- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 May 2017 17:21
- Hits: 2533
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1570 และ 1580 แนวรับ 1560
SET Index: 1562.98 ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทะลุผ่านแนวต้านที่ 1560 จุดขึ้นไป แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังมีความเสี่ยงในการถูกขายทำกำไร โดยมีแนวรับที่ 1560 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1550 จุด และมีแนวต้านถัดไปที่ 1570 และ 1580 จุด ถ้าปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบ น่าจะมีความเสี่ยงในการถูกขายต่อเนื่อง
แนวต้าน : 1564 และ 1568
แนวรับ : 1560 และ 1555
BANPU = 18.00 / 18.20, PTT = 390 / 395, CPALL = 62.50 / 63.00, SUPER = 1.70 / 1.75, BDMS = 18.20 / 18.60
Eastern Technical Engineering (ETE TB; THB 4.00) – ซื้อ
แนวต้าน : 4.24 และ 4.40
แนวรับ : 4.00 และ 3.94
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้นไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิม แต่ไม่ได้ทำจุดต่ำสุดใหม่เกิดขึ้น
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ ETE โดยมีแนวรับที่ 4.00 และ 3.94 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.24 และ 4.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.84 ลงไป
Interlink Communication (ILINK TB; THB 14.80) – ซื้อ
แนวต้าน : 15.50 และ 16.20
แนวรับ : 14.80 และ 14.60
ราคาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 40
แนะนำซื้อ ILINK โดยมีแนวรับที่ 14.80 และ 14.60 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 15.50 และ 16.20 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 14.20 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…โรงพยาบาล อาหาร-เครื่องดื่มและโรงแรม ยังไม่ขึ้น
งบ Q1/17 ที่ทยอยออกมาหมดแล้ว แม้จะออกมาดีในแง่ YoY แต่กลับทรงๆ ตัวหากเทียบ QoQ% งบ Q1/17 ที่ออกมาได้ส่งผลให้อัตราการทากำไรปี 2017 ของตลาดหุ้นไทยค่อยๆ ขยับตัวเพิ่มขึ้นแต่ในอัตราที่ช้ามากเมื่อเทียบกับภูมิภาค อย่างไรก็ตามอัตราการทำกำไรของภูมิภาคไม่รวมญี่ปุ่น ล่าสุดเริ่มทรงๆ ตัว หลังดีดตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี เรามองว่า (ดูรูปด้านซ้าย) หลังจากนี้มีโอกาสสูงที่จะเริ่มเห็นการกระจายการลงทุนมายังตลาดที่ยังโตได้ไม่มาก (แต่เริ่มฟื้นตัว) อย่างตลาดหุ้นไทย
ในบรรดาหุ้นในกลุ่มหลักๆ ของไทย พบว่านับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน หุ้นกลุ่มหลักยังขึ้นได้ไม่มาก โดยตอนนี้ที่ขึ้นได้มากที่สุดหรือ Outperform คือ สื่อสาร (+8%) ตามมาด้วย ชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกค์ (+7%) อสังหาริมทรัพย์ (+5%) ธนาคารพาณิชย์ (+4%) และพลังงาน (0%) ส่วนที่ยังติดลบ คือ ค้าปลีก ท่องเที่ยว อาหาร-เครื่องดื่มและโรงพยาบาลที่ลงไปถึง -15% เราจะสังเกตุได้ค่อนข้างชัดว่า กลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังติดลบ ส่วนใหญ่เป็นหุ้นที่โตจากภายใน ซึ่งยังเผชิญกับแรงกดของแรงซื้อรากหญ้าที่ยังไม่ฟื้น ทั้งจากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาหนี้ภาคครัวเรือนและการขาดมาตรการกระตุ้น แต่อย่างไรก็ตามหลังรัฐบาลออกมาตรการด้านภาษี น่าจะช่วยเพิ่มกำลังซื้อของคนเหล่านี้ได้ระดับหนึ่ง
ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมที่อิงกับปัจจัยภายนอก อย่าง สินค้าโภคภัณฑ์ สินค้าเทคโนโลยี และน้ำมัน ตลาดยังคาดว่าจะยังทรงๆ ในช่วงนี้แล้วจะดีดตัวขึ้นกลับในช่วงครึ่งปีหลัง หากเห็นความชัดเจนของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐขณะที่เศรษฐกิจจีนถึงแม้จะมองว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่เป็นการชะลอแบบค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นหุ้นในกลุ่มนี้คาดจะยังเป็นกลุ่มที่นำตลาด เพียงแต่จะขึ้นมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับอัตราการขึ้นที่ผ่านมาหรือการประเมินความถูกความแพง โดยกลุ่มที่นักลงทุนมองว่าดีที่สุดในปีนี้ คือ กลุ่มเทคโนโลยี ตามมาด้วยพลังงานและวัตถุดิบ ส่วนในครึ่งปีหลัง หากเศรษฐกิจภายในของเราเริ่มฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นการลงทุน หุ้นที่โตจากภายใน น่าจะ Outperform เนื่องจากมองกันว่าจะเป็นกลุ่มที่หลีกเลี่ยงจากนโยบายกีดกันของสหรัฐได้ระดับหนึ่ง
การที่ดัชนี SET ขึ้นมายืนเหนือ 1550 จุด ได้ถือเป็นสัญญาณในเชิงบวกแม้ต่างชาติจะยัง ซื้อๆขายๆ ปัจจัยที่จะหนุนดัชนีในช่วงนี้ คือ หุ้นพลังงาน ธนาคารและหุ้นที่ยังไม่ขึ้นในหลายๆ กลุ่ม อย่าง โรงพยาบาล โยงท่องเที่ยว และอาหาร-เครื่องดื่ม อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังมีอยู่ ทั้งกรณีการเมืองในสหรัฐและปัญหาความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี แต่ทั้ง 2 ปัญหานี้ดูเหมือน ตลาดจะย่อยข่าวไปบ้างแล้วในกรณีไม่รุนแรง ดังนั้นหาก 2 กรณีนี้ยังอยู่อย่างนี้ ก็ไม่น่าส่งผลกับตลาด ซึ่งจะทำให้ดัชนี SET ค่อยๆดีดดัวขึ้น
หุ้นที่เรามองว่าน่าจะยังมีแรงซื้อเข้ามา คือ ธนาคาร โรงพยาบาล อาหาร-เครื่องดื่ม และรับเหมา นอกนั้นจะเป็นพลังงานใหญ่ เพื่อรับข่าวการประชุมกลุ่ม OPEC วันนี้มองดัชนี SET น่าจะยังมีโมเมนต้มในการขึ้นต่อจากแรงหนุนของดัชนีในภูมิภาคและราคาน้ำมันโดยมองแนวต้านที่ 1565-1570 และแนวรับที่ 1554-1550 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร CPN CK LH และ BJC
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,562.98 จุด เพิ่มขึ้น 5.25 จุด (+0.34%) มูลค่าการซื้อขาย17,039.02 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นต่อเนื่อง โดยมีแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนวิตกกังวลหลังเกิดเหตุก่อการร้ายในประเทศอังกฤษ ติดตามการประชุมกลุ่มโอเปก (25 พ.ค.นี้)
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งขึ้นต่อเนื่อง หลังจากที่ SET สามารถทะลุแนวต้าน 1560 จุดขึ้นมาได้ โดยจะหนุนให้เกิดสัญญาณซื้อเก็งกำไรต่อเนื่อง และจะมีแนวต้านถัดไปที่ 1575จุด เรามองกลุ่มใหญ่ภาพรวมเริ่มเกิดแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นกลุ่มธนาคารและพลังงานขนาดใหญ่ หลังจากที่ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จับตาดูการไหลกลับเข้ามาของเงินลงทุนต่างชาติ หากกลับมาเป็นยอดซื้อสุทธิด้วยจะช่วยยืนยันสัญญาณบวก เรามองกลุ่มธนาคารมีโอกาสดีดตัวขึ้นต่อ หลังรับรู้ปัจจัยลบเรื่องการลดดอกเบี้ยไปแล้ว รวมถึงหุ้นกลุ่มโรงกลั่นก็กำลังจะเข้าสู่ช่วง High season ของธุรกิจซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นเช่นกัน เราแนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรตาม โดยมอง SCB, IRPC, SPRC น่าสนใจ
Technical Pick (PM) ...
Eastern Technical Engineering (ETE TB; THB 4.00) – ซื้อ
Interlink Communication (ILINK TB; THB 14.80) – ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 – [email protected]/ [email protected]