- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 19 May 2017 16:34
- Hits: 854
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : BDMS, RS
Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI
เลือกหุ้นเข้าซื้อในช่วงลบ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งตัวในกรอบ 1540-1550 จุด โดยปิดตลาดปรับตัวลดลงเล็กน้อยเนื่องจากได้รับแรงกดดันจากประเด็นความขัดแย้งทางการเมืองของสหรัฐฯซึ่งกระทบความมั่นคงในตำแหน่งประธานาธิบดีของทรัมป์ แต่ตลาดหุ้นไทยถือว่ายังแข็งแกร่งกว่าภูมิภาคเนื่องจากปรับฐานลงมาค่อนข้างแรงในช่วงก่อนหน้าแล้วจากความผิดหวังของผลประกอบการ 1Q17 อย่างไรก็ตามกระแสเงินทุนต่างชาติยังไม่ไหลเข้าโดยวานนี้ขายสุทธิทั้ง 3 ตลาดรวมกันราว 3.5 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะยังแกว่งตัวออกข้างโดยยังต้องจับตาสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯแม้จะเริ่มผ่อนคลายขึ้นบ้างเล็กน้อย รวมถึงความผันผวนก่อนการประชุม FED ในการประชุมเดือนหน้า อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าดัชนีจะสามารถปรับตัวขึ้นได้ในระยะถัดไปจากกระแสเงินทุนที่มีโอกาสไหลกลับเข้าสู่ภูมิภาคเอเชียมากขึ้นจากภาพรวมเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึง SET ที่ปรับฐานลงมาพอสมควรแล้ว ขณะที่ด้านเทคนิควานนี้ยังไม่สามารถทะลุผ่านแนวต้าน 1550 จุดขึ้นไปได้ทำให้ภาพยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบเดิม เรามองว่าเป็นโอกาสในการเข้าซื้อในช่วงตลาดอ่อนตัว
กลยุทธ์ : ระยะสั้น ซื้อเก็งกำไรในช่วงตลาดอ่อนตัว ระยะกลาง-ยาว เลือกซื้อหุ้นพื้นฐานดีตามแนวรับ
แนวรับ 1540 , 1535-1532 จุด
แนวต้าน 1550-1552 , 1555-1560
หุ้นเด่นทางเทคนิค : UNIQ, BA, DELTA (short)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$138ล้าน นำโดยไต้หวัน US$141ล้าน และไทย US$60ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$40ล้าน และอินโดนีเซีย US$30ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจยังเบาบาง ความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองสหรัฐยังคงมีอยู่
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) กลุ่มประเทศ EM เป็นผู้ได้ประโยชน์หากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐไม่สามารถเป็นไปอย่างที่เคยคาดหวังไว้ กระแสเงินทุนน่าจะกลับมาไหลเข้าตลาดภูมิภาค สำหรับประเทศไทยมีความน่าสนใจด้านความแข็งแกร่งของฐานะการคลัง ดุลบช.เดินสะพัดที่ 12% ของ GDP สูงสุดในเอเชีย และสูงมากถ้าเทียบทั้งโลก เงินสำรองระหว่างปท.แข็งแกร่ง
(+) RS - คาดผลประกอบการ 2Q17 ฟื้นตัวสูงทั้ง Q-Q และ Y-Y จากยอดขายธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ H&B ที่เป็นตัวหนุนหลัก ซึ่งทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น Q-Q และโตก้าวกระโดด Y-Y ขณะที่รายได้ทีวีดิจิตอลกระเตื้องขึ้น ท่ามกลางการแข่งขันที่สูงและกำลังซื้อโดยรวมไม่ฟื้นตัว Y-Y เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2017-2018 ขึ้น 8-9% จากการเติบโตสูงของธุรกิจ H&B ธุรกิจทีวีดิจิตอลกระเตื้องขึ้น และการควบคุมต้นทุนธุรกิจเพลง คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2017 ที่ 10.80 บาท ปรับขึ้นจากเดิมที่ 10 บาท
(+) KKP - เริ่มมีความน่าสนใจในเชิง Valuation กว่า TISCO พิจารณาจาก 2017 ROE/PBV (Capital Yield) KKP อยู่ที่ 10% ส่วน TISCO อยู่ที่ 9% ขณะที่ KKP ให้ผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดการณ์สำหรับปี 2017 ที่ 8.8% (จ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง) ขณะที่ TISCO คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 4.5% (จ่ายปีละครั้ง)
(0) FN - เรามีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุม Opportunity Day วานนี้ แนวโน้ม SSSG 2Q17 น่าจะยังติดลบอยู่ แต่คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวได้จากรายได้สาขาใหม่ที่หาดใหญ่ และคาดเปิดสาขาฉะเชิงเทราในช่วง 3Q17 จะช่วยหนุนกำไร 4Q17 ซึ่งเป็น High Season บริษัทอยู่ระหว่างปรับกลยุทธ์เพื่อกระตุ้น SSSG โดยมีแผนออกสินค้าใหม่ ปรับ Mix สินค้า และพัฒนาทีมขาย คาดกำไรสุทธิปีนี้โต 21% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 7.5 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันคิดเป็น Forward PE ปีนี้ 31 เท่า และจะลดลงเป็น 24 เท่าในปีหน้า คงคำแนะนำ ซื้อ
(-) BDMS เรามีมุมมองเชิงลบมากขึ้นต่อแนวโน้มผลการดำเนินงานสำหรับ BDMS หลังรายได้เติบโตชะลอตัว ในขณะที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นซึ่งกดดัน Margin ทำให้ต้องแก้ปัญหาโดยการเจาะตลาดในภูมิภาคมากขึ้นเพื่อชดเชยตะวันออกกลางที่หายไป รวมถึงการควบคุมต้นทุนภายในและลดเม็ดเงินลงทุนที่ไม่จำเป็น เราปรับลดประมาณการกำไรปกติปี 2017 ลงเป็นหดตัว 5.9% Y-Y ขณะที่ช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะโตเฉลี่ยปีละเพียง 3% เท่านั้นซึ่งทำให้ความน่าสนใจลดลง เราปรับลดราคาเหมาะสมลงเหลือ 20 บาทและปรับคำแนะนำลงเป็น ถือ
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
19 พ.ค. - สิงคโปร์: 1Q17 GDP
23 พ.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (เม.ย.)
- ยูโรโซน: ถ้อยแถลงของประธาน ECB
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (เม.ย.)
24 พ.ค. - ไทย: กนง.ประชุม (คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ 1.5%)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (พ.ค.)
- สหรัฐ:ยอดขายบ้านเก่า (เม.ย.), FOMC Meeting Minutes
26 พ.ค. - สหรัฐ:GDP1Q17
30 พ.ค. -ฝรั่งเศส: GDP1Q17
31 พ.ค. -จีน: PMI ภาคการผลิตของจีน(เม.ย.)
-ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงาน (เม.ย.)
1 มิ.ย. -ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
2 มิ.ย. -สหรัฐฯ: ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร (เม.ย.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนฟื้นตัวได้เล็กน้อยหลังจากที่ร่วงแรงเกือบ 400 จุดในวันก่อนหน้า แต่ยังต้องติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนยังปิดลบเป็นวันที่ 2 โดยประเด็นกดดันยังคงมาจากความวุ่นวายทางการเมืองของฝั่งสหรัฐฯซึ่งทำให้ตลาดกังวลต่อนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่อาจไม่สำเร็จ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดในกรอบแคบหลังยังไร้ปัจจัยบวกใหม่ที่ชัดเจนเข้ามาหนุน
(-) ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.45-34.60 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 0.28 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดคาดหวังหวังว่ากลุ่ม OPEC จะมีการขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไป โดยจับตาดูการประชุมในกรุงเวียนนาสัปดาห์หน้า
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 5.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,252.80 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่พุ่งขึ้นแรงวานนี้และปรับตัวขึ้นมาติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้า แต่จากสถานการณ์การเมืองในสหรัฐฯที่ยังไม่ชัดเจน ทำให้ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวแถวระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530 Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research