- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 April 2017 17:21
- Hits: 1442
บล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาด
Sideway? หลังวานนี้ตลาดบ้านเราเคลื่อนไหวสวนทางตลาดภูมิภาคส่วนใหญ่ที่ตอบรับในเชิงบวกต่อผลการเลือกตั้งของฝรั่งเศส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23/4/60) ซึ่งนายเอมมานูเอล มาครอง ที่มีแนวคิดสายกลางมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 และเข้าชิงกับนางมารีน เลอเปน ที่ชูนโยบายประชานิยมขวาจัด ในการเลือกตั้งครั้งที่ 2 ในวันที่ 7/5/60 ขณะที่ผลสำรวจล่าสุด พบว่า การเลือกตั้งรอบ 2 นายมาครอง มีคะแนนนำ นางเลอเปน ซึ่งช่วยคลายความกังวลต่อประเด็นฝรั่งเศสจะถอนตัวออกจาก EU และทำให้ตลาดสหรัฐฯ และยุโรป สดใส
ขณะที่ปัจจัยหนุนจากความคาดหวังต่อการดำเนินงานนโยบายมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ตามที่ ปธน.ทรัมป์ หาเสียงไว้ เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้น โดยล่าสุดมีการคาดการณ์ว่า จะมีการประกาศมาตรการปฏิรูปภาษี ในวันพุธนี้ (คาดทราบเช้าวัน พฤ. ตามเวลาไทย)
แต่อย่างไรก็ตาม คาดยังได้รับปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ภายใต้ความกังวลต่อปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะในสหรัฐฯ ซึ่งคาดส่งผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน และอาจทำให้การเคลื่อนไหวของของดัชนีเป็นไปอย่างจำกัด
ส่วนประเด็นในประเทศ คาดได้รับปัจจัยหนุนเข้ามาบ้างจากตัวเลขส่งออกในเดือนมี.ค. ที่ดีกว่าคาด และทำให้ 3M/60 ใกล้เคียงเป้าหมายทั้งปี’60 ของกระทรวงพาณิชย์ที่คาดจะขยายตัว 5.0% และยังอยู่ในช่วงการทยอยประกาศผลการดำเนินงาน ที่คาดมีแรงเก็งกำไรจนถึงกลางเดือนพ.ค. อย่างไรก็ตามคาดยังมีความกังวลอยู่บ้าง โดยเฉพาะต่อตัวเลข NPL ของกลุ่มธนาคารที่เพิ่มขึ้น รวมถึง IMF ปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย
และยังแนะติดตามประเด็นที่สหรัฐฯ ระบุว่าไทยเป็น 1 ใน 16 ประเทศ ที่ทำให้สหรัฐฯ ขาดดุลการค้า ล่าสูงสุดในรอบ 3 ปี มูลค่า 18,920 ล้านUSD หรือประมาณ 650,000 ล้านบาท และคาดสหรัฐฯ อาจมีมาตรการตอบโต้ออกมา (เช่น มาตรการด้านภาษี) ภายใน 90 วัน โดยเฉพาะต่ออุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน รวมถึงประมง เป็นต้น
ส่วนทางด้านปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนในการเปิดประมูลของภาครัฐ ซึ่งส่งผลต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลัง ครม. เห็นชอบประเด็นการปรับร่างทีโออาร์ใหม่สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และแนะให้จัดทำร่าง TOR ใหม่ เสร็จภายใน 3 เดือน คาดมีความเป็นไป ได้ที่จะเปิดประมูลในช่วง 2H/60
SET SET50 SET100
1,564.66 -5.36 992.51 -3.32 2,234.46 -8.52
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
(+) ตลาดต่างประเทศ DJIA +216.13, NASDAQ +73.30, S&P +25.46, FTSE +150.13, CAC +209.65 และ DAX +406.41 หลังผลการเลือกตั้งรอบแรกของฝรั่งเศส (เมื่อ 23/4/60) นายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครสายกลางพรรคอิสระ และเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ได้รับชัยชนะ ขณะที่ผลสำรวจของ Harris Interactive พบว่า ในการเลือกตั้งรอบ 2 นายมาครองจะชนะนางเลอ เปน ด้วยคะแนน 66% ต่อ 34% ช่วยคลายความกังวลว่าฝรั่งเศสจะถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และยังได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ว่า ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ จะเปิดเผยข้อเสนอเกี่ยวกับมาตรการปฏิรูปภาษีในวันพุธนี้
ราคาน้ำมันดิบ (NYMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$0.39 อยู่ที่US$49.23 ต่อบาร์เรล หลังจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสหรัฐ ล่าสุด เพิ่มขึ้น 5 แท่น อยู่ที่ 688 แท่น ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 14 ติดต่อกัน และมีแนวโน้มที่จะทำให้การผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) ของสหรัฐในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบกว่า 2 ปี
ขณะที่มีรายงานระบุว่า สหรัฐฯ ผลิตน้ำมันดิบ 9.25 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้นเกือบ 10% นับตั้งแต่กลางปี’59 ใกล้เคียงระดับการผลิตน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย
อย่างไรก็ตามยังได้รับปัจจัยหนุนเข้ามาบ้าง จากประเด็นท่กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตจนถึงสิ้นปีนี้
P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
17.36 1.93 3.14
ที่มา : www.set.or.th
มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 37,923.31
สถาบัน -411.01
บัญชีหลักทรัพย์ -216.74
ต่างประเทศ 409.27
ในประเทศ 218.48
ราคาทองคำ (COMEX) ส่งมอบเดือน มิ.ย. -US$11.6 อยู่ที่ US$ 1,277.5 ต่อออนซ์ หลังนายเอมมานูเอล มาครอง ผู้สมัครสายกลางพรรคอิสระ ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนสูงสุดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสรอบแรกเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้มีการขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น และสกุลเงินยูโร เป็นต้น
(+) เม็ดเงินลงทุนจากต่างประเทศสุทธิ +409 ล้านบาท สะสม YTD +4,942 ล้านบาท (ปี’57 และ 58 ยอดขายสุทธิสะสม 36,173 ล้านบาทและ 154,346 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ปี’59 ซื้อสุทธิสะสม 77,927 ล้านบาท)
(+) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยตัวเลขการส่งออก – มี.ค.’60 เพิ่มขึ้น9.2%yoy ดีกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% จากการส่งออกไปตลาดจีนและอินเดีย ที่สูงเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ 3M/60 ส่งออกขยายตัว 4.9% และยังคงเป้าหมายทั้งปี’60 ไว้ที่ 5.0%
ประเด็นที่ต้องติดตาม 25 - 28 เม.ย. 2560
25/4/60 สหรัฐฯ เปิดเผย ราคาบ้านเดือนก.พ.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนเม.ย.
ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค.
26/4/60 สหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมัน
27/4/60 ประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB)
สหรัฐฯ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.
ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน
ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมี.ค.
28/4/60 สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งแรก GDP –1Q/60
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนเม.ย.
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงท้ายเดือนเม.ย.และยังแนะจับตา
(1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ CBG เป็นต้น
(2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCBเป็นต้น
(3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
(4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
(5) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาคเอกชน ที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ เป็นต้น
(6) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น และ BANPU ปรับตัวขึ้นตามราคาถ่านหิน
(7) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
(8) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจขนส่งทางเรือ เช่น PSL คาดได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินที่มีแนวโน้มฟื้นตัว จากการปรับตัวของอุตสาหกรรมเรือเทกอง
ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.04 อยู่ที่ 2.27%(ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54)
ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -3.79 อยู่ที่ 10.84
หุ้นแนะนำ : SCC
นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788