- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 22 May 2017 17:44
- Hits: 2347
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : BJC
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI
ระยะสั้นเก็งกำไรหากทะลุ 1552 ระยะกลางยาวถือต่อและซื้อเพิ่มเมื่ออ่อนตัว
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังขยับบวกได้ต่อเนื่องอีกเล็กน้อยตามทิศทางของตลาดหุ้นภูมิภาคที่เริ่มรีบาวด์ได้บ้างหลังจากกังวลสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามดัชนียังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1552 จุดขึ้นไปได้ ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติเริ่มชะลอการไหลออกโดยเมื่อวันศุกร์มียอดขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดรวมบางลงเหลือราว 2.5 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะยังแกว่งตัว Sideway Up ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ฟื้นตัวได้ค่อนข้างดีหลังเริ่มคลายความกังวลเกี่ยวกับประเด็นความวุ่นวายการเมือง ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเปิดเผยรายงานการประชุม FED ครั้งล่าสุดในสัปดาห์นี้เพื่อดูสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ด้านเทคนิคหากดัชนีสามารถทะลุผ่านแนวต้านบริเวณ 1552 จุดขึ้นไปได้จะทำให้ภาพดูเป็นบวกมากขึ้นและมีโอกาสปรับตัวขึ้นเข้าหาแนวต้านถัดๆไป แต่หากไม่ผ่านเรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อในช่วงตลาดอ่อนตัว
กลยุทธ์ : ระยะสั้น ซื้อเก็งกำไรเมื่อทะลุ 1552 จุด ระยะกลาง-ยาว เลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีตามแนวรับ
แนวรับ 1545-1540 , 1535-1532 จุด
แนวต้าน 1552 , 1555-1560
หุ้นเด่นทางเทคนิค : EKH, EPG, CPN (short)
Fund Flow --
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) สินเชื่อ เม.ย. ดีกว่าตลาดคาดและสวนทางฤดูกาล +0.41% M-M ธนาคารที่มีสินเชื่อเติบโต อาทิ BAY, TMB, TCAP และ KBANK แต่ส่วนใหญ่ยังเป็นสินเชื่อระยะสั้น ขณะที่ TISCO สินเชื่อยังชะลอตามยอดขายรถ สำหรับสินเชื่อของทั้งกลุ่ม 4M17 พลิกกลับมาเป็นบวกที่ +0.13% เป็นครั้งแรกตั้งแต่ต้นปี นำโดย TMB +2%YTD (จากสินเชื่อรายย่อย) และ KKP +1.1%YTD (จากสินเชื่อใหม่ในกลุ่มธุรกิจและรายย่อย) เงินฝากเติบโตในอัตราที่สูงกว่าเงินให้สินเชื่ออีกครั้ง +0.62% M-M และ 4M17 +1.7%YTD เราคงคำแนะนำ Overweight มี Top Pick ได้แก่ KBANK (ราคาเหมาะสม 240 บาท) ส่วน TISCO (ราคาเหมาะสม 80 บาท) เริ่มเต็มมูลค่าระยะสั้นแนะนำ switch ไป KKP (ราคาเหมาะสม 71 บาท)
(+) MINT ทิศทางกำไร 2Q17 เป็นบวกมากขึ้น ธุรกิจโรงแรมในทุกภูมิภาคมี RevPar โตขึ้น Y-Y อย่างมีนัยยะ ส่วนธุรกิจอาหารในจีนและไทยยังเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตที่ดี กำไรปีนี้ที่คาด +23% Y-Y ยังเป็นไปได้ แนะนำซื้อ คงราคาเหมาะสม 43 บาท
(0) BJC เราปรับกำไรปีนี้ลง 12% เป็นเติบโต 49% Y-Y ลดลงจากเดิมคาดโต 68% Y-Y จากธุรกิจแก้วที่ไม่สดใสใน 1H17 และค่าเสื่อมราคาสูงขึ้นหลังประเมินมูลค่ากิจการของ BIGC ใหม่ ปรับลดราคาเหมาะสมลงเป็น 55 บาทจากเดิม 58 บาท ยังมี upside กว่า 30% จึงยังคงแนะนำซื้อ
(-) K แนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q17 คาดฟื้นเป็น 5-10 ล้านบาท จากขาดทุน 20 ล้านบาทใน 1Q17 แต่ลดลงจาก 14 ล้านบาทใน 2Q16 เนื่องจากงาน Interior ส่วนใหญ่จะรับรู้ตั้งแต่ 3Q17 เราปรับประมาณการกำไรสุทธิปีนี้ลง 14% เป็น 56 ลบ. และราคาเป้าหมายลดลงเป็น 6.40 บาท (เดิม 7.30 บาท) แนะนำ ถือ หรือหลีกเลี่ยงไปก่อน
(0) SPRC แนวโน้มกำไรปกติ 2Q17 ทรงตัวหรือลดลงเล็กน้อย Q-Q ตามค่าการกลั่น แต่กำไรสุทธิอาจลดลงขึ้นกับกำไรจากสต็อกน้ำมันซึ่งในไตรมาสแรกมีถึง 480 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม จุดเด่นของ SPRC นอกจากค่าการกลั่นที่สูงกว่าอุตสาหกรรมแล้ว Dividend yield ยังสูงกว่าโรงกลั่นอื่น เราคาดเงินปันผลปีนี้ 0.96 บาท/หุ้น คิดเป็น Yield 7.1% จ่ายปีละ 2 ครั้ง แม้หุ้นจะเต็มมูลค่าที่ 13.30 บาทแต่ยังแนะนำถือรับปันผล
(0) ORI แม้การซื้อพราวเรสซิเดนซ์จะเป็นบวกระยะยาวแต่ระยะสั้นมีภาระดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น EPS มี dilution 5% ราคาพื้นฐาน dilute เหลือประมาณ 12-13 บาท (ประชุมนักวิเคราะห์พรุ่งนี้) Upside ไม่มากพอจึงแนะนำเพียงถือ การซื้อพราวเรสซิเดนซ์ (บริษัทในกลุ่มลิปตพัลลภ) เป็นการขยายตลาดสู่คอนโดระดับบน เพิ่มฐานลูกค้าต่างชาติ ไม่ทับซ้อนกับของ ORI และเพิ่ม Backlog เป็น 2.4 หมื่นล้านบาท เพราะพราวเรสซิเดนซ์มี Backlog 1 หมื่นล้านบาท (รับรู้ปี 2017-20)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
23 พ.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (เม.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)
24 พ.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (เม.ย.), FOMC Meeting Minutes
25 พ.ค. - เกาหลีใต้:ธนาคารกลาง (BoK)ประชุม
26 พ.ค. - สหรัฐ: 1Q17 GDP
29 พ.ค. - ไทย:ดุลการค้า (เม.ย.)
30 พ.ค. - ฝรั่งเศส:ยอดขาย
31 พ.ค. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน เม.ย.
- จีน:Manufacturing PMI (เม.ย.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ และอัตราการว่างงาน (เม.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ปิดบวก หลังนักลงทุนคลายความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ และ มีแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปิดเหนือ US$50/บาร์เรล อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังเฝ้าติดตามรายงานประชุมเฟดครั้งก่อนในสัปดาห์หน้า
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกตามทิศทางตลาดหุ้นสหรัฐฯ เนื่องจากสถานการณ์การเมืองสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายมากขึ้น
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดบวกตามทิศทางตลาดโลก
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวในทิศทางอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.29-34.34 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 0.98 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 50.33 ดอลลาร์/บาร์เรล นับเป็นการปิดเหนือ US$50/บาร์เรล ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และ ความเป็นไปได้ในการปรับลดการผลิตในช่วง 2H17
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 0.80 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,253.60 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยมีแรงหนุนจากการอ่อนค่าของค่าเงินดอลลาร์
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research