บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน12-5-17

Details: Category: บทวิเคราะห์; Published: Friday, 12 May 2017 18:48; Hits: 2203

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

Today's Report : BEAUTY, BEM, CPALL, GFPT, ICHI, ITEL, KCE, M, MAJOR, MALEE, MGT, MTLS, SAPPE, TACC, THCOM, TKN

Our Portfolio May 17 : CPF, GLOBAL, SYNEX, TACC, THANI

ระยะสั้นเก็งกำไรบริเวณ 1546 จุด ระยะกลาง-ยาวรอทะยอยสะสมเพิ่ม
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET แกว่งทรงตัวในกรอบแคบในช่วงเช้าก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรงขายออกมาหนาแน่นและทำให้ดัชนีหลุดลงไปต่ำกว่าแนวรับ 1550 จุด โดยถูกกดันจากหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ก่อนที่จะเริ่มรีบาวด์กลับขึ้นมาปิดแถว 1550 จุดได้ แรงขายส่วนใหญ่ยังมาจากสถาบันในประเทศ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติยังมีสถานะค่อนข้างกระจัดกระจายโดยซื้อสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรราว 2 พันลบ.และ 800 ลบ.ตามลำดับ แต่ขายในตลาดฟิวเจอร์สราว 2 พันลบ.เช่นกัน

แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index วันนี้มีโอกาสที่จะอ่อนตัวลงต่อเนื่องจาก Sentiment ที่ยังดูค่อนข้างลบจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ที่ออกแย่กว่าที่ตลาดคาด ขณะที่ด้านเทคนิคภาพตลาดยังดูไม่ได้เป็นลบมากเนื่องจากยังปิดเหนือระดับ 1550 จุดได้ อย่างไรก็ตามปรับตัวลงหลุดต่ำกว่าระดับ 1546 จุดซึ่งเป็นจุดต่ำเดิมจะทำให้ภาพเป็นลบอย่างมากและมีโอกาสไหลลงไปทดสอบแนวรับบริเวณ 1530 จุดได้

กลยุทธ์ : ระยะสั้น เก็งกำไรบริเวณ 1546-1550 จุดและตัดขาดทุนถ้าหลุดต่ำกว่า ระยะกลาง-ยาว รอทะยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีตามแนวรับ
แนวรับ 1546-1545 , 1535-1530 จุด
แนวต้าน 1555 , 1560-1564
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BJC, BEC, AAV (buyback)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$361ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$150ล้าน ไต้หวัน US$109ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$70ล้าน ไม่มีประเทศใดที่มีเงินทุนไหลออก ขณะที่อินโดนีเซียปิดทำการ แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคตามทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) MTLS กำไรดีเกินคาด +11% Q-Q, +92% Y-Y จากรายได้รวมที่โตแข็งแกร่ง Loan Yield ขยับสูงขึ้นเป็น 23.5% จาก 23% ในไตรมาสก่อน ขณะที่ Cost to income ทำได้ดีกว่าคาด ลดลงติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 ยังคงแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 36 บาท
(+) CPALL กำไรสุทธิ 1Q17 น่าประทับใจ ทำได้ดีกว่าคาด 7% โดย +10.8% Q-Q, +17.2% Y-Y ส่วนหนึ่งมาจากผลงานของ MAKRO ที่ทำได้ดี และ CPALL มี SSSG เป็นบวก แนวโน้มกำไรจะดีต่อเนื่องใน 2Q17 ตามฤดูกาลเพราะเป็นช่วงหน้าร้อน และดีต่อใน 2H17 เรายังคงคาดกำไรทั้งปี +18.4% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 74 บาท แนะนำซื้อ

(+) ITEL กำไรดีตามคาด +59% Q-Q, +58% Y-Y เพราะรายได้ให้เช่าโครงข่าย Fiber Optic เพิ่มขึ้นและ Data Center มีการให้เช่าเต็มพื้นทีเป็นไตรมาสแรก ซึ่งรายได้ทั้ง 2 ส่วนนี้เป็นรายได้ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง แนวโน้มกำไรขยายตัวต่อเนื่องใน 2Q17 จากการให้เช่าโครงข่ายที่เพิ่มขึ้น เรายังชอบ ITEL ในฐานะ Growth Stock คาดกำไรสุทธิปี 2017-19 โตเฉลี่ยถึง 62% ต่อปี ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 14 บาท
(+) M กำไรดีตามคาด +2.8% Q-Q, +26% Y-Y จาก SSSG ที่พลิกกลับมาเป็นบวกและควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี แนวโน้มกำไรจะโตต่อเนื่องใน 2Q17 ตามฤดูกาลเพราะมีเทศกาลวันหยุดยาว และคาดว่าจะกลับมาเปิดสาขามากขึ้น เรายังคาดกำไรปีนี้ +13% Y-Y คงราคาพื้นฐาน 60 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาหลังจากที่เราแนะนำขายไปก่อนหน้านี้ จนเริ่มมี upside จึงเพิ่มคำแนะนำเป็นถือ

(-) TKN แม้ผู้บริหารจะยังตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 10-20% โดยให้น้ำหนักที่ตลาดจีน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือตลาดในประเทศไม่สดใสทั้งกำลังซื้อซบเซาและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ต้นทุนวัตถุดิบสาหร่ายแพงขึ้นราว 5-8% และต้นทุนโรงงานใหม่ที่ในช่วงแรกยังใช้กำลังการผลิตค่อนข้างต่ำ เราปรับลดกำไรสุทธิปีนี้ลง 12% เป็นโต 21.2% Y-Y ปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 23 บาท จากเดิม 27.5 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นถือ จากขาย
(-) KCE เราปรับลดกำไรปีนี้ลง 6% เหลือเติบโต 12.6% Y-Y (เดิมคาด +19.4% Y-Y) จากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นแต่ไม่อยู่ในฐานะจะปรับราคาขึ้นได้ กดดันมาร์จิ้นของบริษัท ปรับราคาพื้นฐานลงเป็น 100 บาทจาก 105 บาท ลดคำแนะนำเป็นขาย
(+) MGT เราเริ่ม Coverage ด้วยคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 2.70 บาท (PE 20 เท่า) คาดกำไรสุทธิ 1Q17 ฟื้นแรง +62% Q-Q, +13% Y-Y เป็น 12 บาทตามยอดขายเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษที่เพิ่มตามการฟื้นตัวของยอดผลิตรถยนต์ และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นเพราะเงินบาทแข็งค่า และคาดกำไรทั้งปี 2017 สดใส +67% Y-Y จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมยานยนต์ การขยายทีมขาย และการรุกตลาดต่างจังหวัดที่ยังมีช่องว่างให้โตได้อีกมาก ปัจจุบันมี PE 17 เท่า เทียบการเติบโตของกำไร 3 ปีข้างหน้าที่ 39% คิดเป็น PEG 0.5 เท่า ต่ำกว่า GIFT UKEM และ SELIC ที่อยู่ที่ 0.7 เท่า

ปัจจัยที่ต้องติดตาม
12 พ.ค. - ฮ่องกง: 1Q17 GDP
15 พ.ค. - ไทย: 1Q17 GDP, บจ.ส่งงบการเงินวันสุดท้าย
- จีน: ยอดค้าปลีก, Industrial Production, Fixed asset (เม.ย.)
16 พ.ค. - MSCI Semi-annual index review
- ยูโรโซน: ZEW Survey Expectations (พ.ค.), 1Q17 GDP
- สหรัฐ: Housing starts & Building permits (เม.ย.)
17 พ.ค. - ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.)
18 พ.ค. - ญี่ปุ่น: 1Q17 GDP (ตลาดคาด +1.8% annualized)
- ฟิลิปปินส์: 1Q17 GDP
- อินโดนีเซีย: ธนาคารกลาง (BI) ประชุม
19 พ.ค. - สิงคโปร์: 1Q17 GDP
23 พ.ค. - ไทย: ยอดขายรถ (เม.ย.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม  (เม.ย.)
• (-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดลบ จากความกังวลว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนหน้า และ ผลประกอบการหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ต่ำกว่าคาดทำให้เกิดความกังวลต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค โดยตลาดเฝ้าจับตารายงานยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ในวันนี้
• (-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบหลัง BOE ประกาศคงดอกเบี้ยที่ 0.25%และ ปรับลดคาดการณ์ขยายตัว GDP เหลือ 1.9%
• (-) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดค่อนไปทางลบตามภาวะตลาดโลก
• (0) ค่าเงินบาทเช้านี้แกว่งตัว Sideway โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ34.69-34.74 บาท/ดอลลาร์