WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

CIMBบล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)

 

Technical highlights
SET Index : แนวโน้มลงทดสอบ 1555 แนวต้าน 1570
  ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1564.12 จุด ลดลง 2.20 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,126 ล้านบาทตลาดเมื่อวานปรับตัวลดลงหลังจากฟื้นตัวกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด และมีแนวรับสำคัญที่1555 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค
  Daily: เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องที่บริเวณ 1565-1570 จุด ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 1570 จุด แต่ยังไม่สามารถทะลุผ่านขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลง โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1555 จุด ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขายทางเทคนิค และมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1530 และ 1510 จุด
  กลยุทธ์ : SET Index ยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวต้านสำคัญที่ 1570 จุด ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1555 จุด ถ้าปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่ำกว่า 1550 จุดลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1530 และ 1510 จุดเป็นเป้าหมายในการปรับตัวลดลง

 

Most Active Value:           แนวรับ   แนวต้าน
SCC สัญญาณขาย แนวโน้มลงทดสอบ 520-524 แนวต้าน 530 และ 534 524 / 520 530 / 534
KBANK เคลื่อนไหวในกรอบ 185-188 แนวรับสำคัญ 185 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 180 185 / 184 188 / 189
PTT แนวโน้มลงทดสอบ 380 และ 370 แนวต้าน 390 และ 394 384 / 380 390 / 394
AOT แนวโน้มลงทดสอบ 39.50 แนวต้าน 41.00 40.50 / 40.00 41.00 / 41.50
GL ขายที่แนวต้าน 23.50 และ 24.00 แนวรับสำคัญ 22.50 ถ้าหลุดแนวรับถัดไป 21.50 22.50 / 21.50 23.50 / 24.00
CPALL สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 63.00 และ 64.00 แนวรับ 61.50 61.50 / 61.00 62.50 / 63.00
SCB แนวโน้มลงทดสอบ 152 แนวต้าน 157 153 / 152 156 / 157
BBL สัญญาณฟื้นตัว แนวรับ 180 แนวต้าน 182 180 / 178 182 / 183
INTUCH ขายที่แนวต้าน 54.50 แนวรับ 53.00 และ 52.00 53.50 / 53.00 54.50 / 55.00
KTB แนวโน้มลงทดสอบ 19.00 แนวต้าน 19.60-19.80 19.40 / 19.20 19.60 / 19.80

Charn Issara Development (CI TB; THB 2.00) – ซื้อ


  แนวต้าน : 2.10 และ 2.20
  แนวรับ : 2.00 และ 1.98
  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาได้ ทำให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
  แนะนำซื้อ CI โดยมีแนวรับที่ 2.00 และ 1.97 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 2.10 และ 2.20 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 1.95 ลงไป

Prodigy (PDG TB; THB 4.52) – ซื้อ
  แนวต้าน : 4.74 และ 4.88
  แนวรับ : 4.50 และ 4.44


  ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไรในระยะสั้น แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
  MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยที่ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
  แนะนำซื้อ PDG โดยมีแนวรับที่ 4.50 และ 4.44 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 4.74 และ 4.88 เป็นจุดขายทำกำไร
  STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.30 ลงไป

Trading Pick Follow up:         แนวรับ   แนวต้าน
DIMET แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.90 และ 4.00 แนวรับสำคัญ 3.50 3.70 / 3.60 3.80 / 3.90
SYNTEC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 4.70 และ 4.80 แนวรับสำคัญ 4.40 4.44 / 4.40** 4.60 / 4.70
SYNEX แนวโน้มขึ้นทดสอบ 11.00 และ 11.40 แนวรับสำคัญ 9.85 10.60 / 10.40 11.00 / 11.40
TPOLY แนวโน้มขึ้นทดสอบ 4.80 และ 4.88 แนวรับสำคัญ 4.44 4.60 / 4.50 4.80 / 4.88
BA แนวโน้มขึ้นทดสอบ 20.80-21.00 แนวรับสำคัญ 19.90 20.40 / 20.20 20.60 / 20.80
EPG แนวโน้มขึ้นทดสอบ 14.20 และ 14.50 แนวรับสำคัญ 13.00 13.20 / 13.00** 13.60 / 14.00
SEAOIL สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.40 และ 3.50 แนวรับสำคัญ 3.08 3.24 / 3.20 3.40 / 3.50
UV สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 7.50 และ 7.70 แนวรับสำคัญ 6.80 7.10 / 7.00 7.25 / 7.40

Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)

 

SET…sideway down
  เราประเมินว่าตลาดในช่วงนี้ยังคงเคลื่อนไหวแบบ sideway down เพื่อรอดูทิศทางของปัจจัยต่างๆ ที่จะเข้ามากระทบในเดือนนี้ โดยปัจจัยหลักประกอบไปด้วย 1) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันที่ 2-3 พ.ค. 2) เส้นตายในการอนุมัติร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราวในการบริหารประเทศของสหรัฐฯ ในวันที่ 5 พ.ค. 3) การเลือกตั้งรอบตัดสินในฝรั่งเศสในวันที่ 7 พ.ค. 4) สถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี5) การประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 ที่จะทยอยประกาศออกมาภายในกลางเดือนนี้ 6) การประกาศ MSCI Semi-Annual Indexreview ในวันที่ 15 พ.ค. 7) การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 24 พ.ค. และ 8) การประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 25 พ.ค.


  สำหรับผลการประชุมเฟด เราคาดว่าเฟดจะมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.00% ตามที่ตลาดคาดและคาดว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 2 ของปีขึ้น 0.25% เป็น 1.25% ในเดือนมิ.ย.และปรับครั้งสุดท้ายของปีอีก 0.25% เป็น 1.50% ในเดือนธ.ค. นี้ ในขณะที่คาดการณ์ของเฟดยังคงคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยปีละ 3 ครั้ง ในช่วงปี 2017-2019 ส่งผลให้ในปลายปี 2019 อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดจะขึ้นไปอยู่ที่3.00% โดยหากเป็นไปตามที่ตลาดคาดก็คงไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับตลาดหุ้น แต่แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้นในอนาคตจะส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond yield) ปรับขึ้นตาม ซึ่งไม่เป็นผลดีกับกลุ่มกองทุนอสังหาฯ/กองทุนโครงสร้างพื้นฐานและหุ้นที่เป็น bond proxy อย่าง ADVANC INTUCH


  ส่วนผลการเลือกตั้งรอบตัดสินของฝรั่งเศสในวันที่ 7 พ.ค. หากนายมาครองชนะตามคาดก็จะส่งผลบวกกับการลงทุนทั่วโลก ทั้งนี้โพลล์สำรวจบ่งชี้ว่า ในการเลือกตั้งรอบ 2 (รอบตัดสิน) นายมาครองจะชนะนางเลอเปนด้วยคะแนน 66% ต่อ 34% ทำให้ตลาดคลายความกังวลความเสี่ยงที่ฝรั่งเศสจะออกจากยูโรโซน (Frexit) ตามอังกฤษ (Brexit) ไป ทั้งนี้เนื่องจากนายมาครอง เป็นผู้ก่อตั้งแคมเปญ "En Marche!" ซึ่งเป็นกลุ่มความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีจุดยืนนิยมสายกลาง (Center wing) โดยหวังที่จะสร้างความสมานฉันท์ขึ้นในฝรั่งเศส หลังจากที่เขามองว่า สังคมฝรั่งเศสตกอยู่ภายใต้ภาวะที่มีการแบ่งแยกทางการเมืองมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีนโยบายที่จะสานต่อความร่วมมือในระดับนานาชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการคงสถานะของฝรั่งเศสให้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไป และเน้นขยายความร่วมมือกับเยอรมนีในการพิทักษ์สหภาพยุโรปให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น


  สำหรับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ล่าสุดเมื่อวานนี้สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือได้วิจารณ์การส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดซ้อมรบของสหรัฐเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำยั่วยุที่ขาดการไตร่ตรองของกองทัพ นอกจากนี้ ทางสำนักข่าว KCNA ยังรายงานว่า "การกระทำยั่วยุที่ขาดการไตร่ตรองของกองทัพได้กระตุ้นให้สถานการณ์บริเวณคาบสมุทรเกาหลีเข้าใกล้ความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์" โดยสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีถือว่ามีความเปราะบางสูงและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีสถานการณ์ความรุนแรงก็จะส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างแน่นอนสำหรับสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ล่าสุดเมื่อวานนี้สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) ของทางการเกาหลีเหนือได้วิจารณ์การส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดซ้อมรบของสหรัฐเหนือน่านฟ้าเกาหลีใต้เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำยั่วยุที่ขาดการไตร่ตรองของกองทัพ นอกจากนี้ ทางสำนักข่าว KCNA ยังรายงานว่า "การกระทำยั่วยุที่ขาดการไตร่ตรองของกองทัพได้กระตุ้นให้สถานการณ์บริเวณคาบสมุทรเกาหลีเข้าใกล้ความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์" โดยสถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีถือว่ามีความเปราะบางสูงและต้องติดตามอย่างใกล้ชิด หากมีสถานการณ์ความรุนแรงก็จะส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างแน่นอน


  สำหรับการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 สัปดาห์นี้คาดว่าจะมีการประกาศของ IRPC SNC ในขณะที่สัปดาห์หน้าในวันที่ 8 พ.ค. คาดว่าจะมีบริษัท TU TNR วันที่ 9 พ.ค. KCE MAKRO QH SPALI TASCO วันที่ 11 พ.ค. MEGA SVI M MC GFPT BJC BIGC AP PSH BJCHI FSMART MALEE CPALL CPF LH THCOM ANAN DRT วันที่ 12 พ.ค. AP LH TIPCO STA SC CBG โดยเราแนะนำให้เข้าซื้อเก็งกำไรบริษัทที่ประกาศผลการดำเนินงานออกมาดีกว่าคาดและมี upside ที่น่าสนใจเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายตามปัจจัยพื้นฐาน ส่วนการประกาศหุ้นเข้า/ออกจากดัชนี MSCI Semi-Annual Index review ในวันที่ 15 พ.ค. (รู้ผลเช้าวันที่ 16 พ.ค. เวลาประเทศไทย) เราคาดว่าหุ้นที่ถูกเลือกเข้าคำนวณจะ outperform ตลาดได้ในช่วงที่เหลือของเดือนไปจนวันที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มิ.ย. โดยตลาดคาดว่า TCAP จะถูกเลือกเข้าไปในการคำนวณดัชนีในรอบนี้และ BEC คาดว่าจะถูกตัดออก


  ทิศทางราคาน้ำมันดิบในช่วงนี้ยังปรับลดลงอย่างต่อเนื่องหลังขาดปัจจัยใหม่มากระตุ้น โดยราคาน้ำมันดิบปรับลดลง 5.45 ดอลลาร์/บาร์เรลหรือ -10.3% ในช่วง 3 สัปดาห์ จากระดับ 53.11 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 47.66 ดอลลาร์/บาร์เรล จากจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องบวกกับความไม่แน่นอนว่าโอเปกจะยังคงมีการตรึงกำลังการผลิตน้ำมันต่อไปอีก 6 เดือนสิ้นสุดปลายปีนี้หรือไม่ โดยต้องติดตามการประชุมโอเปกในวันที่ 25 พ.ค. ว่าจะมีท่าทีอย่างไร หากมีการต่อเวลาการตรึงกำลังการผลิตออกไปก็คาดว่าจะช่วยให้ราคาน้ำมันฟื้นตัวกลับไปยืนเหนือ50 ดอลลาร์/บาร์เรลได้ อย่างไรก็ตามเราคาดว่าในช่วงนี้จะเห็นการขายทำกำไร/ short sell หุ้นกลุ่มพลังงานออกมาเนื่องจากว่าดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับลดลงแค่ 1.7% ยังไม่สะท้อนกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลงถึง 10.3% ในช่วงเวลาเดียวกัน
  กลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ หุ้นกลุ่มหลักอย่างพลังงาน (ราคาน้ำมันปรับลง) ธนาคาร (NPL เพิ่มขึ้น, โบรกเกอร์มีการปรับลดคำแนะนำและราคาเป้าหมาย) และ ICT (ขาดปัจจัยหนุนระยะสั้น) ยังคงเผชิญกับแรงขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้นักลงทุนเน้นเลือกการลงทุนเป็นรายตัว (selective buy) ในหุ้นที่มีปัจจัยบวกมาหนุนในระยะสั้นมากกว่า ดังนั้นเราคาดว่าดัชนีจะปรับฐานลงแบบ sideway down ไปจนกว่าจะมีปัจจัยใหม่มากระตุ้น โดยวันนี้เราให้แนวรับที่ 1557-1560 จุดและแนวต้านที่ 1570-1575 จุด หุ้นแนะนำคือ BEM HANA SC TCAP

Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)

 

Morning Market Summary…
  SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,567.25 จุด เพิ่มขึ้น 3.13 จุด (+0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 15,621.12 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบด้วยปริมาณซื้อขายเบาบาง ตลาดยังรอปัจจัยใหม่มาหนุน ด้านตลาดภูมิภาคแกว่งบวก-ลบ ติดตามผลการประชุมเฟด (คืนนี้)

Afternoon Perspective…
  แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย ภาพตลาดยังคงขาดปัจจัยหนุน ส่งผลให้คาดว่าตลาดจะยังคง sideway อย่างต่อเนื่อง ด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง โดยเป็นการเลือกซื้อเก็งกำไรหุ้นรายตัวเป็นหลัก โดยบ่ายนี้คาดว่าจะยังมีแรงซื้อเข้ามาในหุ้น BJC ที่ เมื่อเช้านี้มีรายงานว่า EVER BEST Enterprise (ซึ่งเป็นบริษัทของคุณเจริญและคุณวรรณา สิริวัฒนภักดี) ได้มีการซื้อหุ้น BJC เพิ่ม 2.76% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (ที่มีรายการ big lot BJC 110 ล้านหุ้นที่ราคาเฉลี่ย 43.25 บาท) จนทำให้ปัจจุบันมีการถือหุ้น 6.14% แม้ว่าผลการดำเนินงานไตรมาสแรกอาจมีผลกระทบจากค่าเสื่อมราคาที่จะเพิ่มขึ้นจากการตีราคาสินทรัพย์ของ BIGC เพิ่มขึ้นก็ตาม (เป็นเรื่องที่ตลาดทราบอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว) แต่กำไรปกติจากการดำเนินงานยังคงเติบโตสูงทั้ง yoy และ qoq ดังนั้นราคาหุ้นปัจจุบันที่ปรับลดลงมาจึงเป็นโอกาสในการเข้าซื้อที่ดี โดยเราให้ราคาเป้าหมาย 56 บาท ในขณะที่หุ้นตัวอื่นที่ปรับลงมาอยู่ในระดับน่าสนใจเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นประกอบด้วย HANA MC GFPT และ SC บ่ายนี้ให้แนวรับที่ 1560-1563 จุดและแนวต้านที่ 1570-1575 จุด

Technical Pick (PM) ...
  Syntec Construction (SYNTEC TB; THB 4.58) - ซื้อ
  Eason Paint (EASON TB; THB 4.06) - ซื้อ

 

Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!