- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 April 2017 17:35
- Hits: 2027
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : AAV, ADVANC, PTTEP, SPRC, SYNEX, WORK
Our Portfolio Apr 2017 : GLOBAL, KBANK, MINT, SYNEX, TACC
ระยะสั้นทำกำไรตามแนวต้าน ระยะกลาง-ยาวยังถือต่อ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ปรับตัวในกรอบแคบตามคาดหลังแผนการปฏิรูปภาษีของสหรัฐฯซึ่งไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนมากพอ ทำให้ตลาดยังขาดปัจจัยบวกหนุน ขณะที่ BOJ ยังคงนโยบายการเงินแต่ปรับเพิ่มประมาณการ GDP ขึ้นจากครั้งก่อน ส่วนกระแสเงินทุนจากนักลงทุนต่างชาติยังไม่ได้ไหลเข้าสังเกตได้จากค่าเงินบาทที่ยังอ่อนค่า โดยยังมีสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้นและพันธบัตรรวมกันราว 2.4 พันลบ. ขณะที่ซื้อในตลาดฟิวเจอร์สเพียง 300 ลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET index จะยังคงปรับตัวในกรอบแคบต่อเนื่อง หลังการประชุม ECB วานนี้ยังคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0% แต่ปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรจาก 8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนเหลือ 6 หมื่นล้านยูโรต่อเดือนไปจนถึงสิ้นปีเป็นอย่างน้อย ขณะที่คืนนี้ตลาดยังจับตาดูประเด็นปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐฯที่เต็มและอาจทำให้เกิดการ Shut Down หน่วยงานราชการอีกครั้ง อย่างไรก็ตามกำไรของ ADVANC ที่ประกาศออกมาดีกว่าคาดอาจช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนได้บ้าง ขณะที่ด้านเทคนิคเราคาดว่าจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ 1560-1573 จุด
กลยุทธ์ : ระยะสั้น แนะนำขายทำกำไรหากดัชนีไม่สามารถทะลุเหนือ 1570-1573 จุด ระยะกลาง-ยาว ยังแนะนำถือต่อหลังทยอยสะสมเพิ่มไปแล้วบริเวณ 1560-1555 จุด
แนวรับ 1564-1560 , 1555 จุด
แนวต้าน 1570-1573, 1575 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BJC, AUCT, CENTEL (buyback)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาคเบาบางลงเหลือ US$120ล้าน นำโดยไต้หวัน US$96ล้าน อินโดนีเซีย US$35ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$18ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคแต่อาจชะลอตัวลงตามราคาน้ำมันที่ดิ่งลง ~2% เมื่อคืนนี้และรอการลงมติร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราว
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ADVANC กำไรดีกว่าเราและตลาดคาด +17% Q-Q, -15% Y-Y ดีกว่าเราและตลาดคาด 20-25% จากค่าใช้จ่าย Handset subsidy ที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ในไตรมาสนี้บริษัทปรับกลยุทธ์หันมาเน้นคุณภาพลูกค้ามากขึ้น เลือกทำ Handset Subsidy เฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มี ARPU สูง แม้จะทำให้ลูกค้าไหลออกและรายได้ลดลงแต่กลับมีกำไรเพิ่มขึ้น EBITDA margin เพิ่มขึ้น เราปรับกำไรปีนี้ขึ้น 9% เป็น -5% Y-Y (จาก -12% Y-Y) ปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 185 บาทจาก 170 บาท แต่ upside ยังต่ำกว่า 10% จึงแนะนำถือ
(+) AAV เราคาดกำไรปกติ 1Q17 กลับมาโตแข็งแกร่ง +283% Q-Q ตามฤดูกาลและการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีน แต่ -30% Y-Y จากต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้นและการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง เรายังมองทิศทางผลประกอบการปีนี้เป็นบวก แม้ราคาน้ำมันจะปรับขึ้นแต่บริษัท hedge ไว้ 74% จนถึง 4Q17 แล้ว เรายังคาดกำไรทั้งปี +17% Y-Y คงคำแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 7.10 บาท
(+) SYNEX เราคาดกำไร 1Q17 ทำสถิติสูงสุดที่ 131 ล้านบาท +11% Q-Q, +33% Y-Y จากการเพิ่มสินค้าใหม่ถึง 4 แบรนด์ในไตรมาสเดียวคือ D-Link, DJI, belkin, Apple (ยกเว้นสมาร์ทโฟน) ช่วยเสริมตลาด Commercial ที่บริษัทรุกมากขึ้นและ product mix ที่ดีทำให้อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้น กรณีมือถือหัวเหว่ยรุ่น Mate9 และ P10 ที่ผู้บริโภคร้องเรียนต่อ สคบ. ว่าชิ้นส่วนไม่ตรงสเปค คาดไม่กระทบอย่างมีนัยสำคัญ เพราะมือถือแบรนด์หัวเหว่ยทุกรุ่นมีสัดส่วนรวมกันไม่เกิน 10% ของรายได้รวม เรายังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 15.50 บาท
(+) WORK เราคาดกำไรสุทธิ 1Q17 ฟื้นแรงเป็น 74 ล้านบาท +159% Y-Y และฟื้นจากขาดทุนใน 4Q16 จากค่าโฆษณาที่ปรับขึ้นต่อเนื่องตามเรทติ้ง จากเฉลี่ย 46,000 บาท/นาทีใน 1Q16 เป็น 61,000 บาท/นาทีใน 1Q17 และการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น รวมทั้งมีรายได้จัด Event และคอนเสิร์ตเพิ่มขึ้น แนวโน้มกำไร 2Q17 จะเร่งตัวขึ้นเพราะ High season เรายังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 62 บาท
(0) SPRC เราคาดกำไรปกติ 1Q17 -31% Q-Q เพราะกำไรจากสต็อกน้ำมันลดลง แต่ +45% Y-Y เพราะใน 1Q16 มีขาดทุนสต็อก ส่วนค่าการกลั่นในไตรมาสนี้คาดเพิ่มเล็กน้อย +1% Q-Q แต่ลดลงแรง -8% Y-Y ตามส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซิน และน่าจะมีกำไรจาก forex เพราะเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ทำให้คาดกำไรสุทธิ -17% Q-Q, +37% Y-Y เรามีมุมมอง Neutral ต่อแนวโน้มผลประกอบการ ขณะที่ upside จำกัดเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย 13.30 บาท ยังคงแนะนำถือ
(0) SPALI แนวโน้มกำไร 1Q17 ลดลงทั้ง Q-Q, Y-Y เพราะไม่มีมาตรการกระตุ้นเหมือนไหตรมาสก่อน แต่น่าจะเป็นกำไรต่ำสุดของปี ยอด Presales ที่ทำได้ดีมากถึง 7.5 พันล้านบาทใน 1Q17 ช่วย secure รายได้มากขึ้น ปัจจุบันมี PE ต่ำเพียง 7.7 เท่า แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 30 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
28 เม.ย. - ไทย: ธปท.รายงานภาวะเศรษฐกิจเดือน มี.ค.
- สหรัฐ:1Q17GDP (คาดการณ์ครั้งแรก), เส้นตายผ่านกม.งบประมาณ
30 เม.ย. - จีน:Manufacturing PMI (เม.ย.)
1 พ.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
- สหรัฐ: ISM Manufacturing (เม.ย.)
2-3 พ.ค. - สหรัฐ:ประชุม FOMC
2 พ.ค. - ไทย: อัตราเงินเฟ้อ (เม.ย.), GGCเริ่มเทรด (ราคา IPO 11.2 บาท)
- จีน:Caixin China PMI Mfg (เม.ย.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (เม.ย.)
3 พ.ค. - สหรัฐ:การจ้างงานภาคเอกชน (เม.ย.)
- ยูโรโซน:1Q17 GDP
4 พ.ค. - ไทย: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เม.ย.)
- จีน: Caixin China PMI Composite (เม.ย.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (เม.ย.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนปิดบวกเล็กน้อยจากผลประกอบการของ กลุ่มเทคโนโลยีที่สดใส อย่างไรก็ตาม มีแรงกดดันในหุ้นกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบ และ นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนการลงมติร่างกม.งบประมาณชั่วคราววันศุกร์นี้
(-) ด้านตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ จากผลประกอบการที่น่าผิดหวังโดยเฉพาะ Deutsche bank ขณะที่ ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามที่ตลาดคาด
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดผสม ตามภาวะตลาดโลก ขณะที่ตลาดจับตาการลงมติงบประมาณชั่วคราวสหรัฐฯคืนนี้
(0) ค่าเงินบาทเช้านี้ปรับตัวอ่อนค่า โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 34.55-34.63 บาท/ดอลลาร์
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดลบ 0.65 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.97 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีสาเหตุจากแหล่งผลิตน้ำมันในลิเบีย 2 แห่งกำลังการผลิตรวม 0.39 ล้านบาร์เรลต่อวัน กลับมาผลิตอีกครั้งหลังการประท้วงยุติลง นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากราคาสัญญาน้ำมันเบนซินที่ลดลงเพราะจำนวนสต๊อกอยู่ในระดับสูง ขณะที่ความต้องการยังต่ำกว่าปีก่อน
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปิดบวก 1.70 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,265.90 ดอลลาร์/ออนซ์ ขยับขึ้นครั้งแรกในรอบ 4 วัน หลังนโยบายภาษีของทรัมป์ไม่มีความชัดเจนเพียงพอ
Contact person : Jitra Amorntham
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: fss_research