- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 April 2017 17:02
- Hits: 2871
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศอยู่ในระดับที่ต้องเฝ้าระวัง
คาดหุ้นไทยยังคงไม่ไปไหนไกลก่อนวันหยุดยาวเนื่องในเทศกาลสงกรานต์ ท่ามกลางข่าวความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับต้องเฝ้าระวังอันเกี่ยวเนื่องด้วย สหรัฐ รัสเซีย เกาหลีเหนือและซีเรีย ซึ่งทำให้นักลงทุนจำต้องหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง สหรัฐขู่ว่าจะโจมตีรัฐบาลซีเรียอีกหากอัสซาดยังคงจะใช้อาวุธที่เป็นข้อห้ามของนานาชาติอยู่อีก รวมทั้งเกาหลีเหนือ หากยังจะไม่หยุดยิงขีปนาวุธ ในขณะที่เกาหลีเหนือขู่จะโจมตีสหรัฐด้วยอาวุธนิวเคลียร์ ข่าวในประเทศ การออกกฎหมายเขตอุตสาหกรรมพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จะชะลอช้าออกไปหลังจาก ครม. ต้องการปรับปรุงโครงสร้างการบริหารงานของ EEC ให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น
หุ้นเด่นวันนี้ : PTTGC (ราคาปิด 73.00 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 80.00 บาท)
บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล เป็นหุ้นเด่นในวันนี้ด้วย Sentiment เชิงบวกต่อราคาน้ำมันดิบโลกบนความตึงเครียดทางภูมิศาสตร์การเมืองหลังสหรัฐฯ สั่งกองทัพเปิดฉากยิงขีนาปวุธถล่มซีเรีย รวมถึงประเด็นข่าวการปิดบ่อน้ำมันในลิเบีย นอกจากนี้เรายังคาดว่า PTTGC จะรายงานกำไรสุทธิงวด 1Q60 ออกมาแข็งแกร่งอีกด้วย โดยราคาน้ำมันดิบโลกล่าสุดปรับตัวสูงขึ้นราว 3% หลังจากที่สหรัฐฯ ได้สั่งยิงมิสไซล์โจมตีซีเรีย แต่พบว่าราคาหุ้น PTTGC ที่ทรงตัวมาจนถึงปัจจุบันถือว่ายัง Laggard โดยเปรียบเทียบ ไม่เหมือนกับราคาหุ้น PTT และ PTTEP ที่ปรับตัวสูงขึ้นไปแล้ว 1.0% และ 1.8% ตามลำดับ ในส่วนของผลการดำเนินงานงวด 1Q60 คาดว่าจะรายงานออกมาอยู่ที่ระดับ 1.21 หมื่นลบ. (+24% QoQ, + 157% YoY) แข็งแกร่งต่อเนื่องจากงวด 4Q59 จากการเดินเครื่องผลิตอย่างเต็มที่และไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ และถือเป็นไปในทิศทางเดียวกับการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันดิบดูไบ (+10% QoQ, + 75% YoY) ทั้งนี้ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งดังกล่าวพบว่าจะถูกสนับสนุนจากทุกหน่วยธุรกิจ จากทั้ง 1) ราคาผลิตภัณฑ์ Polyethylene ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนแนฟทา (น้ำมันดิบ) 2) การพุ่งสูงขึ้นของราคา Butadiene (+61% QoQ, +195% YoY) ตามทิศทางราคายาง 3) ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ที่กว้างขึ้น
และ 4) กำไรจากผลของสต็อก ทั้งนี้กำไรสุทธิที่เชื่อว่าจะออกมาโดดเด่นข้างต้นจะนำไปสู่การปรับประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีของเราสูงขึ้นหลังจาก PTTGC ประกาศผลการดำเนินงานออกมา เบื้องต้นปัจจุบันเราประมาณการกำไรสุทธิเติบโตปีนี้และปีหน้า 13% YoY และ 6% YoY ตามลำดับ มาอยู่ที่ 2.89 หมื่นลบ. และ 3.04 หมื่นลบ. นอกจากกำไรที่แข็งแกร่งแล้วราคาหุ้นปัจจุบันยังให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจอีกราว 5.0% ต่อปี ในส่วนของ Price Pattern ของ PTTGC มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ PTTGC พบว่าราคาได้ทดสอบเป้าหมายหลักพอดิบพอดีที่ 73 บาท ทั้งนี้หาก Price Pattern ของ PTTGC สามาถปรับตัวขึ้นไปปิดตลาดเหนือ 73 บาทได้สำเร็จ นี่จะเป็นการบ่งบอกถึงการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 80.75 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 90.25 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ PTTGC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 72 บาท (แนวต้าน: 73.50, 74.25, 74.75; แนวรับ 72.50, 72.00, 71.25)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
ครม.วานนี้เห็นชอบในหลักการสำหรับร่างของกฤษฎีกาเรื่องโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก แต่ตกลงกันไม่ได้เรื่องโครงสร้างการบริหาร EEC น่าจะใช้เวลาราว 1-2 เดือนก่อนที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะแก้ไขร่างและส่งให้ ครม. เห็นชอบอีกครั้ง ร่างแรก ครม. ได้เห็นชอบไปเมื่อ พ.ย. ปีที่แล้ว ถ้า ครม.เห็นชอบในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า ขั้นต่อไปก็จะส่งให้ สนช. เห็นชอบ (The Nation)
ครม.อนุมัติกรอบงบแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรต่อเนื่อง 5 ปี จำนวน 2.58 หมื่นลบ. ระยะเวลาตั้งแต่ปี 2560-64 โดยจะดำเนินการ 3 โครงการหลัก ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดข้าวหอมมะลิคุณภาพดี ตั้งเป้ากลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ 21 จังหวัด พื้นที่ 3 แสนไร่ 2.โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบแปลงใหญ่ ตั้งเป้ากลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ทั้งหมด 70 จังหวัด พื้นที่ 19 ล้านไร่ ภายในปี 2564 3.โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรี ระยะเวลาโครงการต่อเนื่อง 5 ปี เป้าหมาย คือ เกษตรกร 66,700 ราย พื้นที่ 1 ล้านไร่ (Bangkok Post)
ยอดใช้จ่ายโฆษณาหดตัวในช่วง 1Q60 อ้างอิงข้อมูลจาก Nielsen Thailand ซึ่งเปิดเผยว่ามูลค่ารวมการใช้งบโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ ในช่วง 1Q60 อยู่ที่ 2.6 หมื่นลบ. ลดลง 4.5% YoY เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ล่าช้ากว่าคาด โดยสื่อในห้างมีการขยายตัวมากที่สุดที่ 56% ตามมาด้วยสื่อในโรงภาพยนตร์ที่เพิ่มขึ้น 35% ขณะที่สื่อแมกกาซีนหดตัวลงมากที่สุดที่ 36% ตามมาด้วยสื่อหนังสือพิมพ์ที่ 19% (Bangkok Post)
กสทช. จะเซ็น MoU โทรคมนาคมกับรัสเซีย ที่มอสโก วันที่ 1 มิ.ย. เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมโทรคมนาคมและทีวีดิจิทัลไปด้วยกัน พร้อมกันกับมาตรการความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ต (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
สื่อของรัฐเกาหลีเหนือได้ออกคำเตือนโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ใส่สหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร หากถูกสหรัฐรุกราน หลังกองเรือรบอเมริกันแล่นเรือมุ่งสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก (Reuters)
สหรัฐกล่าวหารัสเซียเมื่อวันอังคารว่าพยายามปกป้องรัฐบาลซีเรียจากการถูกตำหนิเกี่ยวกับการโจมตีด้วยก๊าซพิษสังหาร นอกจากนี้ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมต.ต่างประเทศสหรัฐได้ประณามรัสเซียในการสนับสนุนนาย Bashar al-Assad ประธานาธิบดีซีเรีย (Reuters)
ตลาดตราสารหนี้สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันอังคาร โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสและมีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะดำเนินการทางทหารต่อต้านซีเรียและเกาหลีเหนือซึ่งทำให้เกิดความต้องการพันธบัตรมากขึ้น อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ลดลง 6 bps อยู่ที่ระดับ 2.302% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ลดลง 5 bps อยู่ที่ระดับ 2.931% หลังจากแตะระดับ 2.925% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 17 ม.ค. (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อวันอังคาร เนื่องจากความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ลดลงทาให้นักลงทุนชะลอการซื้อขายดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงกว่า 1% เมื่อเทียบกับเยนและล่าสุดอยู่ที่ระดับ 109.67 เยน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 17 พ.ย. ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.3% อยู่ที่ระดับ 100.71 (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันอังคาร เนื่องจากความวิตกกัวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ส่งผลให้ต่ออารมณ์ของตลาดและนักลงทุนรอการประกาศผลการดำเนินงานรายไตรมาสของบริษัทต่าง ๆ ความกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ซีเรียและเกาหลีเหนือส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยและทำให้ดัชนีชี้วัดความกลัว CBOE Volatility index ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 15 เป็นครั้งแรกนับแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ (Reuters)
นักวิเคราะห์คาดกำไรสุทธิของบริษัทที่อยู่ใน S&P500 จะเพิ่มขึ้น 10% YoY ในไตรมาส 1/60 จากข้อมูลของ Thomson Reuters โดยกลุ่มธนาคารจะเป็นกลุ่มแรกที่เผยผลการดำเนินงานในวันพฤหัสนี้ (Reuters)
ทรัมป์จะปรับปรุงกฎหมาย Dodd-Frank ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวต่อซีอีโอกลุ่มหนึ่งว่ารัฐบาลของเขากำลังทบทวนกฎหมาย Dodd-Frank และอาจยกเลิกกฎหมายดังกล่าวโดยมีกฎหมายอื่นเข้ามาทดแทน เมื่อเดือนก.พ. ทรัมป์ได้ออกคำสั่งพิเศษให้นาย Steven Mnuchin รมต.คลัง ยื่นรายงานข้อเสนอในการปรับปรุงกฎระเบียบซึ่งจะกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมธุรกิจของคนอเมริกัน รายงานดังกล่าวซึ่งจะมีกำหนดเผยแพร่ในเดือนมิ.ย. จะเป็นเหมือนพิมพ์เขียวสำหรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารทรงตัว ในช่วงการซื้อขายในสัปดาห์นี้ที่ค่อนข้างสั้นก่อนวันอีสเตอร์ โดยตลาดยังคงกังวลต่อสถานการณ์ความไม่แน่นอนต่างๆ อยู่ ทั้งนี้ราคาหุ้น Dialog Semiconductor ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนให้กับ Apple ปรับตัวลดลงแรงภายใต้ปัจจัยลบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง (Reuters)
เอเชีย :
ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรหลักของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 1.5% MoM ในเดือน ก. พ. ซึ่งเป็นผลมาจากรายจ่ายลงทุนที่เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป การเพิ่มขึ้นของคำสั่งซื้อหลักเป็นตัวบ่งชี้การใช้จ่ายเงินทุนในช่วง 6-9 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ตัวเลขยังต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ว่าเติบโต 2.7% และเทียบกับเดือน ม.ค. ที่มีอัตราลดลง 3.2% ยอดสั่งซื้อหลักซึ่งไม่รวมเรือและคำสั่งซื้อจากสาธารณูปโภคไฟฟ้าขยายตัว 5.6%YoY ในเดือน ก.พ.หลังจากที่ลดลง 8.2% ในเดือนม.ค.(Reuters)
อุตสาหกรรมการประกันภัยของจีนกำลังเผชิญกับความเสี่ยงด้านการเก็งกำไร,ความกดดันด้านสภาพคล่อง, การกำกับดูแลกิจการที่ไม่ดีและประเด็นทางการเมืองและเศรษฐกิจมหภาค นายเฉิน วุยฮุ่ย รองประธานคณะกรรมาธิการกำกับดูแลประกันภัยแห่งประเทศจีน (ClRC) กล่าวว่า กำลังสืบสวน Xiang Junbo ซึ่งเป็นหัวหน้า ClRC เพื่อเป็นการลงโทษทางวินัยในความผิดการรับสินบน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
น้ำมันดิบบวกวันอังคาร จากรายงานว่าซาอุฯ บอก OPEC ว่าต้องการลดกำลังการผลิตต่ออีก 6 เดือน Brent ส่งมอบ มิ.ย. บวก 25 เซนต์ต่อบาร์เรล ปิด 56.23 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล สูงสุดรอบนับแต่ 7 มี.ค. น้ำมันดิบสหรัฐบวก 32 เซนต์ปิด 53.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทะลุจุดสูงสุดรอบห้าสัปดาห์ ในช่วงหลังการซื้อขายปกติ น้ำมันทั้งสองยิ่งบวกเข้าไปอีกหนุนจากสถาบันปิโตรเลียมแห่งอเมริการะบุสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วงใกล้ 1.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน สวนคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 87,000 บาร์เรลสัปดาห์ที่แล้ว (Reuters)
ทองคำพุ่งแตะจุดสูงสุดรอบ 5 เดือนใหม่วันอังคาร เพราะนักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางการเมืองตึงเครียดในเกาหลีเหนือและตะวันออกกลาง และการเลือกตั้งฝรั่งเศสที่ใกล้เข้ามา ราคาทองคำตลาดจรบวก 1.53% ปิด 1,273.44 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังแตะจุดสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ 10 พ.ย. ที่ 1,275.16 ดอลลาร์ ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าบวก 1.6% ปิด 1,274.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094