WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

KTBบล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily

 

ภาพตลาดวันวาน
  ดัชนีเปิดตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย และไหลลงทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1565.74 จุด ลดลง 3.28 จุด ก่อนที่จะแกว่งตัวกลับขึ้นมา ในลักษณะสลับขึ้นลงอยู่ทั้งแดนบวกและลบในกรอบแคบ ๆ ที่มีจุดสูงสุดของวันที่ 1571.42 จุด เพิ่มขึ้น 2.40 จุด ก่อนที่จะทิ้งกลับลงมาใหม่ในช่วงบ่าย ซึ่งเป็นแรงขายหลักจากหุ้นในลุ่มพลังงาน แบงก์ ปิโตรเคมี ทำให้กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ที่ 5.68 จุด ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1568.02 จุด ลดลง 1.00 จุด (-0.06%) มูลค่าการซื้อขาย 35,388 ล้านบาท

 

ภาพตลาดวันนี้
  ดัชนีวานนี้กลับเข้ามาสู่ภาวะซึมอีกครั้งแกว่งตัวแคบ ๆ ทั้งวันเพียงแค่ 5.68 จุด หลังจากที่ไม่สามารถผ่าน 1570 จุดได้ โดยขึ้นทำ High ที่ 1571 จุด ก่อนที่จะอ่อนตัวลงมาทำปิดจุดเดียวกับเปิดที่ 1568 จุด ส่งผลให้แนวโน้มดัชนียังคงมีทิศทาง Sideway โดยมีแนวรับ 1560-1565 จุด แนวต้าน 1570-1574 จุด

 

แกว่งตัวผันผวน
  Support 1560 // 1550 จุด Resistance 1580-1590 จุด

พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell

 

Company Update & News Comment

(-) AAV : กำไรสุทธิ 1Q17 ต่ำกว่าคาด แนวโน้ม 2Q17 - 3Q17 จะยังไม่เด่น
(+) IRPC : กำไรปกติ 1Q17 สูงกว่าที่คาดเล็กน้อย เตรียมรับกำลังการผลิตเต็มที่
(+) IVL : กำไร 1Q17 เติบโตโดดเด่นเหนือคาด เตรียมสร้างฐานกำไรปกติใหม่
(+) SYNEX : กำไรสุทธิ 1Q17 โดดเด่น ทำสถิติสูงสุดใหม่
(0) TCAP : คงประมาณการกำไรสุทธิ จากค่าใช้จ่าย Digital Banking เพิ่มขึ้น ควบคู่คุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้น (+) TPIPP: ผลิตไฟฟ้าสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หนุนกำไร 1Q17 ทำสถิติสูงสุดใหม่
(-) TU : กำไรปกติ 1Q17 อ่อนตัว ได้รับแรงกดดันจากความผันผวนราคาวัตถุดิบ

ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
ท่ามกลางข่าวดีในช่วงวันหยุด ทั้งตั้เลขจ้างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดี และผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศส แต่การตอบรับของนักลงทุนในตลาดต่างประเทศ นั้น ไปมองอีกด้านหนึ่งด้วย คือ โอกาสที่ Fed จะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม FOMC 14 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ (ค่าความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed (Fed Fund Rate Implies Probabilities) สำหรับการประชุม FOMC 14 มิ.ย. อยู่ที่ 95%) และ นักลงทุนจับตาการเลือกตั้งรัฐสภาฝรั่งเศสในเดือนหน้า เพื่อดูว่าพรรค La Republique en march ของนายมาครองจะสามารถกวาดที่นั่งส่วนใหญ่ในรัฐสภาได้หรือไม่ จึงทำให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯ-ยุโรป เปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย
จากความเสี่ยงของตลาด ที่ทยอยลดลง (เกาหลีเหนือ-เลือกตั้งฝรั่งเศส) ส่งผลให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นบวกต่อราคาทองคำ แต่ทำให้ราคาพันธบัตรปรับตัวลดลง (เพราะนักลงทุนเก็งว่าสหรัฐฯจะปรับขึ้นดอกเบี้ย) นอกจากนี้ เราคาดว่า จะเป็นบวกต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย


ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดไปที่ $46 เหรียญ ความกังวลต่อ supply ที่ล้นตลาดมีน้อยลง หลังตัวแทนของ OPEC คือ ซาอุฯ และรัสเซีย ประกาศว่าจะร่วมมือกันลดกำลังการผลิตต่อไปอีกจนถึงไตรมาสที่หนึ่งของปีหน้า ทำให้การประชุม 25 พ.ค.นี้ของกลุ่ม OPEC ผลน่าจะออกมาดี และเป็นสัญญาณว่าผู้ผลิตน้ำมัน พยายามไม่ให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงไปต่ำกว่าระดับ $45 เหรียญ เป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมี


ปัจจัยในประเทศ ตลาดยังให้ความสนใจต่อการรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ที่เริ่มออกมามากขึ้นในสัปดาห์นี้ จากการรวบรวบรวมข้อมูล 55 บริษัทฯ ที่นำส่งผลประกอบการมาแล้ว พบว่า มีการเพิ่มขึ้น 19% YoY และ 33% QoQ นอกจากนี้ ยังต้องจับตาดู Event สำคัญ คือ PTTEP จะมีการแถลงข่าวในเรื่องคดีที่ถูกทางการอินโดนีเซียฟ้อง (เวลา 10 โมงเช้า) และการประชุม ครม. อีกทั้ง ต้องดูท่าทีของนักลงทุนต่างประเทศว่า จะพลิกกลับมาซื้อหุ้นไทย เป็นวันที่สองหรือไม่ หลังขายมาตลาดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ เรายังประเมินทิศทางดัชนีฯ ว่ายังมีโอกาสที่จะปิดลดลงเล็กน้อย กรอบการเคลื่อนไหวจะยังคงอยู่ในกรอบแคบๆ อยู่ต่อไป เนื่องจากตัวแปรทั้งในและต่างประเทศ รวมๆแล้ว ยังไม่ได้หนุนหรือพลิกให้ตลาดหุ้นกลับมาเป็นบวกได้อย่างชัดเจน ทำให้การเข้าลงทุนของนักลงทุน จะเป็นแบบ selective buy และเก็งกำไรช่วงสั้น


กลยุทธ์การลงทุน แม้ปัจจัยเสี่ยงของตลาดจะค่อยๆลดลง แต่ตลาดยังขาดปัจจัยหรือแรงซื้อ กลยุทธ์ของเรา คือแนะนำชะลอดูสถานการณ์ ถ้าดัชนีฯลงมาต่ำกว่า 1566 ให้ลดพอร์ตลง หรือเล่นแบบเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ในแบบ "ลงซื้อ ขึ้นขาย" ………….. สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น KKP , INTUCH ,ERW, MTLS* ,MC*, JMART* , AU*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์

 

ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (08 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,568.02 จุด ลดลง 1.00 จุด -0.06% มูลค่าการซื้อขาย 35,388.21 ล้านบาท โดยยังไม่ปัจจัยเด่นมาหนุนตลาด และยังกังวลว่างบการเงินของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในไตรมาส 1/60 จะออกมาดีเหมือนที่คาดไว้หรือไม่


ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 21,012.28 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด หรือ +0.03%เนื่องจากนักลงทุนได้ซึมซับข่าวนายเอมมานูเอล มาครอง คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ขณะที่ภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากนางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ระดับ 394.04 จุด


ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ +0.5% ปิดที่ 46.43 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังพิจารณาที่จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หรือมากกว่า จากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย.
เศรษฐกิจสหรัฐ - นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรจะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดได้บรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานเต็มศักยภาพ และอัตราเงินเฟ้อกำลังปรับตัวใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด ถึงแม้เศรษฐกิจสหรัฐยังมีความอ่อนแอ


เศรษฐกิจฝรั่งเศส - แบงก์ ออฟ อเมริการะบุว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของฝรั่งเศสมีแนวโน้มขยายตัว 1.3% ในปีนี้ และ 1.4% ในปีหน้า ตามลำดับ โดยมีการปรับเพิ่มขึ้น 0.20% และ 0.10% จากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยนายมาครองได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยผลการนับคะแนนล่าสุดนายมาครองได้รับคะแนนเสียง 66% ขณะที่นางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรค National Front (FN) ได้รับ 34%


เศรษฐกิจจีน - สำนักงานปริวรรตเงินตราแห่งรัฐของจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของจีนอยู่ที่ระดับ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในไตรมาส 1/2560 ทั้งนี้ ยอดเกินดุลการค้าสินค้าอยู่ที่ระดับ 8.17 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดขาดดุลภาคบริการอยู่ที่ระดับ 6.01 หมื่นล้านดอลลาร์


เศรษฐกิจไทย - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพิจารณาการจัดทำงบประมาณในลักษณะบูรณาการเชิงยุทธศาสตร์แผนงานบูรณาการเสริมสร้างความเข้มแข็งและยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจภายในประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2561 ครั้งที่ 1/2560 ว่า ที่ประชุมฯ เห็นชอบหลักการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2561 เพิ่มเติม วงเงิน 190,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการจัดงบประมาณในลักษณะดังกล่าวของรัฐบาลเป็นครั้งแรกที่มาจากการรับฟังความเห็นทั้งในส่วนของคณะกรรมการ ส่วนราชการ และประชาชน


เศรษฐกิจไทย - นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน ไปตรวจสอบมาตรการดูแลราคาสินค้าปัจจุบัน ว่ารัดกุม สามารถควบคุมดูแลราคาสินค้าได้เป็นอย่างดีแล้วหรือไม่ และการติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทุกรายการนั้น เป็นอย่างไร ทั้งในส่วนของสินค้า และบริการที่อยู่ในบัญชีควบคุม 47 รายการ และสินค้าที่อยู่ในบัญชีติดตามดูแล 205 รายการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค จนกระทบทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น


น้ำมัน - แหล่งข่าวระบุว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) กำลังพิจารณาที่จะขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตออกไปอีก 9 เดือน หรือมากกว่า จากกำหนดเดิมที่จะสิ้นสุดในเดือนมิ.ย. เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะราคาน้ำมันที่คาดว่าจะปรับตัวลงในช่วงไตรมาสแรกของปีหน้า อันเนื่องจากอุปสงค์ที่อ่อนแอ


การบิน - นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า วันนี้ บมจ.การบินไทย (THAI) ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC Re-certification) รวมถึงใบอนุญาตขนส่งวัตถุอันตราย โดยมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เป็นประธานและสักขีพยาน ส่วนความคืบหน้าในการประเมินสายการบินอื่น ๆ ขณะนี้มี 4 สายการบินในกลุ่มแรก อยู่ในขั้นตอนที่ 4 การตรวจสอบภาคปฏิบัติ คือ Thai Smile Airways และ Thai AirAsia X กำลังอยู่ในขั้นตอนที่ 4.1 ซึ่งเป็นการตรวจสำนักงาน ส่วน Nok Air และ NokScoot สามารถเข้าสู่ขั้นตอนที่ 4.2 คือการตรวจสอบภาคอากาศแล้ว
EEC - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ขอให้นักธุรกิจฮ่องกงเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่โครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี เพราะตอนนี้ประเทศไทยต้องการยกระดับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ และยกระดับของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งฮ่องกงเองมีความเชี่ยวชาญเรื่องนี้มาก เห็นได้จากบริษัทเอสเอ็มอีเล็ก ๆ ของฮ่องกงหลายบริษัทที่ตอนนี้พัฒนากลายเป็นบริษัทชั้นนำแล้ว ดังนั้นประเทศไทยจึงอยากให้ฮ่องกงเข้ามาช่วยพัฒนาเอสเอ็มอีของไทยให้เป็นบริษัทขนาดใหญ่บ้าง เพื่อเป็นการวางรากฐานให้กับเศรษฐกิจประเทศในระยะยาว

 

News Release :
JAS กำไรโตทะลัก 715% ลูกค้าพุ่ง 2.52 ล้านราย JASIF ปันผลตามคาด 0.24 บาท/หน่วย
0 "JAS" ข่าวดีล้นหลาม แจ้งงบไตรมาสแรกฟันกำไรสุทธิ 693 ล้านบาท พุ่งทะลัก 715% จากงวดเดียวกันปีก่อน อานิสงส์จากฐานลูกค้าอินเทอร์เน็ตพุ่ง 2.525 ล้านราย หนุนรายได้โต โบรกฯคาด JAS มีสิทธิ์หวนเข้าคำนวณ SET50 รอบ ก.ค.นี้ ฟาก JASIF จ่ายปันผลตามคาด 0.24 บาท/หน่วย(ข่าวหุ้น)

BCP ยิ้ม Q1 กระฉูด 675% โชว์กำไรหรู 2,084 ล้าน
+ "บางจาก" แจ้งไตรมาสแรกกำไรสุทธิ 2,084 ล้านบาท โตกระฉูด 675% อานิสงส์จากธุรกิจโรงกลั่นพีค เดินเครื่องผลิต 1.09 แสนบาร์เรลต่อวัน ค่าการกลั่นพุ่ง 7.07 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ฟากธุรกิจปั๊มน้ำมันยอดขายบาน 1,539 ล้านลิตร(ข่าวหุ้น)

COM7 ชี้อานิสงส์ TRUE ขึ้นเบอร์ 2 ยอดขายซิมบาน
+ "COM7" รับผลบวก TRUE ขึ้นแท่นเป็นเบอร์สองแทน DTAC หนุนยอดขายซิมโทรศัพท์พุ่ง มั่นใจงบไตรมาสแรกโตแกร่ง ลูกค้าใช้บริการซื้อสินค้าทะลัก ลั่นปี 60 เข้าบริหาร TRUE Shop พุ่ง 100 สาขา หนุนรายได้สิ้นปีโตตามเป้า 10% (ข่าวหุ้น)

PTTEP ไม่ต้องตั้งสำรองฯ จนกว่าศาลอินโดฯตัดสิน
+ "PTTEP" ยันน้ำมันรั่วแหล่งมอนทารา ไม่มีผลกระทบต่อระบบนิเวศ-สิ่งแวดล้อม กรณีอินโดนีเซียฟ้องแย้มยังไม่ได้รับเอกสาร ฟากโบรกฯชี้ PTTEP จะยังไม่มีการตั้งสำรองฯ จนกว่ามีคำสั่งชัดเจนจากศาลอินโดนีเซีย(ข่าวหุ้น)

SAMTEL จ่อเซ็นงาน 4 พันล.โบรกปรับราคา 17.50 บาท
+ SAMTEL จ่อเซ็นสัญญารับงานใหม่ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ในไตรมาส 2/2560 นี้ หนุนงานในมือเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันอยู่ที่ 7,000-8,000 ล้านบาท คาดรับรู้ปีนี้ 40% จับตางานไหลเข้าไม่หยุดในช่วงครึ่งปีหลัง ดันผลงานทั้งปีเติบโตก้าวกระโดด โกยรายได้ไม่ต่ำกว่า 9,000 ล้านบาท(ทันหุ้น)

'THAI' ไตรมาส 1 กำไรแรงผู้โดยสารโตเป้า 21 บ.
+ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งหนึ่งชี้ THAI งบไตรมาส 1/2560 จะพลิกจากขาดทุนในไตรมาสที่ 4/2559 มาเป็นกำไรที่ 3.46 พันล้านบาท เหตุอัตราส่วนการบรรทุกผู้โดยสารพุ่งถึง 83.3% เคาะราคาเป้าหมายที่ 21 บาทต่อหุ้น จับตาแผนการปรับฝูงบินรวมทั้งลงทุนศูนย์ซ่อมเครื่องบินจะมีความชัดเจนต้นปีหน้า หนุนกำไร THAI เติบโตอย่างยั่งยืน(ทันหุ้น)

AOT ผลงานปีนี้โตสดใส ITD คว้าชัยวางระบบ APM
+ AOT โบรกส่องกล้องกำไร Q2 พุ่ง 11% ทะลุ 6 พันล้านบาท ไฮซีซันหนุนผลงานโตเด่นส่วนทั้งปีคาดโต 14.9% แตะ 2.24 หมื่นล้านบาท ฟากผู้บริหารเผยผลประกวดราคางานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบ APM ตัวเก็ง ITD ได้คะแนนด้านเทคนิคและราคาสูงสุด แต่ราคาที่เสนอยังสูงกว่ากรอบราคากลาง เตรียมเดินหน้าเจรจาต่อรองราคา หวังสรุปผลผู้ชนะภายในสัปดาห์นี้(ทันหุ้น)

'ASAP' รัฐป้อนงานอื้องบครึ่งแรกฉายแววเด่น
+ ASAP ภาษีดีลูกค้าภาครัฐและเอกชนป้อนงานเพียบหนุนครึ่งแรกปี 2560 ฟอร์มสดใส พร้อมย้ำเป้ารายได้ปีนี้พุ่ง 30-40% จากปีก่อน รับดีมานด์ทะลักต่อเนื่อง บอสใหญ่ "ทรงวิทย์ ฐิติปุญญา" ใส่เกียร์ลุย "Asap Auto Park" อัพแวลูธุรกิจระยะยาว คาดเปิดรับทรัพย์ได้ช่วงต้นปี 2561 ด้านโบรก แนะ "ซื้อ" เคาะเป้า 6.20 บาท ดีดลูกคิด Q1/2560 กำไรพุ่ง 32% (ทันหุ้น)

นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!