- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 May 2017 17:58
- Hits: 2530
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย และค่อย ๆ อ่อนตัวลงมาทาจุด ต่าสุดของวันที่ 1545.23 จุด ลดลง 0.65จุด ก่อนที่จะดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง แกว่งแคบ ๆ ที่ยืนในแดนบวกได้ตลลอดทั้งวัน โดยได้แรงซื้อจากหุ้นในกลุ่มพลังงาน แบงก์ และอาหาร มีจุดสูงสุดของวันที่ 1552.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.35 จุด ทาให้ทั้งวันมีกรอบการเคลื่อนไหวที่ 7 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการปรับตัวขึ้นของดัชนีได้แก่ BANPU, KBANK, PTT, MINT, BEC ก่อนดัชนีจะทาปิดที่ 1549.64 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 34,180 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีลงทาจุดต่าสุดวันแรกของสัปดาห์ที่ 1531 จุด และสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ถึงแม้จะมีพักระหว่างทางด้วยการแกว่งตัวออกข้าง ที่ยังทรงตัวยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้ และขึ้นทำ High 1552 จุดถึง 2 ครั้ง ยังไม่สามารถผ่านได้ แต่เชื่อว่าด้วย สัญญาณต่าง ๆ ที่เริ่มกับมาอยู่ในเชิงบวก ทาให้เชื่อว่าการฟื้นตัวต่อนั้นยังคงมีอยู่โดยมีเป้าหมาย 1558-1560 จุด แต่หากดัชนีเลือกที่จะลงบริเวณ 1535 จุด ไม่ควรหลุด ซึ่งเป็นลบภาพการฟื้นตัวและเปิด Downside ระยะสั้นมีแนวต้าน 1552-1555 จุด แนวรับ 1540-1545 จุด
แกว่งตัวผันผวน - มีโอกาส Rebound ต่อ
Support 1545 // 1534 จุด Resistance 1570-1580 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124 Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
(+) Aviation + Tourism : จำนวนนักท่องเที่ยวเดือน เม.ย.2017 เติบโต 7% YoY หลักๆ โตจากยุโรป และอเมริกา
(+) CK : งานเข้ามามากในช่วงครึ่งปีหลัง
(0) TMT : แนวโน้มผลการดำเนินงาน 2Q17 จะถูกกดดันจากราคาเหล็กที่ปรับลง
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
แม้ความเสี่ยงด้านการเมืองของสหรัฐฯจะยังมีผลต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่การรับรู้ที่มีไปมากแล้ว และยังไม่ได้มีอะไรใหม่ๆเข้ามา การเดินหน้าทำข้อตกลงทางการค้ากว่า 1 แสนล้านเหรียญ จากการเดินทางเยือนประเทศซาอุฯของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ถูกมองเป็นบวกต่อตลาด และทางซาอุฯเองก็จะจริงจังกับการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายมากขึ้น
สัปดาห์นี้ ตลาดต่างประเทศ จะให้ความสนใจและรอดูตัวแปรทางเศรษฐกิจหลายตัว อาทิ รายงานการประชุม FOMC ที่ประชุมไปเมื่อ 3-4 พ.ค. และจะเปิดเผยรายงานในวันที่ 25 พ.ค. ซึ่งจะเป็นตัวแปลหนึ่งที่บ่งชี้ถึงโอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุม FOMC เดือน มิ.ย. รวมถึงการประชุม OPEC เพื่อยืนยันตามที่เป็นข่าวม่าอนหน้านี้ ว่าจะลด (คง) กำลังการผลิตไปถึงเดือน มี.ค.61
ราคาน้ำมันดิบ WTI ขึ้นมาแตะระดับ $50 เหรียญ ได้แล้วจากข่าวลดกำลังการผลิตของกลุ่ม OPEC เป็นบวกต่อตลาดและจะเป็นบวกมาถึงหุ้นน้ำมัน-ปิโตรเคมีของไทยด้วย (ยกเว้น PTTEP ที่มีข่าวถูกฟ้องจากทางการประเทศอินโดนีเซีย)
เราประเมินในส่วนของปัจจัยต่างประเทศว่า ความเสี่ยงของตลาด หากไม่รวมถึงปัจจัยการเมืองของสหรัฐฯ น่าจะทรงตัวจากสัปดาห์ การทดลองขีปาวุธของเกาหลีเหนือเมื่อวันอาทิตย์ ไม่น่ามีผลต่อตลาด สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำยังน่าจะเป็นตัวดึงดูดนักลงทุน แต่ในแง่ของตลาดหุ้นแล้ว เรามองว่าน่าจะเริ่มฟื้นตัวจากสัปดาห์ก่อน
ปัจจัยในประเทศ ราคาหุ้นที่ขึ้น-ลง จากผลของงบการเงิน เราน่าจะเห็นการพลิกกับ คือขายทำกำไรหรือซื้อหุ้นกลับหลังราคาลงมามาก ทิศทางเศรษฐกิจ นักลงทุนอาจมีความลังเล จากการลงทุนของถาครัฐฯที่ดูจะชะลอออกไป และผลการดำเนินงาน 1q ของบริษัทในตลาดที่ออกมา บางตัวสะท้อนถึงการขาดแรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯหรือขาดกำลังซื้อ อาจเป็นตัวถ่วงตลาดในช่วงนี้ แต่คงต้องจับตาดู ความพยายามของภาครัฐที่จะกระตุ้นการลงทุนและใช้จ่าย ในลำดับต่อไป
ทิศทางตลาดหุ้นไทยวันนี้ น่าจะเห็นการฟื้นตัวของตลาดตามตลาดต่างประเทศและราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น และนักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นหลังจากที่ขายออกไปมากในช่วงก่อนหน้านี้ แต่แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศจากการลดความเสี่ยง อาจยังมีอยู่ ซึ่งจะทำให้การไต่ขึ้นของดัชนีฯ จะมีลักษณะค่อยเป็นค่อยไป
กลยุทธ์การลงทุน ภาพรวมๆของวันนี้ เราปรับเป็น "ถือ" จาก momentum ของการ rebound ของตลาดที่คาดจะยังมีต่อ ............ การเข้าลงทุน แนะให้เลือกตัวที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัวไว้ก่อน หรือมีแรงซื้อกลับของนักลงทุน ............... สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น BBL , BANPU , GFPT , BLA* , KCAR* , TACC* , TICON*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (19 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,549.64 จุด เพิ่มขึ้น 3.76 จุด +0.24% มูลค่าการซื้อขาย 34,179.90 ล้านบาท โดย Fund Flow เริ่มไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ หลังมีปัจจัยเสี่ยงการเมืองทั้งในสหรัฐฯ-บราซิล และยังติดตามการประชุมกลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ที่เชื่อว่าจะขยายระยะเวลาในการลดกำลังการผลิตน้ำมัน
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 20,804.84 จุด เพิ่มขึ้น 141.82 จุด หรือ +0.69% หลังจากที่ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเมืองสหรัฐ โดยมีการมองกันว่า นักลงทุนวิตกมากเกินไปเรื่องประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น +0.6% ปิดที่ 391.51 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 2.0% ปิดที่ 50.33 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันถูกลงและมีความดึงดูดมากขึ้นสำหรับผู้ที่ถือเงินสกุลอื่นๆ นอกจากนั้นยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะจับมือกันขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตต่อไป
เศรษฐกิจสหรัฐ - กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า การจ้างงานทั่วประเทศที่แข็งแกร่ง ได้ทำให้อัตราการว่างงานดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ใน 3 รัฐในเดือนที่แล้ว โดยอัตราการว่างงานได้ลดลงใน 10 รัฐในเดือนที่แล้ว ขณะที่เพิ่มขึ้นในรัฐเดียวคือ แมสซาชูเสตต์ และทรงตัวใน 39 รัฐ และการจ้างงานพุ่งขึ้นอย่างมากใน 9 รัฐ นำโดยเท็กซัส มินเนโซตา และวิสคอนซิน ขณะที่อินเดียนาเป็นเพียงรัฐเดียวที่การจ้างงานได้ลดลงอย่างมากในเดือนเม.ย.
เศรษฐกิจจีน-ไต้หวัน - กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า มูลค่าการค้าจีนและไต้หวันในไตรมาส 1/2560 อยู่ที่ระดับ 4.175 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบรายปี โดยยอดการส่งออกจากจีนไปไต้หวันมีมูลค่าทั้งสิ้น 9.34 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าจากไต้หวันอยู่ที่ 3.241 หมื่นล้านดอลลาร์ ปรับตัวขึ้น 16.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ไต้หวันเป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของจีน และเป็นประเทศที่จีนนำเข้าสินค้ามากที่สุดเป็นอันดับ 6
เศรษฐกิจไทย - ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานตัวเลขทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของไทย วันที่ 12 พ.ค.60 อยู่ที่ 183.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ จากวันที่ 5 พ.ค.60 ที่ 183.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเงินสำรองระหว่างประเทศในรูปเงินบาทวันที่ 12 พ.ค.60 อยู่ที่ 6,375.5 พันล้านบาท จาก 6,359.1 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 5 พ.ค.60
เศรษฐกิจไทย - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1/2560 ขยายตัวเร่งตัวขึ้นจากไตรมาสที่ 4/2559 ส่วนหนึ่งเกิดจากการขยายตัวของการลงทุนภาครัฐโดยเฉพาะการลงทุนรัฐวิสาหกิจที่ปรับตัวเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่น และผลักดันให้เศรษฐกิจไทยปี 2560 ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ยังขอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เร่งรัดการเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสหกิจไตรมาส 2/2560 ให้ขยายตัวต่อเนื่อง หลังจากที่ไตรมาส 1/2560 ขยายตัวได้ 17%
น้ำมัน - เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ เปิดเผยรายงานแท่นขุดเจาะน้ำมันรายสัปดาห์ พบว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ มีจำนวนเพิ่มขึ้น 8 แท่น สู่ระดับ 720 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2015 และเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 18 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นช่วงเวลายาวนานที่สุดเป็นอันดับ 2 การขุดเจาะน้ำมันที่เพิ่มขึ้น บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมดังกล่าวเป็นเวลา 12 เดือนติดต่อกัน ซึ่งจะช่วยให้การผลิตน้ำมันของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้
กลุ่มโรงพยาบาล - นายแพทย์โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ความคืบหน้าการจัดสรรงบประมาณที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข 5,000 ล้านบาท ว่า ศ.คลินิก เกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความเป็นห่วงปัญหาสภาพคล่องของโรงพยาบาล หลังจากรับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องวิเคราะห์สถานการณ์ พร้อมทั้งได้เสนอให้นายกรัฐมนตรีรับทราบและเข้าใจ จึงได้รับงบประมาณมาช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว 5,000 ล้านบาท พร้อมทั้งได้มอบนโยบายให้เร่งรัดการจัดสรรเพื่อช่วยสภาพคล่องในการบริหารจัดการของโรงพยาบาล และเน้นย้ำให้เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เพิ่มรายรับ ลดรายจ่ายของโรงพยาบาล ขณะเดียวกันประชาชนต้องได้รับประโยชน์และความสะดวกในการรับบริการด้วย
กลุ่มธนาคาร - นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้พิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.125% จาก 7.125% ต่อปี เหลือ 7% ต่อปี และลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เบิกเกินบัญชี (MOR) ลง 0.100% 7.100% ต่อปี เหลือ 7% ต่อปีเช่นกัน เพื่อเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล และช่วยลดภาระให้แก่ลูกค้าสินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อบุคคลของธนาคาร โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค. 2560 เป็นต้นไป
News Release :
เปิดโผ 9 หุ้นP/Eลดฮวบ ขานรับกำไรQ1โตแกร่ง SUPER-BANPU-PTTEP-GUNKUL-SQ นำทีม
+ เปิดรายชื่อ 9 หุ้น ค่า P/E ลดฮวบรับกำไรไตรมาสแรกโตแกร่ง SUPER นำทัพกลุ่ม SET โชว์ P/E ลดลงทะลัก 50 เท่า ฟาก "BANPU-PTTEP-GUNKUL-SQ" กำไรแน่นฉุด P/E ลงเยอะ ด้านกลุ่ม mai หุ้น "ETE-AMA-ACAP-ITEL" โดดเด่น(ข่าวหุ้น)
ORI ผนึกกำลัง"พราวด์ฯ" รุกตลาดคอนโดไฮเอ็นด์
+ "ออริจิ้นฯ" เทกโอเวอร์ "พราวด์ เรสซิเดนซ์" หวังผนึกกำลังรุกคอนโดฯไฮเอนด์แบรนด์ "PARK" เจาะตลาดลูกค้าต่างชาติ คาดซื้อหุ้นเสร็จสิ้น 31 ก.ค.นี้ หรืออย่างช้า 2 ต.ค. 60 ดันแบ็กล็อกพุ่ง 2.4 หมื่นล้านบาท จ่อบุ๊ครายได้ทันปีนี้(ข่าวหุ้น)
PLAT คาดQ2เด้ง ขึ้นค่าเช่าหนุนโต ซื้อเป้า 8.50 บาท
+ "PLAT" คาดแนวโน้ม Q2 โตไม่หยุด มั่นใจปีนี้รายได้ทะลุ 2,000 ล้านบาท โบรกฯคาด Q2 เติบโตจากการปรับขึ้นค่าเช่าศูนย์การค้าแพลทินัม บุ๊ครายได้ส่วนเพิ่มจากตลาดนีออน ลุ้นปีนี้ฟันกำไร 729 ล้านบาท เชียร์ "ซื้อ" เป้าราคา 8.50 บาท(ข่าวหุ้น)
GUNKUL ส่งซิกQ2แจ่ม! ขึ้นเอฟทีดันรายได้เพิ่ม
+ "GUNKUL" แย้มไตรมาส 2 โตต่อเนื่อง รับอานิสงส์ขึ้นค่าเอฟทีหนุนรายได้ขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 3-5% ลั่นเป้ารายได้ปีนี้พุ่ง 4.3 พันล้านบาท หลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม 60 MW เต็มปี เล็งประมูลงาน EPC ปีนี้ 4 พันล้านบาท(ข่าวหุ้น)
'SEAFCO' คว้างาน 200 ล้าน กูรูส่องฐานแกร่งเชียร์สะสม
+ SEAFCO พื้นฐานแกร่งประกาศคว้างานใหม่ 2 โครงการรวด มูลค่ารวม 200 ล้านบาท ด้านโบรกประเมินผลงานปีนี้ยังไปได้สวย พ่วงความสัมพันธ์อันดีกับทาง STEC และ RATCH นอนตีพุง ซดงานเสาเข็มระยะยาวหนุนรายได้กำไรพุ่งพรวด แนะ "ซื้อ" เคาะเป้าหมาย 13.00 บาท (ทันหุ้น)
'WHA' อัพเป้าขาย 1.4 พันไร่ ซุ่มเจรจาลูกค้าใหม่เพียบ
+ WHA ปรับเพิ่มเป้าหมายยอดขายที่ดินปีนี้ขยับเป็น 1.4 พันไร่ จากเดิมที่ 1 พันไร่ แย้มไตรมาส 2/2560 เตรียมโอนที่ดินกว่า 500 ไร่ คาดทั้งปีโอนได้ 1.2 พันไร่ กวาดรายได้ทั้งปี 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนแผนควบรวมกองทรัสต์ WHAPF และ WHART คาดแล้วเสร็จในเดือนพฤศจิกายนนี้
(ทันหุ้น)
MCS ส่งมอบงานล็อตใหญ่ หนุนผลงาน Q2 พลิกบวก โบรกมองพิกัด 19 บาท
+ MCS เล็งส่งมอบงานล็อตใหญ่ หนุนผลงาน Q2/2560 ฟื้นตัวพลิกกลับมาเป็นบวก จากการส่งมอบงานที่เพิ่มขึ้น ด้านโบรกส่องพื้นฐานแกร่ง เงินสดสูง 1 พันล้านบาท ขณะที่โครงการซื้อหุ้นคืนครั้งใหม่ วงเงิน 380 ล้านบาท คาดราคาเฉลี่ย 16.52 บาทต่อหุ้น สูงกว่าราคาตลาดเกือบ 12% เป็นสตอรีรอบใหม่ พร้อมเคาะเป้าหมาย 19 บาท (ทันหุ้น)
'AS' หาคู่ค้าบุกตลาดเกม จับตาปีนี้มีแววล้างขาดทุน
+ AS ซุ่มเจรจาพันธมิตรต่างประเทศเพื่อร่วมทุนต่อยอดธุรกิจ แถมเตรียมลงทุนธุรกิจใหม่ คาดสรุปภายในปีนี้ บิ๊ก "ปราโมทย์ สุดจิตพร" เล็งทั้งปี 2560 พลิกกำไร จ่อล้างขาดทุนสะสม ลุยเปิดเกมใหม่ 13 เกม ใน 6 ประเทศ พร้อมสยายปีกตลาดใหม่เมียนมา-กัมพูชา ชี้งบไตรมาส 2/2560 สดใสยอดดาวน์โหลดพุ่งจากไตรมาส 1/2560 พลิกกำไรรอบ 3 ปีที่ 10.07 ล้านบาท(ทันหุ้น)ราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์