- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 02 May 2017 17:33
- Hits: 1544
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มลงทดสอบ 1550 แนวต้าน 1570
SET Index: 1566.18 เคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่องที่บริเวณ 1565 จุด หลังจากพยายามฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด ซึ่งเรายังคงคาดว่า แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับ 1530 จุดบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน และมีแนวรับสำคัญที่ 1510 จุด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1580 จุด ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ จะมีโอกาสทดสอบจุดสูงสุดที่ระดับ 1600 จุด
แนวต้าน : 1568 และ 1570
แนวรับ : 1562 และ 1560
KBANK = 187 / 189, SCC = 530 / 534, CPALL = 61.00 / 61.50, AOT = 40.50 / 41.00, PTT = 396 / 390
Sea Oil (SEAOIL TB; THB 3.22) – ซื้อ
แนวต้าน : 3.40 และ 3.50
แนวรับ : 3.20 และ 3.16
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นค่อนข้างสูง หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ SEAOIL โดยมีแนวรับที่ 3.20 และ 3.16 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 3.40 และ 3.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 3.08 ลงไป
Univentures (UV TB; THB 7.10) – ซื้อ
แนวต้าน : 7.50 และ 7.70
แนวรับ : 7.10 และ 7.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวโน้มลง RSI เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50
แนะนำซื้อ UV โดยมีแนวรับที่ 7.10 และ 7.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 7.50 และ 7.70 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ยังแกว่งกรอบแคบ
ดัชนีกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 11 ธนาคาร พบว่าหลังงบออกได้เกิดแรงขายหุ้นออกมา จนดัชนีกลุ่มบวกลดลงจากสูงสุดของปีที่เกือบ 12% เหลือเพิ่มขึ้นเพียง 7% นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ส่วนกลุ่มที่ส่งสัญญาณการขึ้นอย่างโดดเด่น คือกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน ซึ่งตอนนี้ขึ้นมานับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันถึง 6% (สูงสุดนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน) สะท้อนนักลงทุนมีมุมมองในเชิงบวกกับภาพใหญ่ของอุตสาหกรรมรวมทั้งแรงเก็งกำไรงบ Q1/17
ดัชนีกลุ่มพลังงาน 9 บริษัทไม่รวมปิโตรเคมี นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน เพิ่มขึ้นเพียง 3% ขณะที่ดัชนี SET ขึ้นเพียงเกือบ 1.5% ซึ่งถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน นอกจากนั้นหากมาดูกลุ่มที่ถือว่า Outperform หรือขึ้นได้แรงในปี 2016 อย่าง อาหาร/เครื่องดื่ม ลิสซิ่งและโรงพยาบาล พบว่านับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันดัชนีกลุ่มเหล่านี้ยังติดลบ นำโดย ลิสซิ่งที่ยังติดลบสูงถึง-25% ตามมาด้วย โรงพยาบาลเกือบ-10%และอาหาร/เครื่องดื่ม-6%
การดีดตัวขึ้นมาอย่างโดดเด่นของราคาหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์สร้างบ้าน น่าจะเกิดจากการมองงบ Q1/17 ที่กระเตื้องขึ้น หลังเริ่มมีสัญญาณในเชิงบวกกับกลุ่มทั้ง อัตราการปฎิเสธการจองบ้านลดลง ยอดขายเริ่มฟื้นตัว จากการออกโครงการใหม่ๆ เป็นกลุ่มที่ต่างชาติถือน้อย (Underowner) และเป็นกลุ่มที่ถือว่ายังไม่แพง (P/E) แต่ยังมีแรงกดจาก Inventory ในส่วนของคอนโด หุ้นในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจคือ AP (+6%) ANAN
(0%)และ SPALI (-1.8%)
ทิศทางดัชนีในสัปดาห์นี้ คาดน่าจะค่อยๆเห็นความชัดเจนเรื่องงบ ปัญหาคาบสมุทรเกาหลีและการตอบรับงบของตลาดหุ้นสหรัฐ ที่ออกมาดีเกินคาด และยังเป็นปัจจัยเชิงบวกกับตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจภายในและงบของหุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงินของไทยอย่างIRPC ดังนั้นในอาทิตย์นี้ มองดัชนี SET น่าจะค่อยๆ ยืนและซึมขึ้นได้ ภายใต้ไม่มีเหตุการณ์เชิงลบในคาบสมุทรเกาหลีหลังทางสหรัฐยังเปิดทางในการเจรจาและแรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งตอนนี้คาดว่างบ Q1/17 ของหุ้นใน S&P 500 ที่จะโตถึง 13.6%
วันนี้มองทิศทางดัชนี SET จะยังคงแกว่งตัวกรอบแคบทั้งแดนบวกและลบ หลังดัชนีตลาดหุ้นในภูมิภาคต่างปิดในแดนลบในวันจันทร์เพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ๆ ในอาทิตย์นี้ วันนี้มองแนวรับที่ 1562-1558 และแนวต้านที่ 1570-1575 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC ADVANC และ ซื้อ SPALI และ ANAN
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,566.18 จุด ลดลง 0.14 จุด (-0.01%) มูลค่าการซื้อขาย 17,964.76 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่มาหนุน บ้านเรายังคงติดตามการทยอยการประกาศผลประกอบการ 1Q17 ด้านตลาดภูมิภาคเคลื่อนไหวบวก-ลบ ขณะที่นักลงทุนรอผลประชุมเฟดและการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสในสัปดาห์นี้
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย คาดว่าตลาดยังคงขาดปัจจัยหนุนและน่าจะคง sideway ในกรอบ 1560-1570 ต่อไป โดยแรงขายยังกระจุกตัวอยู่ในหุ้นที่เป็นข่าวอย่าง ESSO ที่มีการแจ้งหยุดซ่อมบำรุงหน่วยกลั่นน้ำมัน 40 วันและ ITD ที่มีข่าวว่าอาจถูกองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA) ขึ้นบัญชีดำ ทำให้อาจเสียโอกาสในการเข้าประมูลโครงการต่างๆ ในอนาคตได้ ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่ 1) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ในวันที่ 2-3 พ.ค. โดยตลาดคาดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.00% 2) เส้นตายว่าสภาคองเกรสสหรัฐจะลงมติต่อร่างกฏหมายงบประมาณในการบริหารประเทศภายในวันศุกร์ที่ 5 พ.ค. นี้ได้หรือไม่ 3) การประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/60 ของบริษัทจดทะเบียน 4) ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี และ 5) การเลือกตั้งรอบตัดสินของฝรั่งเศสในวันที่ 7 พ.ค. นี้ ช่วงบ่ายเราให้แนวรับที่ 1560-1563 จุด และแนวต้านที่ 1570-1573 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร KBANK KCE MEGA SPRC
Technical Pick (PM) ...
Sea Oil (SEAOIL TB; THB 3.22) - ซื้อ
Univentures (UV TB; THB 7.10) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]