- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 15 May 2017 18:00
- Hits: 669
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
สัปดาห์นี้มีโอกาสฟื้น แต่ความเสี่ยงทางลงของตลาดในระยะกลางเพิ่มขึ้น
หุ้นไทยปลายสัปดาห์ปรับลดลงแรงโดยเฉพาะในหุ้นขนาดกลาง-เล็กที่ซื้อขายในระดับ PER สูง และรายงานผลการดำเนินงานออกมาต่ำคาด อย่างไรก็ตาม เรามองสัปดาห์นี้ SET Index มีโอกาสเข้าใกล้จุดฟื้นตัว หรือสามารถเลือกเก็งกำไรรายตัวจาก 1) หุ้นหลายตัวปรับลดลงจนอยู่ในระดับราคาหรือแนวรับที่น่าสนใจ 2) แรงกดดันผลประกอบการจะชะลอตัวลง โดย 16 พ.ค. ที่เป็นการรายงานงบวันสุดท้าย และ 3) ราคาน้ำมันมีโอกาสฟื้นตัวก่อนถึงการประชุมโอเปค 25 พ.ค.นี้ ส่งผลบวกต่อบรรยากาศการซื้อขายและราคาหุ้นพลังงานต้นน้ำ (ซึ่งเรามองการปรับขึ้นเป็นโอกาสลดน้ำหนักกลุ่ม ENERGY) อย่างไรก็ตามการที่ SET Index ปรับลดลงต่ำ 1555 จุด ทำให้ภาพระยะกลางมีความเสี่ยงในการลงทดสอบ 1520-1530 จุด หรือกระทั่ง 1460 จุดตามลำดับ
ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน ฝั่งซื้อเรายังคงเลือกหุ้นที่เป็นเป้าหมายของการเพิ่มน้ำหนักของนักลงทุนสถาบัน เน้นกลุ่มปิโตรเคมี อาหาร และท่องเที่ยว ลดน้ำหนักโรงกลั่นและสื่อสาร รวมทั้งระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นกลาง-เล็ก ที่อยู่ในระดับที่แพง อาจเกิด De-Rating การดีดตัวเป็นจังหวะเพิ่มการถือเงินสดจากภาพระยะกลางที่แย่ลง โดยเราขอลดน้ำหนักการลงทุนหุ้นลงเหลือ 60% (จาก 70%) // หุ้นแนะนำ MAJOR, SCB /เก็งกำไร PSL, CPN
ภาพรวมการรายงานงบ – คาดการณ์กำไรต่อหุ้นของ SET Index เพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนรายงานผลประกอบการ ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงประมาณการของหุ้นขนาดใหญ่ที่ส่วนใหญ่รายงานกำไรดีกว่าคาด โดยเฉพาะ ปิโตรเคมี ค้าปลีก ขณะที่การปรับลดประมาณการเกิดในหุ้นขนาดกลางและเล็ก// ผลการดำเนินงานล่าสุด / (-) กลุ่มที่รายงานผลประกอบการลดลงมาก - TICON, ARROW, EARTH, CBG, KOOL, CHO, FER, FORTH, THE, MCS / (+) กลุ่มที่รายงานผลประกอบการดีขึ้น - CCET, UNIQ, TPOLY, GRAMMY, LIT, ETE, ASIAN
IRPC (ซื้อ, TP 6.70) – ตลาดมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับผลกระทบที่รุนแรงมากเกินไปจากการผลิต (ในระดับ 1พันล้านบาท) อันเนื่องมาจากตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) ที่ใช้ในหน่วยผลิตใหม่ (UHV) ทำงานได้ต่ำกว่าที่คาด ทำให้ผลผลิต (Propylene yield) กว่าประมาณการ อย่างไรก็ตามบริษัทอยู่ระหว่างเปลี่ยนแปลงตัวเร่งปฏิกิริยาใหม่ และคาดผลกระทบจะเกิดในระยะ 3-6 เดือน โดย UOBKH ประเมินผลกระทบในระดับเพียง 300 ล้านบาท ซึ่งไม่กระทบกับประมาณการ ยังคงคำแนะนำซื้อ
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ: 15 พ.ค. – MSCI Review (ทราบผลเช้า 16 พ.ค.), รายงาน GDP ไตรมาส 1/60 ของประเทศไทย / 25 พ.ค. – โอเปคประชุมเรื่องปรับลดกำลังการผลิต / 14 มิ.ย. – ประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (FOMC meeting)
คำแนะนำทางกลยุทธ์: หุ้นไทย (SET Index) ทะลุกรอบล่างของช่วงการซื้อขาย 1555-1570 คาดทำให้ในระยะสั้นเกิดโมเมนตัมในทางลง 25-30 จุด หรือเป็นแนวรับถัดไปที่ 1520-1530 โดยประมาณ เรายังคงเลี่ยง/ลดน้ำหนักกลุ่มที่มีความเสี่ยงถูกลดน้ำหนักหรือคำแนะนำการลงทุนลง ได้แก่ สื่อสาร การแพทย์ และโรงกลั่น
แนวรับ 1520-1530/แนวต้าน : 1550-1555 จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU
หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT, JWD*, TSR, TU
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)