- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 04 May 2017 17:09
- Hits: 3807
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Technical Daily
ภาพตลาดวันวาน
ดัชนีเปิดตลาดยืนบวกเล็กน้อย ก่อนที่จะค่อย ๆ ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดของวันที่ 1569.51 จุด เพิ่มขึ้น 5.39 จุด พร้อมกับแกว่งตัวแคบ ๆ ที่ยืนบวกได้ตลอดเกือบทั้งวัน ก่อนที่ช่วงท้ายตลาดเผชิญแรงขายกดดัชนีลงทำจุดต่ำสุดของวันที่ 1563.20 จุด ลดลง 0.92 จุด ส่งผลให้กรอบการเคลื่อนไหวทั้งวันอยู่ที่ 6.31 จุด ทั้งนี้หุ้นที่มี Impact ต่อการแกว่งตัวในแดนบวกของดัชนีได้แก่ GGC, SCC, ADVANC, KTB, KCE, KBANK, TU ก่อนดัชนีจะทำปิดที่ 1564.12 จุด ไม่มีการเปลี่ยนแปลง (0.00%) มูลค่าการซื้อขาย 32,533 ล้านบาท
ภาพตลาดวันนี้
ดัชนีวานนี้ยังคงไม่ไปไหน แกว่งตัว Sideway แคบ ๆ ในกรอบเดิม 1563-1569 จุด ซึ่งใช้มาถึง 4 วันทำการ บวกกับปริมาณการซื้อขายที่ยังคงเบาบาง ส่งผลให้แนวโน้มดัชนียังไม่มีความชัดเจนในการเลือกทิศทาง ทำให้คาดว่าดัชนีน่าจะยังคงมีกรอบการแกว่งเดิม มอง แนวต้าน 1569-1572 จุด แนวรับ 1555-1560 จุด
แกว่งตัวผันผวน - ในกรอบจำกัด
Support 1560 // 1550 จุด Resistance 1580-1590 จุด
พรรณนภา เขมะสุรัตน์ Technical Analyst
เลขทะเบียน : 060110 Tel 02- 6481124
Email: [email protected]
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) : Morning Bell
Company Update & News Comment
KTBST - หุ้นบวก-ลบ จากราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกที่ปรับตัวลง
ปัจจัยและทิศทางตลาดหุ้นไทย
Highlight ของตลาดต่างประเทศที่สำคัญ 2 เรื่อง คือ
1.การประชุม FOMC ที่คณะกรรมการ คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75-1.00% แต่ด้วยเหตุผลที่ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว (GDP q1=0.7%) นั้นเป็นเพียงชั่วคราว ทำให้จำนวนครั้งของการปรับขึ้นดอกเบี้ยของปีนี้ยังคงอยู่ที่สอง การตอบรัของตลาดต่อเรื่องนี้ คือ โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของ Fed หรือ Fed Fund Rate Implies Probabilities ของการปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14 มิ.ย. นั้นปรับขึ้นจาก 59.1% ไปเป็น 90.0% หลังทราบผลประชุม ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ระยะยาว (30 ปี ) ส่วนหนึ่งอาจมาจากข่าวที่ รมว.คลังประกาศว่า กำลังพิจารณาออกพันธบัตรที่มีระยะยาวกว่า 30 ปี (ultra-long bonds)
2. การ debate ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสสองท่าน คือ นาย Emmanuel Macron และ นาง Marine Le Pen นั้น ผลการสำรวจยังทำให้นาย Macron นั้นมีคะแนนที่เหนือกว่าคู่แข่ง (63/34 ; Elabe) การ debate ครั้งนี้ จึงไม่ได้เปลี่ยนการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้
จากตัวแปรทั้งสองตัวผลออกมาตามที่ตลาดคาดการณ์ จึงไม่ได้เป็นบวกต่อตลาดมากนัก โดยเฉพาะโอกาสที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ยยในการประชุมครั้งต่อไปที่สูงขึ้น อาจผลให้มีการปรับพอร์ตของนักลงทุนทั่วโลก
ราคาน้ำมันดิบ WTI ทรงๆตัว จากปัจจัยบวกและลบในเวลาเดียวกัน เพราะตัวเลข stock น้ำมันดิบของสหรัฐฯ (EIA) ลดลง แต่การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯและลิเบียเพิ่มขึ้น เป็นตัวกดดันต่อราคาน้ำมันดิบ อีกทั้งยังมีการสูงขึ้นของค่าเงินดอลล่าร์อีกด้วย (Dollar Index เช้านี้สูงขึ้น 0.4% จากวันที่ 2 พ.ค.)
ปัจจัยในประเทศ ยังเป็นการเข้ามาเก็งงบ 1Q-60 กันต่อ ขณะที่ตัวแปรด้านเศรษฐกิจ กระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาการให้เงินช่วยเหลือประชาชนที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย อาจกระตุ้นให้มีการเข้ามาเก็งผลบวกจากการใช้จ่ายของประชาชนที่สูงขึ้นได้ แต่คาดผลจะไม่มากนัก
ทิศทางตลาดหุ้น ตัวแปรสำคัญผ่านไปสองตัว แต่โอกาสในการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯที่สูงขึ้น จะทำให้นักลงทุนยังไม่กล้าผลีผลามเข้าซื้อหุ้น การโยกย้ายเงินลงทุนของกองทุนฯ และนักลงทุนต่างประเทศ อาจยังเกิดขึ้นได้ ทำให้เราคาดการณ์ว่าดัชนีฯ จะยังคงแกว่งตัวแบบ sideway อยู่ต่อไป
กลยุทธ์การลงทุน ด้วยแนวโน้มดัชนีฯ ที่ยังไม่เปลี่ยนจากที่เคยคาด คือ sideway และมีความเสี่ยงต่อการขายหุ้นของนักลงทุน(ต่างประเทศ+กองทุนฯ) นักลงทุนอาจเลือกที่จะปรับลดพอร์ตเพื่อลดความเสี่ยงลง ....... สำหรับนักเก็งกำไร ควรจับจังหวะเป็นรอบ เน้นเล่นสั้นแบบ "ลงซื้อ ขึ้นขาย" .......... สำหรับหุ้นที่เราคาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุนในวันนี้ อาทิเช่น KCE , SPALI , BA, SC, PCSGH*, HANA*
* เป็นหุ้นที่แนะนำในเชิงกลยุทธ์ โดย KTBST ไม่ได้จัดทำบทวิเคราะห์
ประเด็นสำคัญ
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ (03 พ.ค.) - SET Index ปิดที่ระดับ 1,564.12 จุด ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อน มูลค่าการซื้อขาย 32,532.57 ล้านบาท โดยปริมาณการซื้อขายไม่มากนัก เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่ และนักลงทุนยังรอผลการประชุมเฟดที่จะออกมาในคืนนี้ ขณะที่มีเพียงการซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัว ตามผลประกอบการไตรมาส 1/60
ตลาดหุ้นต่างประเทศ - ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด 20,957.90 จุด เพิ่มขึ้น +8.01 จุด หรือ +0.04% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดย ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง -0.09% ปิดที่ 389.37 จุด
ราคาน้ำมันดิบ WTI - สัญญาน้ำมันดิบ เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ +0.3% ปิดที่ 47.82 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 ขณะที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวลดลงเช่นกัน
น้ำมัน - สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 930,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว และทางด้านสถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้วสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า อัตราการว่างงานของยูโรโซนอยู่ที่ระดับ 9.5% ในเดือนมี.ค. ขณะที่ตัวเลขผู้ว่างงานลดลง 5,000 คน เมื่อเทียบกับเดือนก.พ. ทั้งนี้ อัตราการว่างงานทรงตัวในเยอรมนี สเปน และฝรั่งเศส ขณะที่อิตาลีเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 11.7% และลดลงในไอร์แลนด์ สโลวีเนีย โปรตุเกส และเนเธอร์แลนด์
เศรษฐกิจสหรัฐ - คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ขณะที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้
เศรษฐกิจยุโรป - สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัว 0.5% ในไตรมาส 1 โดยยูโรสแตทไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดการขยายตัวของแต่ละประเทศในยูโรโซน และนักวิเคราะห์คาดว่ายูโรโซนจะมีการขยายตัวมากขึ้นในไตรมาส 2 หลังผลสำรวจบ่งชี้ถึงการดีดตัวขึ้นของเศรษฐกิจในเดือนเม.ย.
เศรษฐกิจเยอรมนี - สำนักงานแรงงานเยอรมนีเปิดเผยว่า ตัวเลขว่างงานในประเทศลดลง 15,000 ราย สู่ระดับ 2.543 ล้านรายในเดือนเม.ย. ซึ่งลดลงมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งระบุว่าตัวเลขว่างงานจะลดลง 12,000 ราย ส่วนอัตราว่างงานยังคงทรงตัวที่ระดับ 5.8% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่การรวมประเทศเยอรมนีตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกันในปี 1990
เศรษฐกิจไทย - นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังเตรียมพิจารณาการให้เงินช่วยเหลือประชาชนที่ลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยที่มีรายได้ต่ำกว่าเส้นความยากจน ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุเส้นความยากจนคือต้องมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท/ปี ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียด เพื่อให้ผู้มีรายได้น้อยในกลุ่มนี้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้
ตลาด - นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.เปิดให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน หรือ บลจ.เสนอขายกองทุนรวมประเภทเฮดจ์ฟันด์ เพื่อเป็นทางเลือกให้แก่นักลงทุนสถาบันหรือผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษซึ่งมีศักยภาพในการรับความเสี่ยงสูงและเพื่อให้ผู้ประกอบการไทยเสนอขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่แข่งขันกับต่างประเทศได้ โดยยังคงมีกลไกคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสมเทียบเคียงสากล และห้ามขายรายย่อย
ไฟฟ้า - นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) แถลงยืนยันการขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือนพ.ค.-ส.ค.60 จำนวน 12.52 สตางค์/หน่วย ส่งผลให้ค่าเอฟทีในงวดดังกล่าวอยู่ที่ระดับ -24.77 สตางค์/หน่วยนั้น เป็นการปรับขึ้นสะท้อนต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่แท้จริง ซึ่งได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นค่าเอฟทีครั้งนี้ก็มีความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
News Release :
8 หุ้นเด้งรับขึ้นค่าเอฟที คาดหนุนรายได้เพิ่มขึ้น วงการเงินลุ้น"กกพ."จ่อปรับเพิ่มอีกก.ย.นี้
+ เปิดโผ 8 หุ้นโรงไฟฟ้า "GPSC-GLOW-RATCH-BCP-TPIPP-EGCO-EA-TSE" รับผลบวกขึ้นค่าเอฟที เม.ย.-ส.ค. หนุนรายได้พุ่ง "กกพ." ย้ำเป็นช่วงขาขึ้นราคาก๊าซจำเป็นต้องปรับเพิ่ม ฟากวงการเงินชี้มีลุ้นปรับขึ้นเอฟทีอีกรอบช่วง ก.ย.นี้(ข่าวหุ้น)
EA ลุ้นไตรมาส 1 โต 38% ฟาดกำไรสุทธิ 983 ล้าน
+ "EA" เปิดตัวสวย ลุ้นงบไตรมาสแรกฟันกำไรสุทธิ 983 ล้านบาท เติบโต 38% จากงวดเดียวกันปีก่อน บุ๊คผลตอบแทน โซลาร์ฟาร์ม-พลังงานลมเต็มมือ คาดลุย COD พลังงานลมอีก 90 MW ใน มิ.ย.นี้ หนุนกำไรปีนี้โตแกร่ง 4,600 ล้านบาท(ข่าวหุ้น)
ซื้อหุ้น WHA วันนี้ ได้รับเงินปันผล ก่อนพรุ่งนี้ขึ้น XD
+ วันนี้เป็นโอกาสสุดท้าย ซื้อหุ้น WHA ได้รับสิทธิปันผลหุ้นละ 0.1536 บาท ก่อนขึ้น XD พรุ่งนี้ โบรกฯการันตีผลงานปี 60 กำไรสุทธิโตต่อเนื่อง เชียร์ "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 3.43 บาท(ข่าวหุ้น)
ลุ้น TISCO ปันผลเพิ่ม อัพเป้าหมาย 85 บาท
+ นักวิเคราะห์คาด TISCO มีโอกาสขยับการจ่ายเงินปันผลขึ้นมาเป็น 55% ของกำไรสุทธิ ขณะที่อัตราผลตอบแทนยังคงมากกว่า 5% พร้อมขยับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 85 บาท(ข่าวหุ้น)
'SPA' ยิ้มรับงบโค้ง 2 เด่นเดินหน้าสยายปีก CLMV
+ SPA ยิ้มรับผลงานไตรมาส 2/2560 โดดเด่น หลังโกยรายได้สาขาเดิมเพิ่มไม่ต่ำกว่า 10% พร้อมเดินหน้าผุดสาขาใหม่ 3 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด แย้มปี 2560 ได้เห็นความชัดเจนสยายปีกลุยสาขาต่างแดนกลุ่ม CLMV แน่นอน 1 สาขา ฟาก โบรกเชียร์ "ซื้อ" เคาะเป้า 15.00 บาท(ทันหุ้น)
IFS รุกขยายฐานสินเชื่อภูธรดันพอร์ตแฟกตอริ่ง 3 หมื่นล.
+ IFS ลุ้นผลงาน Q2/2560 ขยายตัวต่อเนื่องหลังความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนของเอสเอ็มอีปรับตัวเพิ่มขึ้น รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการลงทุนในประเทศและการส่งออก คาดปริมาณธุรกรรมแฟกตอริ่งปี 2560 อยู่ในระดับสูงกว่า 3 หมื่นล้านบาท ด้าน NPL ยังมีสัญญาณปรับตัวลดลงส่งผลบวกต่อการเติบโตของตัวเลขกำไร(ทันหุ้น)
BJC เก็บเกี่ยวกำไร BIGC โค้งแรกผลงานพุ่งเท่าตัว
+ BJC ถึงเวลาเก็บเกี่ยวกำไรจากการลงทุน BIGC ดันผลงานโตโดดเด่น จับตาไตรมาสแรกกำไรพุ่งกว่าเท่าตัว ทะลุ 1,200 ล้านบาท ผลบวกการรวมงบการเงินกับ BIGC เต็มไตรมาส เชื่ออนาคตสดใสรับปัจจัยบวกหลายด้าน โบรกส่องมูลค่าพื้นฐาน 57 บาท แถมมีอัพไซด์ 31% (ทันหุ้น)
GOLD ลุยสามย่านมิตรทาวน์ เคาะ 'ไทยโอบายาชิ' เข้ารับงาน
+ GOLD เดินหน้าก่อสร้างสมาร์ทมิกซ์ยูสมูลค่า 8,500 ล้านบาท มุมถนนพญาไท-พระราม 4 ภายใต้ชื่ออย่างเป็นทางการ "สามย่านมิตรทาวน์" (SAMYAN MITRTOWN) บอสใหญ่ "ธนพล ศิริธนชัย" เผยล่าสุดแต่งตั้ง "ไทยโอบายาชิ" เป็นผู้รับเหมาหลักดูแลงานก่อสร้าง มั่นใจแล้วเสร็จปี 2563 (ทันหุ้น)
นักวิเคราะห์ : มงคล พ่วงเภตรา
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
License No: 001937 Tel: 02-648-1123 และทีมวิเคราะห์