- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 16 May 2017 18:23
- Hits: 912
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'อ่อนตัวเป็นจังหวะสะสมหุ้นดี'
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : ตลาดหุ้นไทยเมื่อวานนี้ยังร่วงต่อ 6.52 จุดปิดที่ 1537.42 แรงขาย Sell on fact ยังคงเกิดขึ้นต่อสถาบันในประเทศและต่างชาติขายสุทธิกลุ่มละ 500 กว่าล้านบาท หุ้นที่ปรับขึ้นส่วนใหญ่เป็นหุ้นเล็ก (มาก)
+ ซาอุฯ & รัสเซียหนุนให้ขยายเวลาลดการผลิตไปถึงมี.ค.61 หนุนราคาน้ำมันรีบาวด์ 2% เมื่อคืนนี้...หนุน Sentiment การลงทุนหุ้นกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี ซึ่งหุ้นเด่นในกลุ่มดังกล่าว คือ PTT, PTTEP, PTTGC ส่วน BCP เป็นหุ้นปันผลสูงในกลุ่มนี้ (คาด Yield 6% ในปีนี้)
• กำไรสุทธิ 1Q60 ที่รายงานแล้วราว 90% พบว่า +14%YoY, +30%QoQ แต่ถ้าไม่รวมกำไรกลุ่มโภคภัณฑ์ (พลังงานและปิโตรเคมี) พบว่ากำไรสุทธิโตเพียง +4%YoY และ +16%QoQ ซึ่ง In line กับที่เราประมาณการไว้ว่ากำไรสุทธิตลาดหุ้นไทยปีนี้จะ +4% จากฐานสูงในปีก่อน
+ PTT : กำไรสุทธิ 1Q60 +95%YoY, +142%QoQ เป็น 4.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากกำไร PTTEP โตก้าวกระโดด กำไรบริษัทร่วมในธุรกิจโรงกลั่น & ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นมาก (สเปรด HDPE, PP, BZ, PX ปรับขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยเฉพาะ BZ +61%YoY, +28%QoQ) และมีกำไรจาก FX หนุนด้วย หากพิจารณา EBITDA 1Q60 พบว่า +25%YoY และ +7%QoQ ในเชิงพื้นฐานยังคงแนะนำซื้อ TP 443 บาท
+ COM7 : กำไร 1Q60 +34%YoY เป็น 117 ล้านบาท ยอดขายโทรศัพท์หัวเหว่ย & ออปโป้ อุปกรณ์ & บริการต่างๆ ขยายตัวดี รวมทั้งเข้าซื้อกิจการ Telecom 999 ที่มี 44 สาขาด้วย มาร์จิ้นเพิ่มเล็กน้อยเป็น 13.6% แนวโน้มยังเติบโตได้ คาดกำไรปีนี้ +44% แนะนำซื้อ
+ AOT : กำไรงวดม.ค.-มี.ค.60 (2Q61) +16%YoY เป็น 6.4 พันล้านบาท ดีกว่าคาด โดยรายได้ +6%YoY EBIT Margin สูงขึ้นเป็น 58.7% เพราะค่าใช้จ่ายคงที่ & ค่าเสื่อมราคาลดลง ดอกเบี้ยจ่ายต่ำลง แนวโน้มดี ปริมาณผู้โดยสารเม.ย.ยัง +8.7%YoY แนะซื้อ ให้ TP 45.50 บาท
หุ้นกลยุทธ์ (พื้นฐานดี) แนะนำทยอยซื้อสะสมวันนี้เป็น PTT
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ แต่มีโอกาสรีบาวด์ การซื้อใหม่จึงเน้นตามด้วยค่าบวกเป็นสำคัญ แนวรับ 1530 กรณีรีบาวด์มีแนวต้าน 1540-1550, 1560
สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ MTLS, HANA, BH, MALEE ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ TISCO, SAWAD, EA, BDMS หุ้นแนะนำไปและให้หาจังหวะ Take Profit คือ KTB หุ้นหลุด List –ไม่มี-
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
+/• สหรัฐ : ความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. แต่ดัชนีภาคการผลิตแผ่วลง
# ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเพิ่มขึ้น 2 จุด แตะระดับ 70 ในเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย เนื่องจากผู้สร้างบ้านมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น แม้เผชิญกับปัจจัยลบหลายประการ เช่น การขาดแคลนแรงงาน และราคาวัสดุก่อสร้างที่ปรับตัวขึ้น
# เฟดเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index) เดือนพ.ค.60 ว่าปรับตัวลง 6 จุดสู่ระดับ -1.0 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่ระดับ 8.0
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : บวกขึ้น หนุนโดยราคาน้ำมันรีบาวด์
ดัชนี DJIA ปิดที่ 20,981.94 จุด เพิ่มขึ้น 85.33 จุด หรือ +0.41% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,149.67 จุด เพิ่มขึ้น 28.44 จุด หรือ +0.46% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,402.32 จุด เพิ่มขึ้น 11.42 จุด หรือ +0.48% ปัจจัยหนุนหลัก คือ การรีบาวด์ของราคาน้ำมันดิบ และเหตุการณ์โจมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์ราว 200,000 เครื่องใน 150 ประเทศทั่วโลก หนุนหุ้นที่ทำธุรกิจระบบไอที เช่น ซิสโก ซิสเต็มส์, ไฟร์อาย, ไซแมนเทค, พาโล อัลโต เน็ทเวิร์ค, เพียวฟันด์ ไอเอสอี ไซเบอร์ ซิเคียวริตีส์ เป็นต้น
+ ซาอุฯ & รัสเซียหนุนให้ขยายเวลาลดการผลิตไปถึงมี.ค.61 หนุนราคาน้ำมันรีบาวด์ 2% เมื่อคืนนี้
# นายคาลิด อัล-ฟาลีห์ รัฐมนตรีพลังงานซาอุดิอาระเบีย และนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานรัสเซียเปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า รัสเซียและซาอุดิอาระเบียได้เห็นพ้องที่จะขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไปจนถึงเดือนมี.ค.61 โดยการขยายระยะเวลาการปรับลดกำลังการผลิตครั้งนี้ มีเป้าหมายที่จะสนับสนุนให้ตลาดน้ำมันดิบทั่วโลกกลับสู่ภาวะสมดุลอีกครั้ง ทั้งนี้รัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่สุดของโลก และซาอุฯเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ในกลุ่มโอเปก ทั้งสองประเทศรวมกันมีกำลังผลิตราว 20 ล้านบาร์เรล หรือราว 1 ใน 5 ของปริมาณการใช้ของโลก
# เมื่อคืนนี้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.01 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 48.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้าน BRENT ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ หรือ 1.9% ปิดที่ 51.82 ดอลลาร์/บาร์เรล
• สัญญาทองคำ : ขยับขึ้นเล็กน้อย
นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีข่าวการโจมตีจากมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบคอมพิวเตอร์ในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งข่าวการทดสอบยิงขีปนาวุธครั้งล่าสุดของเกาหลีเหนือ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.30 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ 1,230 ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ :
• กำไรสุทธิตลาดหุ้นไทยงวด 1Q60 เติบโตเป็นเลขสองหลัก แต่ถ้าไม่รวมกลุ่มโภคภัณฑ์จะโตน้อยกว่า 5%
# กำไรงวด 1Q60 เติบโตสูงเพราะกลุ่มพลังงาน & ปิโตรเคมี บริษัทจดทะเบียนได้รายงานกำไรสุทธิ 1Q60 ออกมาแล้วราว 90% พบว่ามีการเติบโตในอัตรา +14%YoY, +30%QoQ แต่ถ้าไม่รวมกำไรกลุ่มโภคภัณฑ์ (พลังงานและปิโตรเคมี) พบว่ากำไรสุทธิจะขยายตัวเพียง +4%YoY, +16%QoQ ซึ่ง In line กับที่เราประมาณการไว้ว่ากำไรสุทธิตลาดหุ้นไทยปีนี้จะเพิ่มขึ้น 4% จากฐานสูงในปีก่อน
# กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิขยายตัวสูงทั้ง YoY และเติบโต QoQ ใน 1Q60 ได้แก่ ธุรกิจเกษตร (+100%YoY, พลิกจากขาดทุนใน 4Q59) นำโดย GFPT, TRUBB ธุรกิจค้าปลีก (+19%YoY, +3%QoQ) นำโดย BEAUTY, BJC, CSS, CPALL, LOXLEY, MAKRO, MEGA ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง (+16%YoY, +32%QoQ) นำโดย DCON, SCC ธุรกิจชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ (+22%YoY, +2%QoQ) นำโดย CCET, HANA, SVI ธุรกิจพลังงาน (+40%YoY, +81%QoQ) นำโดย BCP, EA, GUNKUL, PTTEP, SGP, SPRC, TOP, WHAUP ธุรกิจไฟแนนซ์ (+40%YoY, +11%QoQ) นำโดย GL, MTLS, SAWAD ธุรกิจชิ้นส่วนและเครื่องจักรอุตสาหกรรม (+326%YoY, +32%QoQ) นำโดย CTW, PK ธุรกิจปิโตรเคมี (+100%YoY, +36%QoQ) นำโดย PTTGC, VNT
# กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีกำไรสุทธิ 1Q60 ลดลงทั้ง YoY และ QoQ ได้แก่ ชิ้นส่วนยานยนต์, รับเหมาก่อสร้าง, แฟชั่น, เฟอร์นิเจอร์, ประกันภัย, สื่อ, ผลิตภัณฑ์ยา, อสังหาริมทรัพย์, เหล็ก
+ PTT (ราคาปิด 386 บาท) : กำไรสุทธิ 1Q60 ออกมาดีเกินคาด
# กำไรสุทธิ 1Q60 ขยายตัวแกร่ง +95%YoY และ +142%QoQ เป็น 4.6 หมื่นล้านบาท เนื่องจากบริษัทย่อย คือ PTTEP มีกำไรเติบโตก้าวกระโดด กำไรบริษัทร่วมในธุรกิจโรงกลั่น & ปิโตรเคมีเพิ่มขึ้นมาก โดยเฉพาะ PTTGC ซึ่งกำไรเติบโตสูง YoY เพราะในงวด 1Q59 มีการปิดซ่อมบำรุงทั้งในแผนและนอกแผน นอกจากนั้นสเปรดของผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีก็เพิ่มขึ้นด้วยทั้ง HDPE, PP, BZ, PX ซึ่งปรับขึ้นทั้ง YoY และ QoQ โดยเฉพาะ BZ ที่สเปรดเพิ่มมากที่ +61%YoY, +28%QoQ ผนวกกับมีกำไรจาก FX ช่วยหนุนด้วย
# EBITDA เติบโตดีตามคาดในงวด 1Q60 และคิดเป็น 25% ของคาดการณ์ทั้งปี หากพิจารณากำไรจากการดำเนินงานที่เป็นเงินสด หรือ EBITDA ของงวด 1Q60 พบว่าเติบโตที่ +25%YoY และ +7%QoQ เป็น 8.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 25% ของประมาณการทั้งปีของเราที่ 3.5 แสนล้านบาท
# ในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนำซื้อ PTT โดยฝ่ายวิจัยฯ DBSV ให้ราคาเป้าหมายไว้ที่ 443 บาท (Sum-of-parts) ซึ่งเทียบเท่ากับ P/E ปีนี้ที่ 12.5 เท่า และ P/BV 1.5 เท่า
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]