- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 09 May 2017 18:33
- Hits: 2595
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (9/05/60)ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'Sideway กรอบแคบ เก็งผลประกอบการ'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ Sideway กรอบแคบด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง ต่างจากตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นๆ ที่ขานรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ทั้งนี้คาดส่วนหนึ่งเป็นผลจากนักลงทุนรอดูผลดำเนินงานช่วง 1Q60 ของ บจ. ที่เริ่มทยอยประกาศสัปดาห์นี้ ขณะที่ Fund Flow คาดคาดยังไหลออกจากทิศทางค่าเงินบาทที่ยังคงอ่อนค่า แม้วานนี้จะกลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกก็ตาม โดยกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นวานนี้ได้แก่กลุ่มลีสซิ่ง (+1.01%DoD) และกลุ่มค้าปลีก (+0.53%DoD) ส่วนกลุ่มที่ปรับตัวลงได้แก่ กลุ่มปิโตรเคมี (-1.69%DoD) และกลุ่ม ธพ. (-0.58%DoD) ส่งผลให้ SET Index ปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1,568.02 จุด (-0.1%DoD) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 35,388 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +5.34 จุด (+0.03%) หลังขาดประเด็นบวกใหม่ๆเข้ามา ขณะที่นักลงทุนยังต้องติดตามว่าพรรคของนายมาครองจะสามารถกวาดที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐสภาได้หรือไม่ เพราะหากไม่สามารถทำได้จะกระทบต่อแผนการออกมากฎหมายปฏิรูปเศรษฐกิจตามที่ได้หาเสียงไว้
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.5% มาอยู่ที่ 46.43 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังโอเปกกำลังพิจารณาที่จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หรือมากกว่า จากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
(+) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 +0.6% มาอยู่ที่ 15.75 Cents/Pound
(+) นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 593 ล้านบาท
(+) BDI เพิ่มขึ้น 7 จุด (+0.7%) มาอยู่ที่ 1,001 จุด
(+) ITD เสนอราคาต่ำสุดงานระบบขนส่งผู้โดยสาร (APM) สนามบินสุวรรณภูมิวงเงิน 2,890 ล้านบาท
(+) วันนี้ติดตามการเสนอครม.อนุมัติลงนามโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลืองมูลค่ากว่า 100,000 ล้านบาท เป็นบวกกับ BSR
(-) CME Group ระบุเครื่องมือ FedWatch ที่ใช้วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุน
คาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 83.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
(-) ราคาถ่านหินลดลง 5% ปิดที่ 74.2 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
(-) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX +0.02% อยู่ที่ 1,227.10 ดอลลาร์/ออนซ์
(+/-) หุ้นยุโรป CAC40 -0.91% DAX -0.18% แต่ FTSE100 +0.05%
(+/-) AAV รายงานกำไรสุทธิช่วง 1Q60 570 ลบ.เพิ่มขึ้น 1,283%QoQ แต่ -43%YoY
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
การประกาศผลประกอบการงวด 1Q60
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US สต๊อกน้ำมันประจำสัปดาห์ (10 พ.ค.) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเดือนเม.ย. (11 พ.ค.) ตัวเลขเงินเฟ้อเดือนเม.ย. (12 พ.ค.) CN เงินเฟ้อเดือนเม.ย. (9 พ.ค.) EU ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนเม.ย. (12 พ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “เก็งกำไรหุ้นรายตัวโดยเฉพาะหุ้นที่งบจะออกมาดี”
ประเมินดัชนีวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ จะยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆต่อไป โดยเราคาดว่าวันนี้จะมีแรงขายในกลุ่มสายการบินเนื่องจากงบต่ำกว่าที่ตลาดคาด แต่อย่างไรก็ดี เรามองว่าตลาดในช่วงนี้ยังสามารถเก็งกำไรได้เป็นรายตัวโดยเฉพาะหุ้นที่จะมีผลประกอบการดีอย่างกลุ่มท่องเทียวเช่น MINT และ ERW อย่างไรก็ดี เรายังคงมองการเคลื่อนไหวของ SET index ในระยะกลางเป็นรูปแบบ Side Way จากที่มีปัจจัยจำกัด และภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ จึงแนะนำเก็งกำไรสั้นเป็นหลัก
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
BH เก็งกำไร
ตลาดประเมินผลการดำเนินงานจะเติบโต H-oH ใน 2H60 หนุนจากการเปิดพื้นที่ส่วนขยาย OPD ที่ตึก BI TOWER
ปัจจุบันซื้อขายที่ระดับ PER 36.27 เท่า ต่ำกว่ากลุ่ม HEALTH ที่ระดับ PER 37.49 เท่า
MAJOR เก็งกำไร
มองบวกต่อหน้าหนังที่โดดเด่นในช่วง 2Q60 (Fast & Furius 8, Gurauans of Galaxy,Pirate of the Caribbean ,Transformers)
คาดผลประกอบการ 1Q60 ฟื้นตัว QoQ และทรงตัวYoY
ราคาเหมาะสมปี 60 ที่ 38 บาท (อิง PER 25 เท่า)
ทีมวิเคราะห์