WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRAบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาด
  Sideway? คาดตลาดยังคงมีแนวโน้มแกว่งตัว (sideway) ในขณะที่ได้รับปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ หลังคลายความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ และคาดความขัดแย้งดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อแนวโน้มของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่คาดในระยะยาวยังมีความแข็งแกร่ง
  
  ขณะที่ยังได้รับปัจจัยบวกต่อเนื่องจากราคาน้ำมัน ที่ปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 1 เดือน โดยล่าสุดราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 52 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล และคาดยังมีทิศทางที่ดีจนถึงวันประชุมของกลุ่ม Opec ในวันที่ 25/5/60 ขณะที่รัสเซีย (ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่) และซาอุดิอาระเบีย (ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่) มีความเห็นตรงกันที่จะขยายระยะเวลาปรับการผลิตจากเดิมครบในเดือน มิ.ย.’60 เป็นมี.ค.’61 เพื่อให้ตลาดน้ำมันดิบเข้าสู่สมดุล ซึ่งคาดยังเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะ PTT และ PTTEP
  อย่างไรก็ตาม แนะติดตามการประชุมเฟด 13 –14/6/60 (ขึ้น/ไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย) คาดเป็นปัจจัยที่สร้างความผันผวนให้กับภาพรวมตลาดจนถึงวันประชุม ล่าสุด คาดมีโอกาส 80% (ลดลงจาก 83% ก่อนหน้านี้) ที่เฟดจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือน มิ.ย.
  ส่วนประเด็นในประเทศ เริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่สงบ จากเหตุการณ์ระเบิดที่ ร.พ. พระมงกุฎ ซึ่งประเด็นดังกล่าวยังต้องจับตาดูว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน ทางด้าน Fund Flow ยังมีความผันผวน จากแรงซื้อ/ขายสุทธิของต่างชาติ สลับกัน โดยแนะติดตามการประชุม กนง. วันที่ 24/5/60 (อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ปัจจุบัน 1.50%)
  นอกจากนี้ยังแนะติดตามประเด็นที่สหรัฐฯ ระบุว่าไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศ ที่ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ล่าสูงสุดในรอบ 3 ปี มูลค่า 18,920 ล้านUSD หรือประมาณ 650,000 ล้านบาท และคาดสหรัฐฯ อาจมีมาตรการตอบโต้ออกมา (เช่น มาตรการด้านภาษี) ภายใน 90 วัน หรือประมาณต้น 3Q/60 โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงประมง เป็นต้น
  ส่วนทางด้านปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนในการเปิดประมูลของภาครัฐ ซึ่งส่งผลต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลัง ครม. เห็นชอบประเด็นการปรับร่างทีโออาร์ใหม่สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และแนะให้จัดทำร่าง TOR ใหม่ เสร็จภายใน 
3 เดือน คาดมีความเป็นไป ได้ที่จะเปิดประมูลในช่วง 2H/60

SET SET50 SET100
1,557.73 +8.09 987.38 +5.13 2,225.70 +11.08

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
   (+/-) ตลาดต่างประเทศ DJIA +89.99, NASDAQ +49.92, S&P +12.29, FTSE +25.63, CAC -1.52 และ DAX -19.23 โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มป้องกันประเทศ หลังจากสหรัฐฯและซาอุดิอาระเบียลงนามในสัญญาซื้อขายอาวุธมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังคลายความกังวลเกี่ยวกับการเมืองสหรัฐฯ ขณะที่ตลาดคาดการณ์ว่าไม่แน่นอนทางการเมืองที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ขณะนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มที่แข็งแกร่งในระยะยาวของตลาดหุ้นนิวยอร์ก และหันไปให้ความสนใจไปที่เฟด โดยเฟดจะเปิดเผยรายงานการประชุม (เมื่อ 2 –3/5/60) ในสัปดาห์นี้ และจะประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 13 –14/6/60 ซึ่งล่าสุดผลสำรวจพบว่ามีโอกาส ประมาณ 80% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน มิ.ย.
  ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$0.40 อยู่ที่US$50.73 ต่อบาร์เรล สูงสุดในรอบกว่า 1 เดือน จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง และยังได้รับปัจจัยหนุนจากประเด็นที่กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะจับมือกันขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตต่อไป ขณะที่แนะติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก ในวันที่ 25/5/60 ที่คาดจะมีการพิจารณาขยายระยะเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงมี.ค.’61 จากเดิมครบในเดือนมิ.ย.’60 
  ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. +US$7.8 อยู่ที่ US$ 1,261.4 ต่อออนซ์ จากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้มีความต้องการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
16.17 1.87 3.15

ที่มา : www.set.or.th

มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 38,489.70
สถาบัน 1,153.15
บัญชีหลักทรัพย์ -465.77
ต่างประเทศ 184.41
ในประเทศ -871.77

   (+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +184 ล้านบาท สะสม YTD +7,035 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาทและ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)

ประเด็นที่ต้องติดตาม 23 - 26 พ.ค. 2560 
  23/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตขั้นต้นเดือนพ.ค.
  
  ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ค.ยอดขายบ้านใหม่เดือนเม.ย. 
  24/5/60 ไทย – ประชุม กนง. (อัตราดอกเบี้ยนโยบาย ล่าสุด 1.50%)
  
  สหรัฐฯ เปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนเม.ย.
  สต็อกน้ำมัน
  25/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
  26/5/60 สหรัฐฯ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.
  
  ประมาณการครั้งที่ 2 ของ GDP –1Q/60
  
  ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนพ.ค. 

และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
  (2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCBเป็นต้น
  (3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
  (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
  (5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชน ที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
  (6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ IRPC, TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น 
  (7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
  (8) กลุ่มขนส่ง ยังได้รับผลดีจากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในช่วง 2Q/60 เช่น AOT ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.01 อยู่ที่ 2.25% (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) 
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -1.11 อยู่ที่ 10.93

  หุ้นแนะนำ : SPRC 

นักวิเคราะห์ : ศักดิ์นรินทร์ ศศานนท์ โทร .02-684-8789

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!