ผลการสำรวจของไอเอชเอส มาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นรวมภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดับ 53.9 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน โดยดัชนีอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการของสหรัฐ
เศรษฐกิจสหรัฐ - รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทำการยื่นเสนองบประมาณประจำปี 2018 วงเงิน 4.1 ล้านล้านดอลลาร์ต่อสภาคองเกรสเมื่อวานนี้ โดยคาดว่างบประมาณดังกล่าวจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัว 3% ต่อปี จากการใช้จ่ายของรัฐบาล และการปรับลดภาษี โดยงบประมาณดังกล่าวจะเริ่มต้นมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ต.ค.ปีนี้
เศรษฐกิจเยอรมนี - สำนักงานสถิติเยอรมนีรายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาสแรกของปีนี้ ขยายตัว 0.6% เทียบรายปี โดยได้แรงหนุนจากความแข็งแกร่งของยอดส่งออก รวมทั้งการลงทุนในอุตสาหกรรมเครื่องจักรและการก่อสร้างที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยยอดส่งออกในไตรมาสแรกปรับตัวขึ้น 1.3% ขณะที่การนำเข้าขยับขึ้น 0.4% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า มูลค่าการค้ามีส่วนช่วยหนุนตัวเลข GDP ขยายตัวในสัดส่วน 0.4% ส่วนการลงทุนในอุตสาหกรรมก่อสร้างพุ่งขึ้น 2.3% ซึ่งเป็นการแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 3 ปี และมีส่วนช่วยหนุนตัวเลข GDP ขยายตัวในสัดส่วน 0.2%
น้ำมัน - ร่างแผนงบประมาณที่ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เสนอให้รัฐบาลสหรัฐทำการขายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกครึ่งหนึ่ง เพื่อนำรายได้เข้าสู่งบประมาณของประเทศ โดยจะขายน้ำมัน SPR ออกครึ่งหนึ่งในช่วงปี 2018-2027 เพื่อให้รัฐบาลมีรายได้ 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ตั้งแต่เดือนต.ค.2018 และแผนงบประมาณดังกล่าว ยังได้เสนอให้มีการขุดเจาะ และผลิตน้ำมันมากขึ้นในอลาสกา โดย SPR นับเป็นคลังสำรองน้ำมันทางยุทธศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีปริมาณน้ำมันอยู่ราว 688 ล้านบาร์เรล ซึ่งเพียงพอสำหรับความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเป็นเวลา 1 สัปดาห์
EEC - พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้มีการออกคำสั่งตามมาตรา 44 เกี่ยวกับโครงการเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ต่างๆ ให้รวดเร็วขึ้น โดยให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมเป็นผู้พิจารณาดำเนินการเลย จากเดิมที่จะมีขั้นตอนซับซ้อน ใช้เวลานาน โดยคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการเพื่อพิจารณารายงานศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการเร่งด่วนภายใต้โครงการ EEC และยังมีอำนาจกำหนดหลักเกณฑ์ในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษ เพื่อที่จะสามารถพิจารณารายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมได้ เนื่องจากบริษัททั้งหลายพร้อมที่จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มแต่ขอให้รวดเร็วทันใจเท่านั้น จึงปลดล็อคตรงนี้ และให้ใช้เวลาในการพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมให้แล้วเสร็จไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับรายงาน
EEC - นายกฯงัดมาตรา 44 ปลดล็อกลงทุนเขตเศรษฐกิจอีอีซี ย่นเวลาทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเปิดทางต่างชาติถือหุ้นเกิน 50% ทำศูนย์ซ่อมอากาศยาน ปรับกระบวนการทำงานพีพีพีโครงการยักษ์เร็วขึ้น
กลุ่ม Media - นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า มีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทีวีนำเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอล งวดที่ 4 มาชำระแล้ว เป็นจำนวน 20 ราย รวมเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 5,179.014 ล้านบาท
News Release :
IRPC-PTTEP วิ่งรอข่าวดี ลุ้นโอเปกยืดเวลาลดผลิต
+ จับตาผลประชุมหารือ "โอเปก-กลุ่มนอกโอเปก" 25 พ.ค.นี้ วงการคาดมีมติขยายเวลาลดกำลังผลิตยาวไปถึง มี.ค. 61 หนุนราคาน้ำมันพุ่ง ชู "IRPC-PTTEP" เด่นรับผลบวกเต็มกำลัง ด้าน PTTEP พร้อมเจรจาเชฟรอนร่วมประมูลแหล่งเอราวัณ(ข่าวหุ้น)
SAWAD ทุ่มเงิน ซื้อกิจการลีสซิ่ง รุกตลาด CLMV
+ ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น เตรียมงบซื้อกิจการลีสซิ่งเพิ่ม หลังจากซื้อ BFIT ก่อนหน้านี้ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อปีนี้ 2.3-2.4 หมื่นล้านบาท โตกว่า 30% ไตรมาสสองยังฟิตโตต่อเนื่อง เตรียมงบ 4 พันล้านบาทซื้อหนี้มาบริหาร พร้อมขอแบงก์ชาติรับฝากเงิน 3-12 เดือน รุกตลาด CLMV ขยายฐานลูกค้าเพิ่ม 2-3 ล้านรายภายใน 3-5 ปี(ข่าวหุ้น)
ANAN-AP เด่นสุดอสังหาฯ เชียร์ซื้อคาดกำไรปีนี้สวย
+ "ANAN-AP" เด่นสุดในกลุ่มอสังหาฯ โบรกฯเชียร์ "ซื้อ" คาดการโหมเปิดโครงการใหม่ดันยอดขายพุ่ง ส่วนงบทั้งปี 60 ยังแกร่ง คาด ANAN มีกำไรโต 17% แตะ 1,763 ล้านบาท ส่วน AP ไม่น้อยหน้าพุ่ง 16% แตะ 3,126 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
ILINK ยอมลดราคาแล้ว มีสิทธิ์สูงคว้างาน APM
+ "ILINK" มีสิทธิ์สูงที่จะคว้างาน APM สนามบินสุวรรณภูมิกว่า 2.8 พันล้านบาท หลังวงในเผยต่อรองวานนี้ ILINK ยอมลดราคาแล้ว แต่ยังมีคะแนนงานเทคนิคต่ำ ต้องขอคุยเพิ่ม คาดสรุปผลได้ใน 1 เดือน ชงบอร์ดพิจารณา มิ.ย.นี้(ข่าวหุ้น)
STA ลุ้นโค้งสองฟื้นตัวแรงปั๊มยอดขาย 1.7 ล.ตัน
+ STA มองผลงาน Q2/2560 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน หลังยอดขายยังมีสัญญาณที่ดีแถมรับแรงหนุนจากราคายางพาราที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมั่นใจยอดขายปี 2560 อยู่ที่ 1.3-1.7 ล้านตันตามเป้าพร้อมเดินหน้าพัฒนาและวิจัยนวัตกรรมใหม่ๆ หวังเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์(ทันหุ้น)
'ICHI' ยอดขายอินโดพุ่งจัดทัพสยายปีก CLMV
+ ICHI เผยหลังร่วมทุนอินโดนีเซียยอดขายครึ่งปีแรกพุ่งกระฉูด เชื่อปีนี้ผลงานพลิกกำไรฉลุยพร้อมส่งซิก Q2/2560 ฟื้นตัวเด่น เล็งปรังแผนการตลาด พร้อมส่งโปรดักต์ใหม่อัพยอด เตรียมจัดทัพสยายปีก CLMV หวังโกยรายได้เข้ากระเป๋าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท
(ทันหุ้น)
CPALL พื้นฐานแกร่ง แววปันผลเด่นยั่วใจ เชียร์สอยอนาคตเจ๋ง
+ CPALL พื้นฐานแกร่ง! แถมคาดปันผลงวดปี 2560 ที่ระดับ 1.06 บาท หรือคิดเป็นยิลด์ 1.7% โบรกเกอร์ชี้อนาคตโตมั่นคง แนะนำ "ซื้อ" เคาะเป้าหมาย 72.00 บาท (ทันหุ้น)
SMM เทิร์นอะราวด์ยอดโฆษณาทะลักจ่อรับทรัพย์ก้อนโต
+ SMM ลุ้นครึ่งหลังปี 2560 เทิร์นอะราวด์ รับเศรษฐกิจฟื้นตัว หนุนยอดโฆษณาทะลักพร้อมลุยแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ทีมชาตินัดพิเศษระหว่าง "เกาหลีใต้-ไทย" รูปแบบเอ็นเตอร์เทนเมนต์ช่วง 3 มิถุนายนนี้ หวังรับทรัพย์ก้อนโตเข้ากระเป๋าเพิ่ม ส่วนปีนี้วาดฝันรายได้ทะลุ 389 ล้านบาทรับพอร์ตลูกค้าขยายตัว ฟากโบรกส่องแนวต้านที่ 1.76 บาท(ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์