- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 11 May 2017 23:44
- Hits: 6417
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
What’s in store?
วิเคราะห์ตลาดและแนวโน้ม: คุณวิกิจ ถิรวรรณรัตน์
วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways กรอบ 1,555-1,568 จุด กลยุทธ์แนะโฟกัสไปที่รายงานงบการเงินหุ้นรายตัวแทนที่จะดูที่แนวโน้มดัชนีฯ โดยหุ้นใน BLS Universe วันนี้ ที่รายงานกำไรดีและมีพัฒนาการเชิงบวกดีต่อเนื่องใน 2Q17 ได้แก่ PCSGH (กำไร 1Q17 ดีกว่าคาด 2Q17 คาดโต 200% y-y. จากการ Ramp up กำลังการผลิตหลังปิดซ่อมบำรุงไปเมื่อ 2Q16) THREL (เราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จากเดิม ถือ) TPCH (โมเมนตั้มกำไรช่วงที่เหลือของปีคือ 2Q17-4Q17 จะโตสูง y-y, q-q)
หุ้นแนะนำวันนี้
PCSGH แนวรับ 5.7 บ. ต้าน 6.1 บ. Stop loss 5.5 บ. กำไรดีกว่าคาด และมีพัฒนาการกำไรที่คาดดีต่อเนื่องใน 2Q17
ASAP แนวรับ 4.54 บ. ต้าน 4.9/5 บ. Stop loss 4.5) รายงานกำไร 1Q17 33.5 ลบ. โต 84% y-y.(ดีกว่าตลาดคาดที่ 25-29 ลบ.)
GIFT แนวรับ 6.6 บ. ต้าน 7.1 บ. Stop loss 6 บ. เราคาดกำไรหลัก 1Q17 ราว 20 ลบ. มีแนวโน้มจะรายงานกำไรดีกว่าคาด
สรุปผลตอบแทนหลักทรัพย์: นักวิเคราะห์ทางด้านกลยุทธ์
รายงานวันนี้: นักวิเคราะห์ทางด้านพื้นฐาน
SPALI (BUY Bt29.00)
QH (HOLD Bt2.90)
EGCO (HOLD Bt241.00)
KCE (BUY Bt120.50)
GLOBAL (SELL Bt15.50)
THREL (BUY Bt10.70)
TU (BUY Bt25.50)
TPCH (BUY Bt22.00)
ปฏิทินหุ้น: ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
Derivative Warrants: ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
วิเคราะห์ทางเทคนิค: คุณธนรัตน์ อิศรกุล
Selective buy
เมื่อวานอังคารที่ 9 พค.ตลาดหุ้นไทยลงผิดคาด จากผิดหวังผลการดำเนินงานหุ้น Mid Cap เช่น TKN ส่งผลลบต่อความเชื่อมั่นในผลการดำเนินงานหุ้น Mid-Small Cap ตัวอื่น ทำให้ราคาหุ้นปรับลงตามบวกกับ Panic ข่าวเหตุระเบิดคาร์บอมบ์ห้าง BIGC ที่ปัตตานี และ การออก Thailand Future Fund สะดุด เลื่อนไปหลัง กย. เพราะต้องรอผลสรุปอัตราผลตอบแทนกับ กทพ.-ตลาดกังวลการลงทุนภาครัฐฯชะงักส่งผลลบต่อ GDP
วันนี้คาดดัชนีฯ Sideways กรอบ 1,555-1,568 จุด กลยุทธ์ แนะโฟกัสไปที่รายงานงบการเงินหุ้นรายตัวแทนที่จะดูที่แนวโน้มดัชนีฯ โดยหุ้นใน BLS Universe วันนี้ ที่รายงานกำไรดีและมีพัฒนาการเชิงบวกดีต่อเนื่องใน 2Q17 ได้แก่ PCSGH (กำไร 1Q17 ดีกว่าคาด 2Q17 คาดโต 200% y-y. จากการ Ramp up กำลังการผลิตหลังปิดซ่อมบำรุงไปเมื่อ 2Q16) THREL (เราปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น ซื้อ จากเดิมถือ) TPCH (โมเมนตั้มกำไรช่วงที่เหลือของปีคือ 2Q17-4Q17 จะโตสูง y-y, q-q)
ส่วนหุ้นที่รายงานกำไรแย่ลงกว่าคาด และมีความเสี่ยงขาลงของกำไรใน 2Q17 ได้แก่ GLOBAL (เรา Downgrade ลงเป็น SELL) EGCO, KCE, TU (แนวโน้มต้นทุนทูน่า จะยังสูงไปจนถึงเดือน สค.) SPALI QH (กลุ่มบ้านรายงานงบแย่กว่าคาดมาก และตลาดมีแนวโน้มจะปรับลงได้ค่อนข้างลึก)
Ticker 1Q17 2Q17 What change?
PCSGH ดีกว่าคาด +++ Maintain Buy
THREL ดีกว่าคาด ++ Upgrade to BUY
TPCH ตามคาด + Earnings cut but maintain Buy
GLOBAL แย่กว่าคาดมาก --- Downgrade to SELL
EGCO แย่กว่าคาด 20% + แนวโน้มปรับประมาณการลง
KCE แย่กว่าคาด 13% - แนวโน้มปรับประมาณการลง
SPALI แย่กว่าคาด -- แนวโน้มปรับประมาณการลง
QH แย่กว่าคาด - แนวโน้มปรับประมาณการลง
TU - Company update: Earnings downgrade
หุ้นแนะนำวันนี้ PCSGH แนวรับ 5.7 บ. ต้าน 6.1 บ. Stop loss 5.5 บ. กำไรดีกว่าคาด และมีพัฒนาการกำไรที่คาดดีต่อเนื่องใน 2Q17 / ASAP แนวรับ 4.54 บ. ต้าน 4.9/5 บ. Stop loss 4.5)
รายงานกำไร 1Q17 33.5 ลบ. โต 84% y-y.(ดีกว่าตลาดคาดที่ 25-29 ลบ.) / GIFT แนวรับ 6.6 บ. ต้าน 7.1 บ. Stop loss 6 บ. เราคาดกำไรหลัก 1Q17 ราว 20 ลบ. มีแนวโน้มจะรายงานกำไรดีกว่าคาด
รายงานวันนี้
(+) PCSGH รายงานกำไร 1Q17 ที่ 151 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% YoY และ 5% QoQ กำไรที่ออกมามากกว่าที่เราและตลาดคาด 11% จาก GM ที่สูงกว่าคาดที่ 19% (เราคาด 18%) เรามองว่ากำไร 2Q17 จะเติบโตได้ดีต่อเนื่อง YoY เนื่องจากใน 2Q16 มีการปิดซ่อมบำรุงการดำเนินงานบางส่วน เรายังคงคำแนนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 6.10 บาท
(+) THREL รายงานกำไร 1Q17 118 ล้านบาท สูงขึ้น 6% YoY และ 199% QoQ โดยผลประกอบการสูงกว่าที่เราคาด 12% เนื่องจากมีการจ่ายเคลมน้อยกว่าคาด ดังนั้น loss ratio ใน 1Q17 จึงต่ำกว่าประมาณการของเรา กำไรในไตรมาสนี้คิดเป็น 34% ของประมาณการของเราทั้งปี ขณะที่รายได้จาก premium อยู่ที่ 459 ล้านบาท สูงขึ้น 4% YoY แต่ลดลง 19% QoQ ซึ่งเป็นไปตามทีเราคาด
commission ratio สูงขึ้น 26% ในไตรมาสนี้จาก 24% ใน 1Q16 แต่ลดลงมากจาก 37% ใน 4Q16 แต่ ROI ลดลงมาอยู่ที่ 2.7% ใน 1Q17 จาก 3.4% ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และจาก 8.3% ใน 4Q16 ขณะที่รายได้จากการลงทุนลดลง 43% YoY และ 2% QoQ มาอยู่ที่ 8 ล้านบาท เราคาด THREL จะรายงานกำไรทรงตัว QoQ ใน 2Q17 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง อย่างไรก็ตามเราได้ปรับคำแนะนำจาก ถือ เป็น “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายปี 2017 เท่าเดิมที่ 10.7 บาท หนุนโดยภาพกำไรฟื้นตัว
(0) TPCH บริษัทรายงานกำไร 1Q17 ที่ 64 ล้านบาท เติบโตสูงจากฐานต่ำในปีที่แล้ว 104%YoY แต่อ่อนตัวลงเล็กน้อย QoQ ผลประกอบการเป็นไปตามคาด กำไรอ่อนตัวลงเพราะส่วนแบ่งขาดทุน
ค่าปรับฯจากสยามพาวเวอร์ เราคาดกำไรจะเพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ ใน 2Q17 จากการขายไฟฟ้าฯ (COD) โรงไฟฟ้าแห่งใหม่ คือโรงไฟฟ้าพัทลุง ถึงแม้จะล่าช้าออกมาจาก 1Q17 แต่คาดไม่น่าจะเกินเดือนนี้ และคาดจะสามารถเดินเครื่องได้ประสิทธิภาพสูงในระยะเวลาไม่นานเพราะเป็นเทคโนโลยีที่เดียวกับโรงไฟฟ้าทุ่งสัง ที่บริษัทจะสามารถเดินเครื่องได้ efficiency ถึง 75% ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น จากการขายไฟฟ้าโรงไฟฟ้าพัทลุง และสตูลที่ช้ากว่าคาดการณ์เดิมไปราว 1 ไตรมาส เราปรับประมาณการกำไรลง 12% เป็น 351 ล้านบาท โดยกำไร 1Q17 คิดเป็น 18% ของประมาณการใหม่ของเรา เราปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 22 บาท (อิง DCF, WACC 6.2%) ตามการปรับลดประมาณการกำไรข้างต้น เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” เรายังคงคาดปัจจัยบวกมาจากกำไรที่จะทำ new high ในทุกๆไตรมาส และคาด upside ต่อจากนี้จะมาจาก 1) การยื่นขอ PPA โรงไฟฟ้าขยะชุมชน และ 2) การได้ PPA โรงไฟฟ้าชีวมวลเพิ่มเติมไม่ว่าจะมาจากโครงการปัตตานี
(-) KCE รายงานกำไรสุทธิ 1Q17 ที่ 662 ล้านบาท ลดลง 12% YoY และ 4% QoQ หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 39 ล้านบาท กำไรหลักอยู่ที่ 623 ล้านบาท ลดลง 14% YoY และ 6% QoQกำไรหลักต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 13% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด อันเป็นผลมาจากต้นทุนทองแดงที่ปรับตัวสูงขึ้น เราเชื่อว่ากำไร 2Q17 จะฟื้นตัว QoQ จากผลปัจจัยด้านฤดูกาล การขยายกำลงการผลิตและต้นทุนทองแดงที่ลดลง จากกำไรที่ออกมาต่ำกว่าคาดเราอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการกำไรสำหรับปี 2017
(-) SPALI รายงานกำไรหลัก 1Q17 ที่ 687 ล้านบาท ลดลง 51% YoY และ 43% QoQ กำไรที่ออกมาต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 26% จากรายได้ Residential revenue ที่ต่ำกว่าคาด 17% และ
อัตรากำไรหลักออกมาที่ 18% (คาด 20.3%) เรามองว่ากำไร 2Q17 จะยังคงอ่อนตัว YoY เนื่องจากฐานสูงของปีที่แล้ว แต่คาดฟื้นตัว QoQ โดยคอนโด 3 โครงการใหม่จะเริ่มรับรู้รายได้ใน 2Q17 จาก
กำไรที่ออกมาต่ำกว่าคาดเรามีการปรับประมาณการกำไรหลักลง 4% และปรับราคาเป้าหมายลงมาที่ 29 บาท (จาก 30 บาท) แม้ปรับประมาณการกำไรลงแต่ยังคาดกำไรปี 2017 เติบโตได้ 10% ยังคง
คำแนะนำ ซื้อ
(-) QH รายงานกำไรหลัก 1Q17 ที่ 644 ล้านบาท ลดลง 28% YoY และ 5% QoQ กำไรหลักต่ำกว่าที่เราคาด 7% และต่ำกว่าที่ตลาดคาด 6% จาก Residential revenue ที่ต่ำกว่าคาด เรามองว่ากำไรหลัก 2Q17 จะลดลง YoY จากฐานสูงใน 2Q16 และไม่มีคอนโดใหม่ที่จะเริ่มโอนใน 2Q17 เรายังคงคำแนะนำ ถือ
(-) GLOBAL รายงานกำไรสุทธิ 1Q17 ที่ 484 ล้านบาท ลดลง 3% YoY จากการปรับมาตรฐานทางการบัญชีในการวัดมูลค่า PPE กำไรสุทธิที่ออกมาต่ำกว่าที่เราคาด 20% เนื่องจาก SSSG (-6%) และ GM ต่ำกว่าคาด เรามองว่าโมเมนตัมการอ่อนตัวของยอดขายยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเรายังไม่เห็นปัจจัยบวกในระยะสั้นที่จะหนุนกำลังซื้อของลูกค้า เราปรับประมาณการกำไรปี 2017 ลง 15% ปรับราคาเป้าหมายลงมาที่ 15.5 บาท (จาก 19.5 บาท) ปรับคำแนะนำลงจาก ซื้อ เป็น ขาย
(-) EGCO รายงานกำไรสุทธิ 1Q17 ที่ 2,963 ล้านบาท สูงขึ้น 14% YoY และ 253% QoQ หากไม่รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที 1,236 ล้านบาท กำไรหลักจะอยู่ที่ 1,728 ล้านบาท ลดลง 14% YoY แต่สูงขึ้น 3% QoQ โดยกำไรหลักต่ำกว่าที่เราและตลาดคาด 23% และ 29% ตามลำดับ หลักๆมาจากต้นทุนการผลิตสูงกว่าที่ประเมิน อย่างไรก็ตาม เราคาดกำไรหลักจะเติบโต QoQ ใน 2Q17 เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่นของอุปสงค์พลังงานไฟฟ้า อีกทั้งกำลังการผลิตที่เพิ่มเข้ามาในช่วง 12 เดือนก่อนหน้านี้จะช่วยหนุนยอดขายและกำไรเติบโต YoY ด้วย แต่ทั้งนี้เรามองว่ามี downside ต่อประมาณการ 2H17 อีกทั้งเนื่องจากปัจจุบันหุ้นเทรดที่ 11 เท่า เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 8 เท่าเราจึงมองว่ายังไม่ใช่เวลาที่ดีนักที่จะเข้าลงทุนใน EGCO เรายังคงแนะนำ “ถือ”
(-) TU ราคาทูน่ามีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ US$1690/ตัน ใน เม.ย. จาก $1500/ตัน ใน มี.ค. เรามองว่าราคาทูน่าจะยังคงยืนอยู่ในระดับสูงที่ $1,700-1,800/ตัน ในช่วง ก.ค.-ส.ค. จนกว่าจะเข้าสู่ฤดูกาลจับทำให้เรามองว่า Blended GM ของธุรกิจทูน่าจะลดลงมาที่ 20% ใน 2Q17 (เทียบกับ 26% ใน 2Q16) แต่ฟื้นตัว QoQ (18% ใน 1Q17) เนื่องจากเป็นช่วง High season อย่างไรก็ตามเรามองว่าความกดดันในธุรกิจทูน่าจะน้อยลงเนื่องจากธุรกิจกุ้งและแซลมอนที่ GM ที่การฟื้นตัวในช่วง 2H17 หนุนโดยราคาต้นทุนกุ้งที่ต่ำลง (เริ่มใน เม.ย.) และราคาแซลมอนเช่นเดียวกัน (เริ่มใน ม.ค.) เรายังเชื่อมั่นว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในช่วง 2H17 ยังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 25.50 บาท
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) ITEL เทรด พาร์ใหม่ 15 พค.นี้ (จาก 1 บ. เหลือ 0.50 บ.)
(-) KTC AEONTS แบงก์ชาติหารือ สมาคมธนาคารไทย เตรียมลดเพดานปล่อยกู้สินเชื่อบุคคล และจำกัดจำนวนการถือบัตรเครดิต (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(-) เกิดเหตุวางระเบิด"บิ๊กซี" ปัตตานีช่วงบ่ายวันที่ 9 พค. มียอดผู้บาดเจ็บกว่า 50 ราย ซึ่งจุดเกิดเหตุอยู่ด้านนอกอาคารเชื่อว่าคนร้ายนำระเบิดแสวงเครื่องซุกไว้ในรถยนต์กระบะแล้วนำมาจอดทิ้งไว้ (ที่มา อินโฟเควสท์)
(+) พฤหัส US PPI Final demand เมย. คาด +0.2% จาก -0.1% m-m ประชุมธนาคารกลางอังกฤษคาดคงดอกเบี้ย 0.25%, ฟิลิปปินส์ ส่งออก เดือน มีค. คาด +20% จาก +11% y-y มาเลเซีย
Industrial production มีค. คาด +3.5% จาก 4.5% y-y, ประชุมธนาคารกลางฟิลิปปินส์ และนิวซีแลนด์ คาดคงดอกเบี้ย 3% และ 1.75% ตามลำดับ (ที่มา Bloomberg)
(+) ศุกร์ US Consumer prices เมย. 0.2% จาก -0.3% m-m Core CPI คาด +0.2% จาก -0.1%, เยอรมนี GDP 1Q17 1st คาด +0.4% จาก +0.5% q-q, EU area Industrial production มีค. คาด +0.6% จาก -0.3% m-m. ประชุมธนาคารกลางมาเลเซีย คาดคงดอกเบี้ย 3% ฮ่องกง GDP 1Q17 คาด +3.9% จาก +3.1% อินเดีย Industrial production มีค. คาด + 2.2% จาก -1.2% y-y. (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค