- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 April 2017 17:48
- Hits: 3832
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (27/04/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “งบดีเกินคาดของ SCC ดันตลาด”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นในแดนบวกได้ 5.2 จุด โดยเฉพาะในช่วงบ่ายหลังจากที่งบ SCC ประกาศออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด ส่งให้ผลให้ตลาดมี Momentum เชิงบวกเข้ามาในกลุ่ม Big Cap โดยมีแรงซื้อสุทธิของกองทุนที่เข้ามาผลักดันตลาด ซึ่งกลุ่มที่ปรับตัวบวกได้มากที่สุดเป็นกลุ่มอสังหาเพิ่มขึ้น 1.1% DoD ตามมาด้วยกลุ่มก่อสร้างเพิ่มขึ้น 0.9% DoD ขณะที่กลุ่มสื่อสารยังปรับตัวลดลง 0.1% DoD เนื่องจากมีความกังวลว่า ADVANC งบจะออกมาแย่กว่าคาด (ประกาศงบวันนี้) ส่งผลทำให้ SET Index ปิดวานนี้ที่ 1,567.47 จุด มูลค่าซื้อขาย 47,478 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ตลาดหุ้นยุโรปDAX+0.05%CAC-40 +0.19% และFTSE100 +0.18%
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +0.1% มาอยู่ที่ 49.62 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA เปิดเผยตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 3.6 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลงเพียง 1.7 ล้านบาร์เรล
(+) ราคาถ่านหิน +0.2% มาอยู่ที่ 78.85 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
(+) ราคาทองคำที่ตลาด COMEX -0.2% อยู่ที่ 1,264.20 ดอลลาร์/ออนซ์
(+) ส.อ.ท.เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมเดือน มี.ค. อยู่ที่ 87.5 จุดเพิ่มขึ้นจาก 86.2 จุดในเดือนก.พ.
(+) AAV เปิดเผยจำนวนผู้โดยสารในช่วง 1Q60 เพิ่มขึ้น 11%YoY
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -21.03 จุด (-0.10%) แม้ว่าทางทรัมป์จะมีการเปิดเผยถึงมาตรการปฎิรูปภาษีที่จะปรับลดทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีบุคคลธรรมดา แต่ยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนนัก รวมถึงยังไม่มีตัวเลขว่าการปรับลดดังกล่าวจะกระทบกับผลขาดดุลงบประมาณมากน้อยเพียงใด
(-) นักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 1,075 ล้านบาท
(-) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 -3.8% มาอยู่ที่ 15.85 Cents/Pound
(-) AOT ต้องจ่ายค่าตอบแทนการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุเพิ่มเติมของสนามบินดอนเมืองและสนามบินภูมิภาคปี 50-59 จำนวน 1,264 ล้านบาท ส่วนของสนามบินสุวรรณภูมิยังอยู่ระหว่างเจรจา
(-) สหรัฐฯเตรียมใช้มาตรการจำกัดการนำเข้าเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯเช่น อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เป็นต้น
(-) สคร.สั่งให้ รฟท.เปิดรับฟังความเห็นโครงการรถไฟความเร็วสูงเส้นทาง กรุงเทพ-หัวหินและกรุงเทพ-ระยอง ใหม่หลังฉบับเดิมทำผิดเงื่อนไขพีพีพี
(+/-) ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือนมี.ค.เพิ่ม 24%MoMและ17%YoY ส่วนการผลิตเพิ่มขึ้น 16%MoM แต่ลดลง 7%YoY
(+/-) BDI ลดลง 7 จุด (-0.61%) มาอยู่ที่ 1,147 จุด
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบ 2 ในวันที่ 7 พ.ค.
การประชุม BOJ 26-27 เม.ย. (คาดคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน)
การประชุม ECB วันที่ 27 เม.ย. (คาดคงมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน)
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน มี.ค. (27 เม.ย.) GDP ไตรมาส 1 (28 เม.ย.) EU ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เม.ย. (27 เม.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “แกว่งตัวกรอบแคบ”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ โดยภาพรวมตลาดยังไม่มีปัจจัยเด่น ประกอบกับราคา Soft Commodities ที่ปรับตัวลดลง น้ำตาล ข้าวโพด ถั่วเหลืองปรับตัวลดลง สร้างแรงขายในกลุ่มเกษตรกดดัน อีกทั้งเริ่มมีความกังวลต่อกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้นจากความคืบหน้าของการปรับ tax สหรัฐ เราแนะนำทยอยสะสมกลุ่มรับเหมาก่อสร้างโดยมองเป็นกลุ่มที่มี Catalyst เด่นสุดเมื่อเทียบกับกลุ่มอื่น
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CK เก็งกำไร
Backlog เพียงพอสำหรับรับรู้รายได้ปี 60-61
รอลุ้นงานเขื่อนที่ลาว ขนาดโครงการราว 7-8 หมื่นล้านบาท
CGS แนะนำซื้อราคาเหมาะสม 33.50 บาท
CNT เก็งกำไร
รับโมเมนตัมบวกจากกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่จะมีการเก็งกำไรตามความคืบหน้าของการลงทุนจากภาครัฐ
ช่วงไตรมาส 1Q60 เซ็นงานก่อสร้างมูลค่า 3.6 พันลบ. ผู้บริหารคาด Backlog จะมีมูลค่างานในมือสูงสุดเป็นประวัติการณ์
1 หมื่นลบ.
ทีมวิเคราะห์