- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 14 August 2014 17:27
- Hits: 2706
บล.กรุงศรี : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
แกว่งตัวขึ้นตามกระแสเงินทุนไหลเข้า
หลังจากพักตัวในสัปดาห์ก่อน ตลาดหุ้นไทยเปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 10.52 จุด เคลื่อนไหวแดนบวกตลอดทั้งวัน เนื่องจากคลายกังวลต่อสถานการณ์การเมืองต่างประเทศที่ไม่ได้ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจ โดย SET วานนี้ปิดที่ 1544.55 เพิ่มขึ้น 24.24 จุด (+1.59%) ปรับตัวขึ้นดีกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค แรงซื้อกระจายในหุ้นหลักทุกกลุ่ม นำโดย ธนาคาร พลังงาน อสังหาฯ วัสดุก่อสร้าง และการแพทย์ มูลค่าซื้อขายปรับสูงขึ้นอย่างมีนัย 43% จากวันก่อนหน้าเพิ่มเป็น 56,151 ล้านบาท ขณะที่เงินบาทแข็งค่าปิดที่ 31.93 บาท/US$ ต่างชาติสลับกลับมาเป็นผู้ซื้อสุทธิถึง 3,684 ล้านบาท (ขายสุทธิสะสม 2.5 หมื่นล้านบาท ระหว่าง 2 ม.ค.-13 ส.ค.) ส่วนกองทุนยังคงซื้อสุทธิต่อเนื่องอีก 2,614 ล้านบาท
ปัจจัยการลงทุนวันนี้
สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงาน ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนเดือนก.ค.ขยายตัว 9% YoY และเพิ่มขึ้น 0.68% MoM เป็นการชะลอลงจากเพิ่มขึ้น 9.2% ในเดือนมิ.ย. ส่งผลให้ใน 7 เดือนแรกของปีนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเติบโต 8.8% YoY
กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยยอดค้าปลีกทรงตัวในเดือน ก.ค. หลังจากขยายตัว 0.2% ในเดือนมิ.ย. จากการชะลอการซื้อรถยนต์ เฟอร์นิเจอร์ และสินค้าตามห้างสรรพสินค้า
คสช. แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) สาระสำคัญให้มีคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติประจำจังหวัด จังหวัดละ 1 คณะ และให้มีคณะกรรมการสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติด้านต่างๆ ประกอบด้วย ด้านการเมือง, กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม, การปกครองท้องถิ่น, การศึกษา, เศรษฐกิจ, พลังงาน, สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม, สื่อสารมวลชน, สังคม และด้านอื่นๆ
ผลบวกจากกระแสเงินทุนไหลเข้า มองว่าวันนี้ SET เคลื่อนไหวในลักษณะแกว่งตัวขึ้นต่อ และมีโอกาสที่ จะปรับขึ้นทดสอบระดับสูงสุดของปีนี้อีกครั้งที่ 1548.16 (25 ก.ค.) ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ (กลุ่ม TIP) อย่างไรก็ดี แม้ความขัดแย้งทางการเมืองต่างประเทศในหลายพื้นที่ (อิรัก ยูเครน และอิสราเอล) อาจไม่ได้ส่งผลอย่างมีนัยต่อเศรษฐกิจโลก และไทย แต่ถือเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม เนื่องจากกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนทำให้เกิดความผันผวนระยะสั้น หากมีแรงขายออกมา แต่ SET ยังยืนเหนือแนวรับที่ 1530 จุดได้ มองว่าตลาดยังคงเป็นทิศทางขาขึ้น การปรับตัวลงถือเป็นจังหวะการเข้าทยอยซื้อสะสมหุ้นพื้นฐานดี เน้นหุ้นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการบริโภค และการลงทุนในประเทศ เช่น ธนาคาร สื่อสาร ที่ดิน รับเหมาก่อสร้าง
แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
ถือครองพอร์ตลงทุนในหุ้น 70%
น้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือครองหุ้น 70% และเงินสด 30%
Accumulate : -- สะสมหุ้น
Trading : เลือกซื้อหุ้นเก็งกำไรเหนือ 1530 ต่ำกว่ารอ
เปรียบเทียบดัชนีกับ SET
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 70% ถือเงินสด 30%
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (70%) = +12.9%
ผลตอบแทนถือเงินสด (30%) = +0.6%
ผลตอบแทนรวม (100%) = +13.5%
ผลตอบแทนตลาด SET = +14.2%
ผลรวมพอร์ตจำลองสุทธิ < SET
หมายเหตุ : Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด
Analysts :
Tanadech Rungsrithananon Registration No. 17926
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130