- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 April 2017 17:37
- Hits: 1972
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
แกว่งแคบ รอปัจจัยฝั่งสหรัฐฯ เพิ่มเติม + เข้าช่วงหยุดยาว 3 วัน
KGI คาด SET วันศุกร์ไซด์เวย์กรอบแคบ ฟันด์โฟลว์ยังคงชะลอ ก่อนการประชุมด่วนเรื่องงบประมาณสหรัฐฯ ในวันนี้ (วานนี้ดัชนีฯ แกว่งในกรอบจำกัด ตามคาด) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนนี้ไซด์เวย์เช่นกัน หลังจากตัวเลขสั่งซื้อสินค้าทุน และตัวเลขขายบ้านที่รอเซ็นสัญญา มี.ค. 2560 ต่ำกว่าตลาดคาด ขณะที่นักลงทุนชะลอก่อนการประชุมด่วนของสภาคองเกรสสหรัฐฯ เพื่ออนุมัติงบประมาณ (ไม่เช่นนั้นสหรัฐฯ ต้องปิดหน่วยงานบางส่วน คล้ายกับที่เคยเกิดขึ้นในยุคนายโอบามา) อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์ KGI มองประเด็นนี้มีผลจำกัดมากต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่วนฝั่งยุโรป ECB คงดอกเบี้ยและระดับของมาตรการกระตุ้น (QE) ไว้ที่เดิม คือทำ QE เดือนละ 6 หมื่นล้านยูโรไปถึงสิ้นปี 2560 และประธานเฟดยังส่งสัญญาณว่าสามารถยืดมาตรการไปในปี 2561 ได้หากจำเป็น เนื่องจากเงินเฟ้อยังไม่ถึงเป้าหมายของ ECB ด้านปัจจัยภายในเป็นบวก งบไตรมาส 1/2560 ของหุ้นตัวหลักของกลุ่มหลักๆ ล้วนสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ เช่น ADVANC*, PTTEP* (ดูในรายงานวันนี้) และ SCC* ที่รายงานไปเมื่อวันที่ 26 เม.ย. คาดว่าในเดือนหน้า ทางเราและตลาดน่าจะปรับเพิ่ม EPS ของ SET ได้บ้าง ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยช่วยจำกัดความเสี่ยงทางลงของดัชนีฯ ในช่วงที่ปัจจัยภายนอกและฟันด์โฟลว์ยังผันผวน
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไร PTTEP*, KCE*, ASAP
PTTEP* (เป้าพื้นฐาน 113 บาท) 1) เราประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบ Uptrend line 96.5 – 102.5 บาท 2) คาดว่า Consensus จะทยอยปรับประมาณการฯ และเป้าหมายขึ้น หลังรายงานงบฯ 1Q60 ดีกว่าคาดถึง +30% ... วันนี้ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯและเป้าหมายขึ้น อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในบทวิเคราะห๋ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ 3) ประเมิน Catalyst บวกที่รออยู่ในระยะสั้น คือการประมูลสัมปทานแหล่งเอราวัณและบงกช ในเดือน ก.ค. – ส.ค. นี้
KCE* (เป้าพื้นฐาน 122 บาท) 1) เราประเมินรูปแบบราคาฟื้นตัว ทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (SMA) ที่ 106 บาท และหากทะลุผ่านแนวต้านดังกล่าวได้ ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 114 บาท แนวรับ 100 บาท (Stop loss 99 บาท) 2) ปัจจัยหลักที่กดดัน ผลการดำเนินงาน และราคาหุ้นที่ผ่านมาคือการปรับขึ้นของราคาทองแดงในตลาดโลก เริ่มผ่อนคลาย หลังราคาทองแดงล่าสุดปรับลดลงจากจุดสูงสุดในเดือน ก.พ. ราว 8 - 10% 3) ประเมินค่าเงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงในระยะสั้น เทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ (KCE รับรู้รายได้เป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯราว 90%)
ASAP (ยังไม่มีเป้า Consensus) 1) ประเมินราคาหุ้น Laggard KCAR ที่ทำธุรกิจใกล้เคียง 2) เราประเมินภาพรวมราคารถมือสองในประเทศเริ่มฟื้นตัวจะเป็น Catalyst หลักที่ส่งผลต่อแนวโน้มกำไร (รายได้จากการขายรถที่ครบกำหนดสัญญาเช่าคิดเป็นราว 20 – 25%) 3) ประเมิน Valuation จากประมาณการฯในบทวิเคราะห์หุ้น IPO ของฝ่ายวิจัยฯ คาด EPS ปี 2560 – 2562 เติบโตเฉลี่ย 29% CAGR หากใช้วิธีประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PEG ที่ระดับ 1 เท่า จะได้ราคาเหมาะสม 5.2 บาท (ประเมิน EPS ปี 2560 = 0.18 บาท) 4) ประเมินแนวรับ 3.90 บาท แนวต้านสั้น 4.08 บาท หากทะลุผ่านได้ ประเมินมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 4.24 บาท (Stop loss 3.84 บาท)
หุ้นในกระแส
ห้นกลุ่มสื่อสาร (ADVANC*: งบฯ ดีกว่าคาด) และกลุ่มพันธมิตรมือถือ (COM7*: ข้อมูลชี้ชัดได้ประโยชน์จากลูกค้า TRUE*)
1) ADVANC* รายงานผลประกอบการ 1Q60 ดีกว่าคาด 20% และดีกว่า Consensus คาด 16% จากต้นทุน SG&A ที่ต่ำกว่าคาด (ตามแผนที่จะลดรายจ่ายการตลาดฯ) แนะนำ “เก็งกำไร” แนวรับ 173 บาท แนวต้านแรก 175.5 บาท หากผ่านได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±180 บาท (Stop loss 172 บาท)
2) COM7* จากการรายงานผลประกอบการของ ADVANC* และ DTAC* เห็นได้ชัดว่า จำนวนผู้ใช้บริการรายใหม่ (Net Adds) ลดลงใน 1Q60 อย่างชัดเจน ขณะที่คาดว่าส่วนแบ่งตลาดฯดังกล่าวจะไหลไปที่ผู้เล่นรายใหญ่อีกรายคือ TRUE* ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อ COM7* ที่เป็นพันธมิตรกับ TRUE* ซึ่ง COM7* จะช่วยขายซิม TRUE* และได้ค่าคอมมิชชั่น ±1 พันบาท โดยใน 1Q60 คาดขายซิม TRUE* ได้ราว 4 – 5 หมื่นซิม (นสพ กรุงเทพธุรกิจ วันที่ 27 เม.ย.) แนะนำ “ซื้อ” แนวรับ 10 บาท แนวต้าน 10.6 บาท (Stop loss 9.9 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) SGF งบ Q2 ติดเครื่องแรง พอร์ตสินเชื่อทะลุ 2 พันล. (ทันหุ้น) SGF ส่องผลงานไตรมาส 2/2560 โตไม่หยุด หลังผุดสาขาเพิ่มแล้ว 18 สาขา ส่วนสิ้นปีนี้คาดจะเปิดสาขาให้ครบ 60 สาขา แย้มดีลเข้าซื้อกิจการ ตั้งเป้าปิดดีลไตรมาสละ 1 ดีล ฟากผู้บริหารมั่นใจพอร์ตสินเชื่อทะลุ 2 พันล้านบาท กด NPL ลดฮวบ
(+) PTTGC* กอดหุ้น VNT แน่นสบช่องลงทุนร่วมอาซาฮี (ทันหุ้น) PTTGC* ยันไม่ขายหุ้น VNT มองเป็นโอกาสดีในการร่วมลงทุนกับผู้ถือหุ้นใหญ่อาซาฮี เผยเบื้องต้นเตรียมเจรจาเพื่อหาข้อสรุปลงทุนในเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษร่วมกัน คาดได้ข้อสรุปที่ชัดเจนภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ด้าน GGC มั่นใจพื้นฐานแกร่งธุรกิจขาขึ้นพร้อมหนุนราคาหุ้นเติบโตหลังเข้าเทรดในวันที่ 2 พฤษภาคมนี้ ระดมทุนขยายธุรกิจ
(+) กำลังซื้อฟื้นช่วยค้าปลีกคึกคัก เซเว่นทุ่มหนักขยาย 600 สาขา (ไทยโพสต์) ค้าปลีกไตรมาสแรกโตแรง 3% CPALL* ทุ่มงบ 5,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายร้านเซเว่นฯ เพิ่มอีก 600 สาขา เล็งดึงสินค้าการเกษตรจำหน่ายเพิ่ม ตั้งเป้าปี 60 โกยรายได้กลุ่มเอสเอ็มอีทะลุ 1 หมื่นล้านบาท
(+) JAS* ดันรายได้ปีนี้เติบโต 15% เท 4,000 ล.ปรับโครงข่าย ฉลุย!ขายใยแก้วนำแสง (ไทยโพสต์) JAS* ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15% หลังผู้ใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่ม ตั้งเป้าผู้ใช้บริการ 2.52 ล้านราย มองแนวโน้มยังมีทิศทางบวก เทงบ 4,000 ล้านบาท ปรับปรุงโครงข่าย ผู้ถือหุ้นอนุมัติขายทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเข้ากอง JASIF มูลค่า 5-7 หมื่นล้านบาท
(+) ORI ผุด 4 คอนโด รับลงทุนรถไฟฟ้าปลุกอสังหาฯรอบใหม่เร่งปั้นแบรนด์ชิงธงผู้นำ (โพสต์ทูเดย์) ออริจิ้นกางแผนลงทุนรับรถไฟฟ้าปลุกอสังหาฯ คาดไตรมาส 3 ตลาดพีกสุด จ่อเปิด 4 โครงการมูลค่า 8,400 ล้าน นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เปิดเผยว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2560 มีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น และเชื่อว่าจะพีกสุดในไตรมาส 3 เนื่องจากความชัดเจนของการลงทุนภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าที่เริ่มเปิดหน้าดินก่อสร้างหลายสาย เช่น สายสีชมพู แคราย-มีนบุรี สายสีเหลือง ลาดพร้าว-สำโรง เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์
(+) คาด'รถใหม่-ศก.'ดันยอด เม.ย. โตต่อ (กรุงเทพธุรกิจ) โตโยต้าชี้ปัจจัยบวก มาตรการกระตุ้นภาครัฐ ผ่อนคลายปล่อยสินเชื่อ อานิสงส์"รถใหม่-เศรษฐกิจ-ราคาสินค้าเกษตรฟื้น" ดันยอดขายรถไตรมาสแรก โต 16% เผยเดือน มี.ค. รถเก๋งพุ่ง 41% คาด เม.ย.ขยายตัวต่อเนื่อง รับผลดี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ-ผ่อนคลาย นโยบายการเงิน
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
BCPG* (เป้าพื้นฐาน 15 บาท) แนะนำ “Let profit run” ประเมินแนวต้านถัดไป 14 บาท เป็นจุดขายล๊อกกำไร และกำหนด Trailing stop ถ้าปิดต่ำกว่า 13 บาท
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) ยืนเหนือแนวราคา 2.06 บาทได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±2.18 บาท (Stop loss 2.0 บาท) ... ปันผล 0.10 บาท/หุ้น (Dividend yield 4.85%) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 พ.ค. + ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดในปีก่อน อย่างไรก็ดีคาดการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานจะเริ่มเด่นชัดใน 2Q60
UKEM (ยังไม่มีเป้า Consensus) ประเมินแนวรับ 2.0 บาท แนวต้านแรก 2.22 บาท หากทะลุผ่านได้ ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ ±2.4 บาท (Stop loss 2.0 บาท) ... คาดผลการดำเนินงาน 1Q60 ยังโตเด่น YoY และบันทึกกำไรพิเศษการขายหุ้น GIFT ให้กองทุน Templeton
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 84 บาท) แนะนำ “Let profit run” โดยประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±79 บาท (กำหนด Trailing stop 74.5 บาท) … คาดกำไร 1Q60 โตเด่น YoY และ QoQ
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 78 บาท) ประเมินแนวรับ 62.5 บาท แนวต้าน 64.5 บาท และถัดไปที่ 67.25 บาท (Stop loss 62 บาท)
SCC* (เป้าพื้นฐาน 640 บาท) ประเมินกรอบ แนวรับ – แนวต้าน 540 – 560 บาท แนะนำ “เก็งกำไรในกรอบแนวรับ – แนวต้าน”
MTLS* (เป้าพื้นฐาน 40 บาท) ประเมินแนวรับ 27.75 บาท แนวต้าน 31 บาท และถัดไปที่ 32.75 บาท (Stop loss 27 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
PTTEP* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 113 บาท รายงานกำไรสุทธิ 1Q17 = 1.23 หมื่นล้านบาท (+118% YoY, และพลิกจากขาดทุนใน 4Q59) ดีกว่าคาด 28% และดีกว่า Consensus คาด 32% ฝ่ายวิจัยฯปรับประมาณการฯ ปี 2560 – 2561 ขึ้นสะท้อน งบที่ดีกว่าคาด 33% และ 15% ตามลำดับ และปรับเป้าพื้นฐานขึ้นเป็น 113 บาท (เดิม 93 บาท) และ Catalyst บวกที่รออยู่ในเดือน ก.ค. – ส.ค. คือการประมูลสัมปทาน แหล่งบงกช และเอราวัณ
FN แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 9.2 บาท Same store sale growth ใน 1Q60 ของ FN ต่ำกว่าที่คาด แต่กำลังซื้อที่มีแนวโน้มกลับมาฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งใน 2H60 บวกกับ โครงสร้างธุรกิจที่มีความแข็งแกร่งและเสียงการตอบรับที่ดีต่อการเปิดสองสาขาใหม่ของ FN คาดจะหนุนให้กำไรสุทธิของ FN ในปีนี้เติบโตได้ถึง 33.3% YoY จึงยังคงแนะนำ “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายที่คำนวณโดยวิธี DCF ที่ 9.20 บาทลดลงจากเดิมที่ 10 บาท
GFPT แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 18.6 บาท ภาพรวมอุตสาหกรรมฯยังคงดี (ผลจากการระบาดของไข้หวัดนกในหลายประเทศ) อย่างไรก็ดีราคาหุ้นปรับขึ้นสะท้อนปัจจัยบวกดังกล่าวแล้ว ฝ่ายวิจัยฯ จึงปรับลดคำแนะนำลง เป็น “ถือ”
SPALI* แนะนำ “ถือ” เป้าพื้นฐาน 26.8 บาท SPALI ทำยอด presales ใน 1Q60 ได้ 7.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 43% YoY และคิดเป็นสัดส่วน 28% ของเป้าปี FY60 ขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิใน 1Q60 จะลดลง 22.1% YoY และ 9.9% QoQ เหลือ 1.08 พันล้านบาท เนื่องจากโครงการที่โอนใน 1Q60 เป็นโครงการขนาดกลางถึงเล็ก แต่อย่างไรก็ดี คาดว่ากำไรน่าจะเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ 2Q60 เป็นต้นไป และถึงจุดสูงสุดใน 3Q60
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- กรอบราคา 1564 – 1569 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1569 จุด อาจผลักราคาขึ้นในกรอบ 1569-1585 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1564 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1564-1552 จุด
แนวรับวันนี้: 1564/1554 แนวต้านวันนี้: 1569/1579
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]