- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 26 April 2017 17:38
- Hits: 2113
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET lndex: แนวโน้มลงทดสอบ 1550 แนวต้าน 1570
SET lndex: 1561.66 เคลื่อนไหวในกรอบแคบที่บริเวณ 1560 จุด หลังจากฟื้นตัวค่อนข้างแรงที่บริเวณแนวรับ 1550 จุด แต่เมื่อพิจารณาแรงขายที่เกิดขึ้นเมื่อวานเทียบกับวันนี้ ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นยังอยู่ในกรอบแคบที่จำกัด โดยมีแนวต้านที่ 1570 จุด และยังมีโอกาสปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1550 จุด ถ้าหลุดจะมีโอกาสปรับตัวลดลงต่อเนื่องไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ 1520 จุด
แนวต้าน : 1562 และ 1565
แนวรับ : 1558 และ 1555
BANPU = 19.20 / 19.50, PTT = 386 / 388, SCC = 544 / 550, lRPC = 5.50 / 5.60, KBANK = 182 / 185
Bangkok Dusit Medical Services (BDMS TB; THB 20.20) - ซื้อ
แนวต้าน : 20.80 และ 21.00 / แนวต้านสำคัญ 21.30
แนวรับ : 20.20 และ 20.00
ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบ พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิคเหนือจุดต่ำสุดเดิมที่บริเวณ 19.80 ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ BDMS โดยมีแนวรับที่ 20.20 และ 20.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 20.80 และ 21.00 เป็นจุดขายทำกำไร
ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 19.90 ลงไป ซื้อเพิ่มที่ 19.50
Hwa Fong Rubber (Thailand) (HFT TB; THB 4.96) - ซื้อ
แนวต้าน : 5.20 และ 5.40 / แนวต้านสำคัญ 5.60
แนวรับ : 4.96 และ 4.92
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน ทาให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มลงต่อเนื่อง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบระดับ 60
แนะนำซื้อ HFT โดยมีแนวรับที่ 4.96 และ 4.92 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 5.20 และ 5.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 4.84 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…รอดูงบของหุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน
หลังผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ทยอยประกาศออกหมดแล้ว ในอาทิตย์นี้หุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่จะทยอยประกาศ คือSCC ADVANC และ PTTEP ซึ่งหากออกมาดีก็น่าจะช่วยหนุนปริมาณการซื้อขายของตลาดและพยุงดัชนีได้ อย่างไรก็ตามประเด็นที่มีผลต่อดัชนีในช่วงนี้ ยังหนีไม่พ้น 2 เรื่องคือ เหตุการณ์ในเกาหลีและการประกาศงบ Q1/17 ของหุ้นในสหรัฐ ประเด็นงบในสหรัฐ ต่างคาดกันว่าจะยังออกมาในเชิงบวก แต่ยังต้องติดตามว่าหากออกมาดี ตลาดจะเทขายหรือไม่
สภาพการซื้อขายในตลาดหุ้นตอนนี้ ดูเหมือนจะซึมลง ทั้งปริมาณการซื้อขายและเม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศ หากงบหุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงินอย่างพลังงานและปิโตรเคมี ออกมาดีหรือประคับประคองตัว ก็น่าจะช่วยพยุงดัชนีได้ระดับหนึ่ง แต่ที่ต้องระมัดระวัง คือ หากงบออกมาต่ำกว่าคาดหรือแย่กว่าคาด อาจจะมีแรงขายออกมาได้ เพราะราคาหุ้นส่วนใหญ่ยืนที่สูง ในบรรดาหุ้นในกลุ่มพลังงานต้นน้ำอย่าง PTTEP คาดงบ Q1/17ยังออกมาดีทั้ง YoY และ QoQ% จากการที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยใน Q1/17 ยังสูงกว่าใน Q1/16 และ Q4/16 แต่ในบรรดาโรงกลั่นและปิโตรเคมีน่าจะอยู่ในลักษณะ ขึ้นข้างหนึ่งและลบข้างหนึ่ง หลังส่วนต่างปิโตรเคมีและค่าการกลั่นใน Q1/17 ยังนิ่งๆ
อาทิตย์นี้คาดปัจจัยในเชิงบวกทางจิตวิทยา ยังคงเป็นการประกาศงบ Q1/17 ของ S&P 500 ส่วนปัจจัยกดดันคือ ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี ส่วนแนวโน้มการเคลื่อนไหวของดัชนี SET จะลงต่อหรือปรับตัวขึ้นอย่างมีเสถียรภาพ ยังคงอิงกับงบของหุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน ซึ่งหลังจากงบกลุ่มสถาบันการเงินประกาศออกมาหมด กลับทำให้ค่า Earning momentum ratio กลับผงกหัวลงรอบใหม่ ดูรูปด้านซ้าย สะท้อนมุมมองของนักวิเคราะห์ต่อแนวโน้มการทำกำไรของตลาดไทย ยังไม่ดี
รูปด้านขวา เป็นการแสดงกำไรต่อหุ้นของตลาดหุ้นไทย (IBES MSCI Thailand) (ดอลลาร์ต่อหุ้น) และ อัตราการทำกำไรของตลาด พบว่าอัตราการทำกำไรของตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังนิ่งๆ อยู่ที่ประมาณ 6% ขณะที่กำไรต่อหุ้น ก็นิ่งเช่นกัน ตัวแปรหลักที่จะมีผลต่อตลาดหลังจากนี้ คือการประกาศงบของหุ้นที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน หากออกมาดีแล้วทำให้อัตราการทำกำไรของตลาดเพิ่มขึ้นมากกกว่าที่เป็นอยู่ ก็จะเปิดทางให้ดัชนี SETปรับตัวขึ้นไปมากกว่าที่เป็นอยู่
จากการที่ตลาดมีการปรับฐานลงมาในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้หุ้นพื้นฐานดีหลายบริษัทมีราคาปรับลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจกลับเข้าลงทุนอีกครั้งหนึ่ง โดยหากพิจารณาหุ้นพื้นฐานดีที่ถูกขายมาจนเข้าเขตขายมากเกินไป oversold (RSI < 30) เราจะพบว่ามีหุ้น TKN (RSI 24.26), BR (RSI24.86), UNIQ (RSI 24.95), BEAUTY (RSI 26.00), INTUCH (RSI 28.69) และ BJC (RSI 29.78) โดยเราให้ราคาเป้าหมาย TKN ที่ 29.40บาท (upside 27%), BR 8 บาท (upside 32%), UNIQ 22.80 บาท (upside 35%), INTUCH 59 บาท (upside 12%), BJC 56 บาท (upside30%) และ BEAUTY ที่ทาง Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 13.20 บาท (upside 42%) วันนี้เราคาดว่าตลาดจะเริ่มมีการรีบาวน์จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศ โดยเราให้แนวรับที่ 1550-1557 จุดและแนวต้านที่ 1567-1570 จุด หุ้นแนะนำคือ BEAUTY BCH CBG KCE
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,561.66 จุด ลดลง 0.61 จุด (-0.04%) มูลค่าการซื้อขาย 19,114.45 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยมาหนุน ขณะที่ตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นบวก ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ติตามการประกาศแผนปฏิรูปภาษี "ทรัมปั" (คืนนี้)
SCC รายงานผลประกอบ 1Q17 มีกำไรสุทธิ 17,386 ล้านบาท (+29% YoY, +39% QoQ) มากกว่าที่ตลาดคาดไว้ 28% โดย Bloomberg consensus ให้ราคาเป้าหมาย 596.76 บาท (Buy/Hold/Sell : 21/4/2)
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา อย่างไรก็ตามหากยังประคองตัวเหนือระดับ 1560 จุดได้ มีโอกาสที่จะเห็นเทคนิเคิลรีบาวน์ในกรอบ 1570 จุดได้ แต่เราแนะนำให้ขายทำกำไรหากตลาดดีดตัวขึ้นและให้ไปรอซื้อที่ระดับ 1530-1540 จุด
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Bangkok Dusit Medical Services (BDMS TB; THB 20.20) - ซื้อ
Hwa Fong Rubber (Thailand) (HFT TB; THB 4.96) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : TKN* (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]