- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 05 May 2017 17:14
- Hits: 2897
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ 'ยืนบวกได้จากปัจจัยเด่นเฉพาะกลุ่ม'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดตลาดและเคลื่อนไหวแกว่งตัวแดนบวกได้ตลอดวัน หลังได้แรงหนุนซื้อหุ้นกลุ่มสายการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งTHAI (+18.8%DoD) หลังเตรียมได้รับใบรับรอง AOC และได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง ขณะที่กลุ่มหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์(+1.3%DoD) ได้รับผลดีจากความคาดหวังการขึ้นดอกเบี้ยรอบหน้าจาก Fed หลังผลประชุมคืนก่อนหน้ามีมติคงอัตราดอกเบี้ย โดยในระหว่างวัน SET Index มีการขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ระดับ 1,574.38 จุด ก่อนที่จะย่อตัวเล็กน้อยลงมาปิดที่ 1,574.38จุด เพิ่มขึ้น 8.93 จุด (+0.6%DoD) และมีมูลค่าการซื้อขาย 39,049 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) หุ้นยุโรป CAC40 +1.35% FTSE100 +0.19% ส่วน DAX +0.96%
(+) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX -1.6% อยู่ที่ 1,228.60 ดอลลาร์/ออนซ์
(+) บอร์ดอีอีซีสั่งทำแผนรถไฟทางคู่เชื่อม 3 ท่าเรือในพื้นที่ภายใน 1 เดือนก่อนเสนอนายกฯ 16 มิ.ย.นี้
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -6.43 จุด (-0.03%) หลังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติผ่านร่างกฎหมายประกันสุขภาพฉบับใหม่ด้วยคะแนน 217-213 เสียง ซึ่งด้วยคะแนนที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับทำให้แนวโน้มที่จะผ่านการอนุมัติจากทางวุฒิสภาอาจจะมีโอกาสน้อย และจะทำให้ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการปฏิรูปภาษีที่จะออกมาอาจจะมีปัญหาได้
(-) ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐฯเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.2%MoM ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 0.4%
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -4.8% มาอยู่ที่ 45.52 ดอลลาร์/บาร์เรล กดดันยังคงจากสต๊อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่ลดลงเพียง 930,000 บาร์เรล
(-) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 ลดลง 2.4% มาอยู่ที่ 15.63 Cents/Pound กังวลประเด็นที่จีนอาจจะขึ้นภาษีน้ำเข้าน้ำตาล
(-) นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 489 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขาย 1,007 ล้านบาท
(-) BDI ลดลง 30 จุด (-2.90%) มาอยู่ที่ 1,004 จุด
(+/-) THAI เตรียมรับมอบใบรับรอง AOC (Air Operater Certification) วันที่ 8 พ.ค. ขณะที่ตลท.ให้ THAI เค้ามาตรการกำกับการซื้อขาย (Cash Balance) ระหว่างวันที่ 5-25 พ.ค.
(+/-) ราคาถ่านหินปิดทรงตัวที่ 78 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย. อัตราว่างงานเดือนเม.ย. (5 พ.ค.) EU ตัวเลขค้าปลีกเดือนมี.ค. (5 พ.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน “ราคาน้ำมันกดดัน”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เราคาดหมายการขายหุ้นกลุ่มพลังงานกดดันดัชนี จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงแรง มอง PTTEP จะถูกกดดัน แนะนำลดน้ำหนักกลุ่มพลังงาน และสลับเข้าเก็งกำไรกลุ่มท่องเที่ยว ซึ่งขาดว่าจะได้โมเมนตัมบวกจาผลประกอบการ 1Q60 และราคาน้ำมันดิบที่ลดลง ( สายการบิน และ โรงแรม) เรามองการเคลื่อนไหวในระยะกลางเป็นรูปแบบ Side Way จากที่มีปัจจัยจำกัด และภาพรวมเศรษฐกิจไทยยังอ่อนแอ
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
ASAP : เก็งกำไร
ตลาดมองผลดำเนินงาน 1Q60 เติบโตเด่นได้ประโยชน์จากสิทธิประโยชน์ทางภาษีและราคารถมือ 2 ที่ฟื้นตัว
ราคาหุ้น Laggard กลุ่มที่ปรับตัวขึ้นก่อนหน้า KCAR , PL
มีโอกาสเติบโตจากการเติบโตของรถเช่าจากลูกค้า Corporate ที่มีอัตราส่วนเช่า/ซื้อ ต่ำกว่าประเทศที่พัฒนาแล้ว
TASCO : เก็งกำไร
รายงานผลประกอบการ 1Q60 กำไรสุทธิ 1.2 พันล้านบาท คิดเป็น 36% ของประมาณการของกำไรปี 60 (Bloomberg Consensus)
ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันที่อ่อนตัวลง
ราคาเป้าหมายปี 60 อิง Bloomberg Consensus ที่ 30.4 บาท
ทีมวิเคราะห์