WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดกระโดดขึ้นที่ 1553.64 จุด เพิ่มขึ้น 4.00 จุด ซึ่งถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของวัน พร้อมกับแกว่งตัวผันผวนสลับขึ้นลงที่อยุ่ในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยเป็นการกระจายตัวขึ้นนำโดย CPF, KTB, SUPER, KBANK, PK, SCB, CBG, BJC มีจุดสูงสุดของวันที่ 1560.11 จุด เพิ่มขึ้น 10.47 จุด ทำให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันที่ 6.47 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1557.73 จุด เพิ่มขึ้น 8.09 จุด (+0.52%) มูลค่าการซื้อขาย 38,490 ล้านบาท

ภาพตลาดวันนี้
  ดัชนีวานนี้กลับมาฟื้นตัวขึ้นได้อีกครั้ง โดยปรับตัวขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดด้วยการสร้าง Gap ขาขึ้นมีความกว้าง 1.41 จุด (1552.23-1553.64) ที่ยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 10 วัน ขึ้นทำ High 1560 จุด (ดีดกลับขึ้นมา 2 ใน 3 ของรอบขาลงล่าสุด) ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาทำปิดที่ 1557 จุด ภาพดังกล่าวดูเหมือนแนวโน้มไปต่อ แต่ระยะสั้นมีโอกาสชะลอตัวได้ เนื่องจากการถูกกดเส้นแนวโน้มขาลง (1560) และ Gap ที่เพิ่งเปิดไว้ รอการปิดในอนาคต มองแนวรับที่ 1550 จุด เป็นบริเวณไม่ควรหลุดสำหรับการไปต่อที่เป้าหมาย 1570-1580 จุด ระยะสั้นมีแนวต้าน 1560-1563 จุด แนวรับ 1550-1554 จุด
   แกว่งตัวผันผวน - ระยะสั้นมีโอกาสอ่อนตัว เพื่อเดินหน้าต่อ
   Support 1545 // 1534 จุด Resistance 1570-1580 จุด

พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

Company Update & News Comment

(0) DCC : คาด 2Q17 มีสัญญาณดีขึ้น ได้ผลบวกจากการเข้าบริหาร RCI
(+) KCAR : แนวโน้มกำไรสดใสตามการขยายฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ข่าวข้อตกลงทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-ซาอุฯ วงเงินเกือบ 4 แสนล้านเหรียญ เป็นบวกต่อบริษัททางแห่งของตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่ความกังวลต่อปัจจัยทางการเมืองที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะมีความยากลำบากมากขึ้นในการบริหารประเทศ หลังปลดผู้อำนวยการเอฟบีไอ จึงทำให้ดัชนีฯตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวขึ้นได้ไม่มากนัก
ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลงอีกครั้ง เช้านี้ Dollar Index ปรับลงมาอยู่ที่ 96.8 จุด ลดลงจากวันศุกร์ที่ผ่านมา 0.2% สวนทางกับราคาทองคำที่ดีดตัวสูงขึ้น เป็นมาตรวัดที่บ่งชี้ว่านักลงทุนมีความกังวลต่อทิศทางตลาด จึงหันเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของเงิน (เมื่อเทียบกับดอลล่าร์)
ราคาน้ำมันดิบ อานิสงค์จากโอกาสที่กลุ่ม OPEC และผู้ผลิตน้ำมันรายอื่นๆ จะคงกำลังการผลิตไว้จนถึงเดือน มี.ค.61 ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI เช้านี้ ปรับขึ้นมาที่ $51.1 เหรียญ/บาร์เรล
เราประเมินปัจจัยต่างประเทศ ว่าด้วยความเสี่ยงด้านการเมืองของสหรัฐฯจะกดดันต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ทำให้แรงซื้อหุ้นในตลาดหุ้นส่วนใหญ่จะยังไม่มีความต่อเนื่อง และตลาดผันผวนในแบบนี้อยู่ต่อไป แต่ตลาดหุ้นเอเซียนั้น เป็นตลาดที่นักลงทุนต่างประเทศยังเพิ่มเม็ดเงินเข้ามาในตลาด แต่ด้วยปริมาณที่ยังไม่มาก ประเด็นที่นักลงทุน กำลังรอคอย ตัวหนึ่งน่าจะเป็นรายงานการประชุม FOMC ครั้งก่อน ที่จะเผยแพร่ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งจะเป็นตัวชี้โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุม 14 มิ.ย.นี้ด้วย
ปัจจัยในประเทศ ตลาดเริ่มถูกกลับมามองในทางบวกมากขึ้นหลังผ่านช่วงรายงานงบการเงิน ส่วนหนึ่ง มาจากกำไรโดยรวมของตลาดที่ 2.8 แสนล้านบาท สำหรับ 1Q นั้น ถือเป็นกำไรที่ทำ new high ของตลาดหุ้นไทยเลย แม้หุ้นบางกลุ่มจะมีกำไรที่ชะลอตัวลงก็ตาม
ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาดูทิศทางเศรษฐกิจไทย ว่ารัฐฯจะเข็นมาตรการใหม่ๆหรือเร่งการใช้จ่ายได้มากขนาดไหน ตัวเลขส่งออกเดือน เม.ย.ที่โต 8.5% YoY ชะลอจาก 9.2% ในเดือน มี.ค. ขยายตัวที่ดีกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ แต่สินค้าใน segment รถยนต์ อีเล็คทรอนิคส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า นั้นชะลอตัวลงจากเดือนก่อน
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ แรงซื้อในลักษณะ technical rebound คาดจะยังมีให้เห็น แต่ความร้อนแรงจะเริ่มลดระดับลง ท่ามกลางความผันผวนจากการขายทำกำไรช่วงสั้น และเหตุระเบิดวานนี้ ยังไม่มีผลลบต่อตลาดหุ้นอย่างมีนัยยะ ..... เราคาดว่า ด้วยน้ำหนักในฝั่งซื้อ ที่น่าจะยังคงสูงกว่า ดัชนีฯจึงมีแนวโน้มสูงขึ้นจากวันก่อน
กลยุทธ์การลงทุน เรายังแนะนำเป็น "ถือ" จาก momentum ของการ rebound ของตลาดที่คาดจะยังมีต่อ จุดที่จะเริ่มมีการขายทำกำไร จะเป็นตั้งแต่ระดับดัชนีฯ 1566 จุด ขึ้นไป หรือเมื่อมีตัวแปรที่เข้ามากดดันตลาดหุ้น ............ การเข้าลงทุน แนะให้เลือกตัวที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัวไว้ก่อน หรือมีแรงซื้อกลับของนักลงทุน ............... สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น BBL , ADVANC , KCAR , TICON*, KAMART*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (22 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,557.73 จุด เพิ่มขึ้น 8.09 จุด +0.52% มูลค่าการซื้อขาย 38,489.70 ล้านบาท เนื่องจากราคาน้ำมันทำ New high รอบ 5 สัปดาห์ และคาดหวัง Fund Flow ไหลเข้าตลาดเกิดใหม่หลังมีเหตุการณ์การเมืองในสหรัฐฯ-บราซิล
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 20,894.83 จุด เพิ่มขึ้น 89.99 จุด หรือ +0.43% เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตอาวุธอย่างคึกคัก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในข้อตกลงขายอาวุธแก่ซาอุดิอาระเบียมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมัน หลังจากมีการคาดการณ์ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะจับมือกันขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.นี้ โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง -0.1% ปิดที่ 391.14 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 40 เซนต์ หรือ +0.8% ปิดที่ 50.73 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจะจับมือกันขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.
เศรษฐกิจสหรัฐ - นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส กล่าวในวันนี้ว่า เฟดควรเดินหน้าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเริ่มต้นลดวงเงินในงบดุลบัญชีของเฟดก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากขณะนี้เฟดกำลังมีความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้ง 2 ประการ ซึ่งได้แก่ เงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ และการจ้างงานที่เต็มศักยภาพ
เศรษฐกิจไต้หวัน - สำนักงานสถิติแห่งชาติของไต้หวันแถลงว่า อัตราการว่างงานในไต้หวันแตะระดับ 3.67% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 23 เดือน โดยมีคนว่างงาน 432,000 คนในเดือนเม.ย. ลดลง 13,000 คนจากเดือนมี.ค. และลดลง 19,000 คนเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่จำนวนแรงงานทั้งหมดในไต้หวันอยู่ที่ระดับ 11.76 ล้านคน
เศรษฐกิจไทย - กระทรวงพาณิชย์ แถลงตัวเลขการค้าระหว่างประเทศของไทยในเดือน เม.ย.60 การส่งออกมีมูลค่า 16,864 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 8.5% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 16,808 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 13.4% ส่งผลให้ดุลการค้า เม.ย.เกินดุล 56.8 ล้านดอลลาร์ สรอ. ส่งผลให้ภาวะการค้าระหว่างประเทศในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) การส่งออกมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 73,321 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 5.7% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 69,211 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัว 14.5% ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุลรวม 4,110 ล้านดอลลาร์ สรอ.
กลุ่มธนาคาร - นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยถึงสินเชื่อ SME ตามแนวประชารัฐว่า ในวันที่ 24 พ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางลงพื้นที่จ.สงขลา เพื่อเปิดตัวกองทุนและมอบเงินทุนให้กับผู้ประกอบการ SME จำนวน 30 รายแรก คิดเป็นวงเงินรวม 54.2 ล้านบาท และตั้งเป้าว่า สิ้นเดือน มิ.ย.นี้ จะอนุมัติวงเงินรวมได้เกือบ 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อให้กู้แก่ SME เพื่อฟื้นฟูกิจการจำนวน 400 ล้านบาท สินเชื่อให้กู้แก่ Micro SME และวิสาหกิจชุมชน จำนวน 50 ล้านบาท กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐ 5,000 ล้านบาท และ สินเชื่อ SME Transformation Loan 6,500 ล้านบาท รวมทั้งเร่งมาตรการส่งเสริมศักยภาพให้ความรู้ด้านการตลาด การปรับปรุงสินค้า การยกระดับมาตรฐานสินค้าและให้เกิดการทำบัญชีที่ถูกต้องแก่ผู้ประกอบการได้ไม่น้อยกว่า 10,000 ราย
น้ำมัน - นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รมว.พลังงานของซาอุดิอาระเบีย กล่าวว่า เขาไม่คาดว่าสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะคัดค้านข้อเสนอการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน โดยนายธาเมนทรา ประธาน ซึ่งเป็นรัฐมนตรีน้ำมันของอินเดีย กล่าวว่า การปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และแนวโน้มราคาน้ำมันที่มีราคาแพงขึ้น กำลังผลักดันให้อินเดียพิจารณาซื้อน้ำมันจากสหรัฐและแคนาดา รวมทั้งเพิ่มการใช้พลังงานทดแทน
น้ำตาล - กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำตาลนอกโควต้าเป็นเวลา 3 ปี เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมการผลิตในประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2560 ถึง 21 พฤษภาคม 2562 จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าน้ำตาลนอกโควต้า ในอัตรา 45% และจะปรับลดภาษีลงเหลือ 40% และ 35% ในปี 2561 และ 2562 ตามลำดับ โดยสมาชิกองค์กรการค้าโลก (WTO) อาจมีการดำเนินมาตรการต่างๆเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ หลังจากที่การนำเข้าสินค้าจากต่างชาติ ได้สร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตในประเทศ อย่างไรก็ตาม การเรียกเก็บภาษีดังกล่าวไม่ครอบคลุมถึงน้ำตาลโควต้าซึ่งมีปริมาณ 1.95 ล้านตันในปีนี้
EEC - รัฐบาลเร่งการลงทุนอีอีซี เปิดทางต่างชาติผลิต ชิ้นส่วนอากาศยานโดยถือหุ้นได้เกิน 50% จูงใจลงทุน แลกถ่ายทอดเทคโนโลยี เตรียมจ้างผู้ชำนาญการดูแล ทำอีไอเอ 5 โครงการใหญ่ ลดเวลาทำพีพีพีซูเปอร์ ฟาสต์แทรคเหลือไม่เกิน 10 เดือน พร้อมออกมาตรการ เพิ่มระหว่างรอกฎหมายประกาศใช้

News Release :
"อนันต์"ลาออกหุ้น LH เด้ง แยกธุรกิจออกจากส่วนตัว ก.ล.ต.ชี้อนันต์ออกแล้วไม่พิจารณาคุณสมบัติ
+ "อนันต์ อัศวโภคิน" แจ้งลาออกทุกตำแหน่งในบริษัทกลุ่มแลนด์ฯ ทั้ง 4 แห่ง "LHBANK-LH-QH-HMPRO หลังดีเอสไอเรียกรับทราบข้อกล่าวหาฯ วงการเงินชี้ไร้ผลกระทบเหตุทั้ง 4 บริษัทวางมืออาชีพบริหารอยู่แล้ว ฟากก.ล.ต.เผยจะไม่มีการพิจารณาเรื่องคุณสมบัติ "อนันต์" หลังลาออกแล้ว ขณะที่หุ้น LH ขานรับเด้ง 2% (ข่าวหุ้น)

ACAP ลั่นสินเชื่อ มากกว่า 6 พันล้าน เจาะกลุ่ม CLMV
+ เอเชีย แคปปิตอล หรือ ACAP เล็งปรับเป้าพอร์ตสินเชื่อปีนี้ หลังจากไตรมาส 1/60 ตัวเลขเกือบแตะ 5 พันล้านบาท จากเป้าหมาย 6 พันล้านบาท เผยอยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรปล่อยสินเชื่อเพื่อนบ้าน เน้นเจาะประเทศกัมพูชา-เมียนมา(ข่าวหุ้น)

AOT นัดคุย ILINK วันนี้ มีลุ้นคว้างานระบบ APM
+ วันนี้จับตา ILINK เจรจาต่อรองราคางานจัดซื้อและติดตั้งระบบ APM สนามบินสุวรรณภูมิของ AOT มีลุ้นคว้างานหากยอมลดต่ำกว่าราคากลาง 2,895 ล้านบาท ส่วน Q2 คาดกำไรพุ่ง เหตุรับรู้รายได้งานวิศวกรรมโครงการ-โทรคมนาคมเพิ่มขึ้น(ข่าวหุ้น)

5 หุ้นแกร่งวิ่งรับเป้าใหม่ PTTGC-SCC เด่นนำทีม
+ 5 หุ้นพื้นฐานแกร่ง วิ่งรับราคาเป้าหมายใหม่ "PTTGC-SCC" นำทัพกลุ่มบลูชิพ โดย PTTGC ได้อัพเกรดเป้าราคา 86 บาท ส่วน SCC คว้าเป้าราคา 615 บาท คาดงบปีนี้แจ่ม! ส่วนกลุ่มหุ้นขนาดกลาง "WORK-MTLS-GFPT" ลุ้นกำไรเด่น(ข่าวหุ้น)

PK แบ็กล็อกแน่น จ่อบุ๊กเข้าพอร์ต ใส่เกียร์ลุยอินโด
+ PK มั่นใจผลงานปี 2560 เติบโตโดดเด่น หลังตุนยอด Backlog สูงกว่า 2 พันล้านบาท และเตรียมรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ทั้งหมด ใส่เกียร์ลงทุนตั้งโรงงานในอินโดนีเซีย พร้อมเปิดช่องร่วมลงทุนกับพันธมิตรท้องถิ่น ฟากโบรกส่องแนวต้าน 6.50 บาท (ทันหุ้น)

CBG โชว์ผลงานครึ่งปีโดดเด่น เนื้อหอมต่างแดนรุมจีบ
+ CBG ยิ้มรับครึ่งปีแรกผลงานโดดเด่น เปิดแผนรุกหนักขยายฐานยุโรป หลังกระแสตอบรับดีเกินคาด ล่าสุดผู้ประกอบการต่างชาติขอเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าคาดชัดเจนไตรมาส 2 นี้ เล็งรุกหนักตลาดสหรัฐ มองการเติบโตสูง เร่งอัพกำลังการผลิตรับออเดอร์ ฟากโบรกให้แนวต้านที่ 69.00 บาท
(ทันหุ้น)

UV ซุ่มดีลแตกไลน์ธุรกิจ ปักธงรายได้พุ่งทะยาน 15%
+ UV ซุ่มดีลซื้อกิจการแตกไลน์ธุรกิจ ปูทางโกยเงินระยะยาว พร้อมทุ่มงบ 2.75 พันล้านบาท ช็อปที่ดินแปลงสวยเพิ่ม เดินหน้าผุดโครงการใหม่ 2.55 หมื่นล้านบาท เติมแบ็กล็อกจากเดิมราว 4.07 พันล้านบาท กินยาวถึงสิ้น Q4 นี้ ส่วนปี 2560 ย้ำเป้ารายได้โต 10-15% จากปีก่อน โครงการรอบุ๊กเพียบ-ธุรกิจสังกะสีหนุน ด้านโบรกชี้สตอรี่เด่น อนาคตไกล 12 บาท (ทันหุ้น)

SMIT งานเครื่องบินเข้า ชูโครงการรัฐหนุนกำไร
+ SMIT การันตี Q2/2560 ผลงานโตแกร่ง หลังบุ๊กออเดอร์ล็อตใหม่จากอุตสาหกรรมการเกษตร-กลุ่มคอนซูเมอร์โปรดักต์ แถมเริ่มรับออเดอร์งานชุบแข็งชิ้นส่วนเครื่องบินล็อตแรกซึ่งให้มาร์จิ้นสูงถึง 70% จับตา Q3-4/2560 โตฉลุย ชี้บิ๊กโปรเจ็กต์ภาครัฐหนุนการลงทุนใหม่ๆ เพิ่มขึ้น พร้อมยิ้มรับกลุ่มยานยนต์ฟื้นตัว เชื่อปั๊มฐานลูกค้าทะลุ 2,000 ราย มั่นใจทั้งปีโต 10% (ทันหุ้น)

นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!