- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 May 2017 23:52
- Hits: 6452
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
'ซื้อ/ถือด้วยค่าบวก'
- หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : PF (จากซื้อเป็นถือ) SNC (จากซื้อเป็น Fully Valued)
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : SET Index วันอังคาร -7.71 จุดปิดที่ 1560.31 โดยรวมตลาดหุ้นไทยระยะสั้นดูไม่ค่อยดีนัก เพราะขาด Catalyst และดอกเบี้ยขาขึ้นทำให้ P/E ตลาด Contraction (ตามการศึกษาของเรา) การอ่อนมาที่ 1550+/- อีกรอบ บ่งชี้โอกาสที่จะลงไปทดสอบ 1530+/- หรือต่ำกว่า ดังนั้นการซื้อใหม่/การถือหุ้นที่มีต้นทุนไม่ได้ต่ำมากต่อ ควรทำเมื่อตลาดเป็นบวกเท่านั้น
- คำสั่งปลดผอ.FBI ของทรัมป์และกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิ.ย.ที่มาแรงขึ้น กดดันตลาดหุ้นในระยะสั้น
- ดอกเบี้ยโลกกลับเป็นขาขึ้นชัดเจนขึ้น หลังเฟดทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ย, ยูโรโซนมีแนวโน้มจะถอน QE ในสิ้นปีนี้หลังเศรษฐกิจเติบโตดีขึ้น
+ ROJNA : คาดกำไร 1Q60F ฟื้นตัวดี แต่จะดีขึ้นอีกใน 2H60 ที่มีกำลังผลิตไฟฟ้าเข้ามาเพิ่ม 110 MW (+24% จากปัจจุบัน) ตั้งแต่ก.ค.60 ยังผลให้กำไรปีนี้โต 370% และการยุติทำงบรวมกับ TICON ทำให้ D/E ลดลง ราคาหุ้นอ่อนตัวเป็นจังหวะซื้อ ให้ TP 6.09 บาท
+ SAMTEL : กำไร 1Q60 +45%YoY, +208%QoQ เพราะภาษีจ่ายต่ำลง ส่วนรายได้ยังเข้าไม่มาก แต่มากขึ้นใน 2H60 โดยใน 1Q60 เซ็นสัญญางานใหม่แล้ว 1.9 พันล้านบาท คาด 2Q60 & 4Q60 จะเซ็น 6.1 และ 1.4 พันล้านบาท คาดกำไรปีนี้ +165% แนะซื้อ TP 14.70 บาท
- KCE : กำไร 1Q60 623 ล้านบาท (-14%YoY, -13%QoQ) แย่กว่าคาดเพราะ GPM ลดลง 320bps หลังราคาทองแดงปรับขึ้น ลดประมาณการกำไร & TP เป็น 108 บาท (เดิม 116 บาท) สะท้อนมาร์จิ้นที่อ่อนกว่าคาด เชิงกลยุทธ์ เล่นรอบควรลดพอร์ตแล้วค่อยซื้อกลับเมื่ออ่อนตัว
- SNC : กำไร 1Q60 อ่อนแอมาก (-41%YoY) แม้เป็น High Season ธุรกิจ เพราะรายได้ OEM/ODM ลดลง การแข่งขันและต้นทุนวัตถุดิบสูงขึ้นทำให้มาร์จิ้นธุรกิจต้นน้ำ & ชิ้นส่วนพลาสติกยานยนต์ลดลง ปรับลดคาดการณ์กำไร และ TP ลงเป็น 15 บาท แนะนำ Fully Valued
หุ้นกลยุทธ์ (พื้นฐานดี) แนะนำทยอยซื้อสะสมวันนี้เป็น ROJNA
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดเป็นลบ ลบต่อดูไม่ดี ดังนั้นการซื้อใหม่จึงเน้นตามด้วยค่าบวกเป็นสำคัญ รับ 1550, 1540-1530 กรณีรีบาวด์มีแนวต้าน 1570, 1575-1580 สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ SMT, SELIC, SPA ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ SCCC, TCAP, JMT, GFPT หุ้นแนะนำไปและให้หาจังหวะ Take Profit–ไม่มี- หุ้นหลุด List ได้แก่ SYNTEC, AAV, TLUXE, AS
ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
- สหรัฐ : ประธานเฟดบอสตันหนุนให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้
นายเอริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตันได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ และเรียกร้องให้เฟดเริ่มปรับลดงบดุลบัญชีของเฟดหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 13-14 มิ.ย.60 ด้าน CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 83.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
- สหรัฐ : ทรัมป์สั่งปลดผู้อำนวยการ FBI
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศปลดนายเจมส์ โคมีย์ พ้นจากตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) ซึ่งเป็นผู้รือคดีอีเมลฉาวของนางฮิลลารีแล้วสรุปว่าไม่มีความผิดทางคดีอาญา และระบุว่าโอบามาไม่ได้ดักฟังโทรศัพท์ช่วงทรัมป์หาเสียง ขณะเดียวกันก็กำลังผลักดันใน FBI สอบสวนกรณีรัสเซียเข้าแทรกแซงและอาจช่วยเลือกทรัมป์ในการเลือกตั้งปธน.ในปี 59 ประเด็นนี้นำมาซึ่งความไม่แน่นอนทางการเมือง
- ตลาดหุ้นสหรัฐ : กังวลการปลดผอ. FBI จะทำให้การเมืองไม่แน่นอน
การสั่งปลดผอ. FBI ของทรัมป์ รวมทั้งประธานเฟดสาขาบอสตัน ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีนี้ก็กดดันด้วย ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ ดัชนี DJIA อยู่ที่ 20,943.11 จุด ลดลง 32.67 จุด หรือ -0.16% แต่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,399.63 จุด เพิ่มขึ้น 2.71 จุด หรือ +0.11% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,129.14 จุด เพิ่มขึ้น 8.56 จุด หรือ +0.14% เพราะผลประกอบการบจ.หนุน
+ สัญญาน้ำมันดิบ : ปรับขึ้นประมาณ 3%
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.45 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 1.49 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 50.22 ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนโดยรายงานของ EIA ที่ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐลดลงถึง 5.2 ล้านบาร์เรล นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล และสื่อรายงานว่าบริษัทซาอุดิ อารามโค ของซาอุดิอาระเบีย จะลดการส่งมอบน้ำมันแก่ลูกค้าในเอเชียราว 7 ล้านบาร์เรลในเดือนมิ.ย.60 ตามข้อตกลงของโอเปกในการปรับลดกำลังการผลิต รวมทั้งมีโอกาสที่ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะขยายเวลาลดปริมาณการผลิตออกไปเกินสิ้นปีนี้
+/• สัญญาทองคำ : บวกขึ้นหลังทรัมป์ปลดผอ. FBI
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ระดับ 1,218.90 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ก็เพิ่มได้ไม่มากเพราะกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยเดือนมิ.ย.มาแรงขึ้นเรื่อยๆ
+ ยูโรโซน : ประธาน ECB ชี้ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจลดลงแต่ยังไม่ถอนมาตรการกระตุ้น
นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า ความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งของเศรษฐกิจยูโรโซนได้ลดลงแล้ว แต่ก็ยังคงเร็วเกินไปที่ ECB จะเริ่มต้นถอนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจะยังคงอัดฉีดเม็ดเงิน 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนไปจนถึงสิ้นปีนี้ หรือนานกว่านั้น หากมีความจำเป็น
ปัจจัยในประเทศ :
+ กระแส EEC กระตุ้นยอดเช่าและซื้อที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่ม 38.5%YoY
นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่ากนอ. เปิดเผยว่า นโยบายการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีส่วนสำคัญที่ทำให้มีการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น โดยในรอบ 6 เดือน (ต.ค.59- มี.ค.60) ยอดขายและเช่าพื้นที่นิคมฯเพิ่ม 1,541.94 ไร่ หรือเพิ่ม 120.94 ไร่ (+8.5%YoY) คิดเป็นเงินลงทุนรวม 71,591 ล้านบาท (+38.5%YoY) โดยในจำนวนดังกล่าวเป็นพื้นที่นิคมฯใน EEC ถึง 1,457.40 ไร่
+ ROJNA (ราคาปิด 5.65 บาท) : กำไร 1Q60 ดีขึ้น แต่จะดีมากใน 2H60 หลังรับรู้รายได้โรงไฟฟ้า SPP3
เราคาดการณ์ว่ากำไรสุทธิ 1Q60 ของ ROJNA จะยังฟื้นตัวได้ไม่ดีมาก แต่ฐานะการเงินดีขึ้นเพราะการไม่ต้องทำงบการเงินรวมกับ TICON ทำให้หนี้สินลดลง รวมทั้งยอดขายที่ดินในนิคมฯดีขึ้น โดยกำไรจะดีขึ้นมากใน 2H60 เพราะมีรายได้จากโรงไฟฟ้า SPP3 เข้ามาอีก 110 MW ในเดือนก.ค.60 จากปัจจุบันที่มีอยู่แล้ว 430 MW + โซลาร์ 3 บล็อกรวม 24 MW แนวโน้มการขายที่ดินดีขึ้นโดยเฉพาะใน EEC ซึ่งบริษัทมีนิคมฯอยู่ 2 แห่งที่รองรับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก คือ ที่บ่อวิน และแหลมฉบัง จำนวน 2 พันไร่ (เป็นพื้นที่ขาย 1.5 พันไร่) การอ่อนตัวของราคาหุ้นในช่วงนี้เป็นจังหวะซื้อสะสมเพื่อลงทุน ทาง DBSV ให้ราคาพื้นฐานไว้ที่ 6.09 บาท
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]