- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 May 2017 17:04
- Hits: 12256
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน: Trading Range: 1,532-1,550
SET แข็งแกร่งกว่าตลาดหุ้นโลก ปรับลดลง -0.16% ปิดที่ 1,545.88 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.8 หมื่นล้านบาท ต่างชาติขาย 2 พันล้านบาท
เรามองอย่างไร:
SET แข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้วานนี้ แต่ไม่ได้ทำให้ความกังวลต่อการ "พักฐาน" ระยะสัปดาห์ที่แนวรับ 1,532 หรือ 1,520 +/- จุด หมดไป ไม่ว่าจะเป็น 1) Valuation สูงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต 2) กำไร 1Q17 น่าผิดหวัง และคาดว่าจะตามมาด้วย downward revision 3) ความเสี่ยงจากการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจทรัมป์ล่าช้า 4) ความผันผวนของกระแสเงินทุน ก่อน Fed ขึ้นดอกเบี้ยกลางเดือน มิ.ย.นี้ และ 5) รายงาน Pathumwan Corner วันนี้ เห็นว่าค่าความผันผวน (volatility) ของ SET ที่อยู่ในระดับต่ำมากๆ มักจะตามมาด้วยความ "ผันผวน" ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันค่าความผันผวนของ SET ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 30 ปีทีเดียว
ทำอะไรดี:
"Selective" กลุ่มหุ้นที่ผลการดำเนินงานเติบโตสูง (Growth plays) ได้แก่ LIT (สินเชื่อเติบโตสูง ออก warrant ปลดล็อกฐานทุน คาดกำไรเติบโตแกร่ง 60% ปีนี้ PE 16x ยังไม่แพง) SAWAD MTLS WORK ."เก็งกำไร" RS (TradeCode ให้ Let Profit Run) แนวต้าน 9.5/10.4...แม้กำไร 1Q17 ต่ำกว่าคาด แต่จะดีขึ้นตั้งแต่ 2Q17 จากทั้งธุรกิจ Digital TV ที่เข้าสู่ระดับ "คุ้มทุน" และธุรกิจ Health & Beauty ที่ยอดขายเร่งตัวขึ้น
Tactical Portfolio (1-3 months):
แนะนำ "ถือ" EA ESSO LIT MTLS KKP SAWAD SUSCO THANI และ WORK ต่อไป ขณะที่ "ถือ" เงินสดในสัดส่วน 10% ของพอร์ต (ไม่เปลี่ยนแปลง)
Fundamental:
GLOW: "ถือ" พื้นฐาน 85 บาท (ไม่เปลี่ยน)...แม้เราคาดว่ากำไรในช่วงที่เหลือของปีจะค่อยๆ ดีขึ้นหลังจาก 1Q17 ที่ -42% y-y และมีโอกาสที่จะขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่มองว่าแรงหนุนเหล่านี้จะไม่เพียงพอให้ราคาหุ้นปรับขึ้นได้แรงๆ เนื่องจากกำไรไม่มีการเติบโตในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยจุดเด่นหลักของ GLOW ยังเป็นเพียงปันผลสูง 7.4% ต่อปี
STANLY: "ซื้อ" พื้นฐาน 280 บาท...กำไร 4Q17FY ที่ 332 ล้านบาท +1% q-q และ -21% y-y ใกล้กับที่คาดไว้ ยังมองการเติบโตกำไรในระยะยาว เป็นปัจจัยบวกต่อการเข้าซื้อ STANLY
Pathumwan Corner: "The calm before storm" ความผันผวน (volatility) ของตลาดหุ้นที่ต่ำมากๆ ในอดีต มักตามมาด้วยความ "ผันผวน" ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งตรงกับ SET ในปัจจุบันที่มีค่าความผันผวน (Historical volatility ต่ำ) ใกล้จุดต่ำสุดรอบ 30 ปี ทำให้เรามีความกังวลต่อความ "ผันผวน" หรือการ "พักฐาน" ที่จะตามมาในเร็วๆ นี้
Technical Story: Technical SET range: 1,532-1,564
ยังคงมีลุ้นรีบาวด์ระยะสัน: (รายงาน The Technical Story)
SET เริ่มตั้งหลักที่เขตแนวรับ หุ้นธนาคาร Finance และ PTT หนุนตลาด แต่การรีบาวด์ยังไม่ผ่าน 1,550 จุด จะดีขึ้นถ้าทะลุ 1,552 จุดได้ จะมีด่านถัดไปที่ 1,559 และ/หรือ 1,564 จุด ส่วนแนวรับมีที่ 1,539 จุด หากยืนไม่อยู่มีโอกาสลงไปทดสอบ 1,536 และ/หรือ 1,532 จุด
หุ้นแนะนำ:
CPN เข้าซื้อที่ 65 บาท เป้าหมาย 67.50 บาท
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)
"ถือ" Short S50M17 เป้าหมาย 970 จุด...Trailing Stop 988 จุด
BlockTrade PLANB เป้าหมาย 6.20 / 6.40 บาท...Leverage 12 เท่า
TradeCode: Buy >PLANB, MC, UV
(ดูรายงาน Trade Code)
Tactical Portfolio (1-3 เดือน)
Tactical Portfolio : เน้นกลุ่มหุ้นที่คาดว่าจะ Outperform ตลาดในระยะ 1-3 เดือนข้างหน้าจาก 1) คาดการณ์กำไรเติบโตแข็งแกร่ง 2) มี reward to risk ratio น่าสนใจ กล่าวคือมี upside มากกว่า downside 3) ได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยในประเทศต่ำต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นปีนี้ ล่าสุดธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ MRR และ MLR ลง และ 4) มีโอกาสถูกปรับประมาณการกำไร และเป้าหมายพื้นฐานขึ้น ได้แก่ EA * (มีโอกาสถูกเพิ่มใน SET50 กำไรเติบโตสูงจากกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้น) ESSO (ราคาหุ้นสะท้อนผลกระทบจากการปิดโรงกลั่นบางส่วนไปแล้ว) LIT * (ออก Warrant เป็นการปลดล็อกการเติบโตสินเชื่อ) MTLS * (ขยายสาขาเชิงรุก เร่งปล่อยสินเชื่อหนุนกำไรโต 60% ปีนี้) KKP (ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ ปันผลสูงเกือบ 9%) SAWAD (สินเชื่อเติบโตสูง หนุนกำไรปีนี้โต 33%) SUSCO * (ค่าการตลาดดี PE ต่ำ 11x) THANI * (ความต้องการสินเชื่อรถบรรทุกเติบโตดี ขณะที่ต้นทุนการเงินต่ำลงจากการออกหุ้นกู้ดอกเบี้ยต่ำ และจะถูกเพิ่มใน MSCI Small Cap 31 พ.ค.นี้) WORK * (Rating ดีหนุนปรับขึ้นค่าโฆษณา เร่งกำไรโต 192% ปีนี้) ขณะที่คงสัดส่วนเงินสด 10% ของพอร์ต (ขาย AOT EASON JASIF KTB PLANB และ TMB ออกจากพอร์ต)...ดูรายละเอียดเพิ่มเติมใน Pathumwan Corner วันที่ 18 พ.ค.นี้
Siam Senses Portfolio (6-12 เดือน)
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
BEAUTY: เป็นหุ้น growth stock ที่ได้ประโยชน์จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง และได้ market share ที่สูงขึ้น
CPALL : ธุรกิจร้าน 7-Eleven ที่เติบโตสูง 22% ต่อปีช่วง 2016-19F จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายสาขาเดิม การขยายสาขาที่ยังไม่อิ่มตัวและการเพิ่มขึ้นของอัตรากำไรขั้นต้น
ESSO : ราคาต่ำกว่ามูลค่าสินทรัพย์สุทธิอยู่ถึง 67% และมีพัฒนาการด้านกำไรและกระแสเงินสดอย่างมีนัยสำคัญ
KBANK : ผ่านจุดแย่ที่สุดมาแล้ว ซื้อขายที่ P/BV ต่ำกว่าเฉลี่ยมากกว่า 20% กำไรฟื้นตัวแข็งแรงในปี 2018
KCE : ฐานธุรกิจกลุ่มรถยนต์ที่มั่นคง เติบโตจากการขยายโรงงานและ market share ที่มากขึ้น
MC : เป็นหุ้นที่มีการจ่ายปันผลสูง ผลักดันโดยผลการดำเนินงานที่ฟื้นตัว และฐานะการเงินที่เข้มแข็ง
STA : ราคายางโลกฟื้นจากภาวะอุปทานส่วนเกินลดลง และ STA ได้ประโยชน์ทั้งราคาขายและปริมาณการขายเพิ่มขึ้นจาก market share ที่มากขึ้น
SUSCO : เริ่มรุกขยายปั้มน้ำมันและเปิดพื้นที่ให้ร้านค้าเช่ามากขึ้น ROE อยู่ในช่วงขาขึ้น คาดกำไรเติบโต 19-26% ในปี 2017-19F
TMB : กำไรฟื้นตัวแข็งแกร่งหลังจากจัดการหนี้เสียส่วนใหญ่ในปีที่แล้ว ซื้อขายที่ P/BV ต่ำกว่าเฉลี่ยมากกว่า 20%
WORK : ด้วยรายการดิจิตอลทีวีที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนไปยังทีวีเรตติ้งสูงขึ้น ทำให้ WORK ปรับราคาขายนาทีโฆษณาได้อย่างต่อเนื่อง
อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล, CFA , [email protected], +66 2617 4991
วิชนันท์ ธรรมบำรุง [email protected], 02-617 4979
