- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 10 April 2017 17:31
- Hits: 14406
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้ว “แกว่งตัวกรอบแคบ หลังใกล้วันหยุดยาว”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวขึ้นในกรอบแคบๆ โดยแม้จะยังคงได้แรงหนุนจาก Fund Flow ไหลเข้าต่อ บวกกับราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัว แต่ด้วยเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นช่วงระหว่างสัปดาห์ทั้งรัสเซียและซีเรีย บวกกับเข้าใกล้เทศกาลวันหยุดยาวของไทย ทำให้มูลค่าการซื้อขายโดยรวมไม่คึกคัก และเป็นการกระจุกตัวอยู่ในกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นหุ้น IPO อย่าง TPIPP ที่เข้าเทรดเมื่อวันพุธที่ผ่านมา รวมถึงเก็งกำไรหุ้นกลุ่ม ธพ. ที่เตรียมประกาศงบช่วง 1Q60 โดยเมื่อวันศุกร์ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดตลาด 1,583.53 จุด (+0.53%WoW) และมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยอยู่ที่ 37,519 ล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มที่ปรับตัวเด่น ได้แก่ ค้าปลีกปรับขึ้น 2.6%WoW, วัสดุก่อสร้างและธนาคารขึ้นกลุ่มละ 1.1%WoW
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ราคาน้ำมันดิบ WTI +1.04% มาอยู่ที่ 52.24 ดอลลาร์/บาร์เรล จากประเด็นที่สหรัฐยิงขีปนาวุธโทมาฮอร์คถล่มฐานทัพอากาศซีเรีย แม้ว่าจะมีการรายงานตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันประจำสัปดาห์เพิ่มขึ้น 10 แท่นก็ตาม
(+) ราคาน้ำตาลดิบเบอร์ 11 บวกต่อเนื่องเป็นวันที่สองอีก 1.4% มาอยู่ที่ 16.75 Cents/Pound
(+) นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันอีก 475 ล้านบาท รวม 2,215 ล้านบาท
(+) รถไฟทางคู่เฟสที่ 2 อีก 7 เส้นทางวงเงินรวมกว่า 2.6 แสนล้านบาทเตรียมเดินหน้าหลังได้แนวทางการปรับ TOR โดยจะแบ่งเป็นสัญญาย่อยๆแทนที่จะเป็นโครงการละสัญญา ส่วนเฟสแรก 5 เส้นทางเตรียมเปิดร่าง TOR ฉบับปรับปรุงเส้นทางแรก (หัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์) วันนี้ (10 เม.ย.)
(-) ราคาถ่านหิน -1.6% มาอยู่ที่ 88.2 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -6.85 จุด (-0.03%) จากแรงกดดันของการยิงขีปนาวุธถล่มซีเรียส และตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 98,000 ตำแหน่งต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 180,000 ตำแหน่ง แต่ได้รับปัจจัยบวกจากอัตราการว่างงานที่อยู่ที่ 4.5% ต่ำสุดตั้งแต่เดือน พ.ค.ปี 2550
(-) วานนี้เกิดเหตุระเบิดโบสถ์คริสต์นิกายคอปติก 2 แห่งที่ประเทศอียิป ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 45 ราย
(-) ผลกระทบอุตสาหกรรมยานยนต์หลังใช้พ.ร.บ.ห้ามนั่งแค๊บรถกระบะ
(+/-) ตลาดหุ้นยุโรปCAC-40 +0.27%DAX-0.05% และFTSE100 +0.63%
(+/-) ค่าระวางเรือ (BDI) เพิ่มขึ้น 8 จุด(+0.66%) มาอยู่ที่ 1,223 จุด
(+/-) หุ้น IPO WHAUP ทำธุรกิจให้บริการด้านสาธารณูปโภคครบวงจรแก่ลูกค้าใจนิคมอุตสาหกรรม ราคา IPO 26.25 บาท พาร์ 5 บาท จำนวนหุ้น IPO 229.50 ล้านหุ้น (หุ้นเดิม 640 ล้านหุ้นและหุ้นเพิ่มทุนใหม่ 125 ล้านหุ้นรวมเป็น 765 ล้านหุ้น)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การประกาศงบการเงินกลุ่มธนาคารในช่วงหลังสงกรานต์
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ US ตัวเลขนำเข้าส่งออกเดือนมี.ค. (12 เม.ย.) สต๊อกน้ำมันดิบของ EIA (12 เม.ย.) อัตราเงินเฟ้อเดือนมี.ค. (14 เม.ย.) EU รายงานประจำปีของ ECB (10 เม.ย.) ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. (11 เม.ย.)
กลยุทธ์การลงทุน “เน้นรายตัว”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มแกว่งตัวกรอบแคบ โดยได้โมเมนตัมบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความตึงเครียดในตะวันออกกลางหลังจากรัสเซียเริ่มเคลื่อนไหว เรายังคงแนะนำเก็งกำไรสั้นรายตัว โดยมองตลาดมีปัจจัยจำกัดในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ สำหรับกลุ่มที่แนะนำให้ทยอยสะสมคือกลุ่มรับเหมาก่อสร้างโดยคาดหวังความคืบหน้าในโครงการรถไฟทางคู่ในช่วง 2Q60
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
MAJOR เก็งกำไร
เตรียมเข้าสู่ช่วง High Season ของโรงภาพยนตร์ในไตรมาส 2
มีแผนขยายโรงภาพยนตร์ให้ครบ 1,000 โรงในปี 63 ปัจจุบัน 678 โรง
CGS แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 38 บาท PER ที่ 25 เท่า
KSL เก็งกำไร
บมจ.มัดแมนเตรียมเข้าซื้อขายใน MAI ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์
สัญญาราคาน้ำตาล #11 เพิ่มขึ้น 1.27% มาที่ 16.73 เหรียญ/ปอนด์
CGS แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 6.60 บาท PER ที่ 20 เท่า
ทีมวิเคราะห์