- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 23 May 2017 17:13
- Hits: 1162
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : Commodities WoW, DW Report, LPH
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI
ทำกำไรระยะสั้นหากไม่ทะลุ 1560-1563 ระยะกลางยาวถือต่อและรอซื้อเพิ่มเมื่ออ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดีตามบรรยากาศการลงทุนในภาพรวมที่เริ่มคลายกังวลหลังจากรับรู้ข่าวลบไปมากแล้วในช่วงก่อนหน้า นำโดยกลุ่มธนาคารที่ปรับตัวขึ้นหลังรายงานตัวเลขการเติบโตสินเชื่อเดือนเม.ย.ที่ดีกว่าคาด โดยแรงซื้อส่วนใหญ่มาจากฝั่งสถาบันในประเทศหลังจากที่ปรับพอร์ตไปแล้ว ขณะที่นักลงทุนต่างชาติเริ่มพลิกมามียอดซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและฟิวเจอร์ส
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index ยังมีแนวโน้มแกว่งตัว Sideway หลังจากที่ดีดตัวขึ้นแรงพอควรวานนี้และคาดว่าเหตุระเบิดที่รพ.พระมงกุฎเกล้าจะกระทบจำกัด ขณะที่กลุ่มพลังงานน่าจะยังพยุงตลาดได้อยู่จากความคาดหวังว่า OPEC จะตกลงขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 25 พ.ค. นี้ และรอดูรายงานการประชุม FED ครั้งล่าสุดที่จะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ว่าจะมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยอย่างไร ขณะที่ด้านเทคนิคหากดัชนีสามารถทะลุผ่านแนวต้านบริเวณ 1560-1563 จุดขึ้นไปจะทำให้สัญญาณเป็นบวกชัดเจน แต่หากไม่คาดว่าจะเห็นการแกว่งตัวพักฐานก่อน
กลยุทธ์ : ระยะสั้น ทำกำไรหากไม่ทะลุแนวต้าน ระยะกลาง-ยาว เน้นถือต่อเนื่องและซื้อหุ้นพื้นฐานดีเพิ่มตามแนวรับ
แนวรับ 1555-1553 , 1550 จุด
แนวต้าน 1560-1563 , 1565
หุ้นเด่นทางเทคนิค : TNR, LOXLEY, BEAUTY (short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคและเข้าทุกประเทศรวม US$381ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$267ล้าน อินโดนีเซีย US$51ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้าแต่น้อยที่สุด US$5.1ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอลงเนื่องจากวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ระเบิดที่เมืองแมนเชสเตอร์ซึ่งมีผู้เสียชีวิต
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(0) ปัจจัยต่างประเทศน่าติดตาม คืนนี้มีประธาน Fed 3 สาขาที่ให้ความเห็นทางเศรษฐกิจและการขึ้นดอกเบี้ย และติดตาม Fed Minutes จะเป็นลบหากพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยมากกว่า 3 ครั้งในปีนี้และการลดขนาดงบดุลเฟด ส่วนการประชุม OPEC และ Non-OPEC จะเซอร์ไพร้ส์ในเชิงบวกหากกลุ่มผู้ผลิตเพิ่มปริมาณการลดกำลังการผลิตและขยายเวลาการลดการผลิตจาก 6 เดือนเป็น 9 เดือน (ถึง มี.ค. 2018) ส่วนเหตุระเบิดที่แมนเชสเตอร์คาดมีผลจำกัดต่อตลาดหุ้นไทย แต่กระทบอัตราแลกเปลี่ยนทำให้เงินปอนด์อ่อน และเงินบาทกลับขึ้นมาแข็งค่าและยังมีทิศทางแข็งค่าต่อ (เงินไหลเข้า EM) ส่วนการประชุม กนง.พรุ่งนี้ คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%
(0) ส่งออก เม.ย. ต่ำคาดแต่อยู่ในเกณฑ์ดี +8.5% Y-Y ขณะที่ตลาดคาด +11% Y-Y แต่ถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีเพราะงวด 4M17 ยังขยายตัวได้ 5.7% Y-Y ในช่วงที่เหลือของปีต้องส่งออกให้ได้เฉลี่ย US$1.83 หมื่นล้านเหรียญ/เดือน ส่งออกปีนี้จึงจะโตได้ 2% ตามธปท.คาดการณ์ สำหรับสินค้าส่งออกเดือน เม.ย. ที่โตดียังคงเป็นสินค้าเกษตรซึ่งโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 ขณะที่การส่งออกรถยนต์และส่วนประกอบหดตัวแรง
(-) กลุ่มยานยนต์ ยอดส่งออกรถยนต์ เม.ย. ทรุดหนัก -14% Y-Y ลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 10 ตามค่าเงินที่ผันผวน ส่วนยอดขายในประเทศทรงตัว ทำให้ยอดผลิตใน 4M17 เป็น 606,028 คัน คิดเป็น 30% ของเป้าทั้งปีของ ส.อ.ท. ที่ 2 ล้านคัน ซึ่งน่าจะเริ่มมี downside ราคาหุ้นกลุ่มยานยนต์ที่ +7% YTD สะท้อนความหวังเชิงบวกมากไป PE ปัจจุบันที่ 16 เท่าใกล้เคียงค่าที่เหมาะสมระยะยาวแล้ว เราให้น้ำหนัก Underweight
(0) LPH การเติบโตของกำไรผ่านจุดสูงสุดไปแล้วในปีที่ผ่านมาด้วยอัตรา 55% Y-Y แต่การเปิดอาคารใหม่ในเดือน ก.ค. ทำให้ต้นทุนบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งกดดันกำไรใน 1Q17 ไปแล้ว เราปรับกำไรปกติปีนี้ลง 15% เหลือ 165 ล้านบาท +5.7% Y-Y ปรับราคาพื้นฐานลงเหลือ 9.50 บาทจาก 10.50 บาท (DCF) ลดคำแนะนำเป็นถือ จากซื้อ ทั้งนี้ ประมาณการของเราไม่รวมกำไรจากการขายที่ดิน การเพิ่มการจ่ายเงินของสำนักงานประกันสังคมซึ่ง LPH จะได้ประโยชน์มากที่สุด
(+) BANPU แม้ราคาถ่านหินจะปรับลงเหลือ US$73.47/ตันสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ราคาเฉลี่ย 2QTD ยังอยู่ระดับสูงที่ US$80.5/ตัน -3.6% จากราคาเฉลี่ยใน 1Q17 แนวโน้มราคาถ่านหินน่าจะค่อยๆขยับขึ้นจากการ re-stock ของจีนหลังจากสต็อกเหลือค่อนข้างต่ำ ส่วนกำไร 2Q17 น่าจะทรงตัว Q-Q เพราะธุรกิจถ่านหินที่ลดลง ชดเชยได้จากโรงไฟฟ้าที่ดีขึ้นเพราะเลื่อนหยุดซ่อมไปเป็น 4Q17 แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 24 บาท
(+) ITEL งาน Opp Day วานนี้ยังไม่มีประเด็นใหม่ แต่เราคาดกำไรโตโดดเด่นต่อเนื่องใน 2Q17 คาด +30% Q-Q แต่ทรงตัว Y-Y เพราะฐานกำไร 2Q16 สูง การลงทุนสร้างเสาโทรคมนาคมในพม่าที่ล่าช้าเพราะถูกลูกค้าต่อราคา คาดได้ข้อสรุป 2 สัปดาห์ข้างหน้าซึ่งเรายังไม่รวมในประมาณการ ส่วน Data Center แห่งที่ 2 (ทำร่วมกับ WHA และ AIT) คาดเริ่มรับรู้รายได้ใน 2H17 ราว 15-20 ล้านบาทต่อปี เรายังคาดกำไรทั้งปี +121% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 7 บาท แนะนำซื้อ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
24-25พ.ค.
- การประชุม OPEC และ Non-OPEC
24 พ.ค.
- ไทย: กนง.ประชุม (คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (เม.ย.), FOMC Meeting Minutes
25 พ.ค.
- เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
26 พ.ค.
- สหรัฐ: 1Q17 GDP
29 พ.ค.
- ไทย:ดุลการค้า (เม.ย.)
30 พ.ค.
- ฝรั่งเศส:ยอดขาย
31 พ.ค.
- ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.
- จีน:Manufacturing PMI (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการว่างงาน (เม.ย.)
- สหรัฐ: Fed Beige Book
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกนำโดยกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มผู้ผลิตอาวุธหลังสหรัฐฯ สามารถตกลงซื้อขายอาวุธมูลค่า 1 แสนล้านดอลลาร์กับซาอุฯได้ อีกทั้ง ยังมีแรงหนุนจากราคาน้ำมันเนื่องจากตลาดคาดว่าผู้ผลิตน้ำมันจะสามารถตกลงกันได้ ในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.นี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ นำโดยกลุ่มส่งออกเนื่องจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้น
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสมในกรอบแคบๆจากความกังวลเหตุการณ์ระเบิดที่อังกฤษ
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.28-34.34 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 0.40 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 50.73 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ว่ากลุ่มผู้ผลิตจะสามารถร่วมมือกันขยายระยะเวลาลดการผลิตออกไปในการประชุมวันที่ 25 พ.ค.นี้
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 7.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,261.40 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์สะท้อนความเสี่ยงด้านการเมืองสหรัฐฯ
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research