- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 April 2017 18:28
- Hits: 2268
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
Today’s Report : D (FirstDayTrade)
Our Portfolio Apr 2017 : GLOBAL, KBANK, MINT, SYNEX, TACC
SET ยังมีแรงขายช่วงบวกกดดัน จึงมีสิทธิอ่อนตัว ดังนั้นยังน่ารอซื้อลบ
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET เปิดบวกได้เมื่อวันศุกร์ แต่ยังไม่สามารถขยับทำจุดสูงสุดต่อเนื่อง ก็เริ่มมีแรงขายกดดันให้อ่อนตัวตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงแรก และค่อยๆ ปรับลงลบก่อนปิดภาคเช้า โดยยังแกว่งลบต่อเนื่องในภาคบ่าย และปิดไปเกือบต่ำสุดของวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เนื่องจาก SET ยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุน ทำให้ปลายสัปดาห์ที่แล้วดัชนีเริ่มอ่อนตัวลงแกว่งด้านลบ หลังจากก่อนหน้านั้นตลาดขยับขึ้นมาพอควร และเริ่มมีแรงขายทำกำไรทำให้ SET ผันผวนมาตลอดสัปดาห์ ขณะที่เช้านี้ยังมีแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐหลายรายการที่ออกมาอ่อนแอกว่าคาด รวมทั้งนักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามการเริ่มต้นกระบวนการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ(Brexit) อย่างเป็นทางการด้วย อย่างไรก็ตามตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ยังเปิดบวกได้ ทำให้ FSS คาดว่า SET ก็มีสิทธิรีบาวด์กลับ แต่ช่วงนี้ยังไม่มีปัจจัยสนับสนุนชัดเจน ทำให้กรอบบวกอาจยังแคบ ส่วนมุมมองทางเทคนิค หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว SET เริ่มแกว่งตัวผันผวนในกรอบจำกัด และมีรูปแบบกราฟที่ส่งสัญญาณลบอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในวันศุกร์ดัชนีย้อนลงปิดต่ำ ทำให้มีสัญญาณ Bearish Engulfing กดดันเพิ่ม ทำให้คาดว่า SET ยังมีสิทธิปรับตัวลงอีกสักพักให้เป็นจังหวะซื้อใหม่ได้ตามคาดเดิมอยู่
กลยุทธ์ : ดังนั้น FSS ยังแนะนำให้เลือกหุ้นทยอยซื้อเพิ่มช่วงลบต่อไปดีกว่า แต่ส่วนที่ซื้อแล้วยังสามารถเน้นถือต่อเนื่องเพื่อรอรอบบวกได้
แนวรับ 1574-1572 , 1568-1565 จุด
แนวต้าน 1576-1578 , 1580-1585 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : AUCT, BLA, CHG(short)
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$17ล้าน นำโดยไต้หวัน US$41ล้าน อินโดนีเซีย US$20ล้าน และไทย US$8ล้าน ขณะที่เงินทุนไหลเข้าเกาหลีใต้ US$46ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้า สัปดาห์นี้ติดตามการพบปะหารือกันระหว่างระหว่างประธานาธิบดีจีนและสหรัฐซึ่งน่าจะมีประเด็นหารือเกี่ยวกับการกีดกันทางการค้า
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) มุมมองตลาดหุ้นเดือนเม.ย. แม้ว่าปริมาณการซื้อขายจะเบาบางเพราะติดวันหยุดยาว แต่เชื่อกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชีย บวกกับการเก็งกำไรผลประกอบการ จะผลักดัน SET ให้กลับไปทดสอบ 1600 จุดอีกครั้ง และหากเห็นภาพการปรับประมาณการขึ้น มีโอกาสที่ SET จะทะลุ 1600 จุดขึ้นในระยะถัดไป สถิติในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พบว่า SET ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย +3% M-M ปีที่ให้ผลตอบแทนเป็นลบมีเพียง 2 ใน 10 ครั้ง นักลงทุนต่างชาติมีสถานะซื้อ ส่วนการเลือกตั้งในฝรั่งเศสปลายเดือน ยิ่งทำให้โฟลว์ไม่มีทางเลือกมาก แต่ยังต้องติดตามประเด็นบรรษัทน้ำมันแห่งชาติที่อาจกลับมากดดันกลุ่มปตท.ได้อีก เดือนนี้เราแนะนำ KBANK, GLOBAL, MINT, SYNEX, TACC
(+) KBANK เป็น 1 ใน 2 หุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร เราชอบ KBANK เพราะได้ประโยชน์มากสุดจากวงจรขาขึ้นของสินเชื่อและอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น เพราะมี NIM สูงสุดและมีสินเชื่อภาคธุรกิจมากถึง 70% เราคาดกำไร 1Q17 +6% Q-Q, +12% Y-Y ปัจจุบันมี PBV 1.3 เท่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 1.65 เท่า แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 240 บาท
(+) GLOBAL ปัจจัยหนุนการเติบโตในปีนี้มาจากการเปิดสาขาใหม่ในอัตราเร่ง และคาด SSSG ฟื้นตามกำลังซื้อและรายได้เกษตรที่ทยอยดีขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้นจากการเพิ่มสัดส่วน House brand แนวโน้มกำไร 1Q17 ดีเพราะเป็น high season ส่วนกำไรทั้งปีคาด +31% Y-Y ยังแนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 21 บาท
(+) MINT ทุกธุรกิจจะกลับมาฟื้นตัวในปีนี้ ทั้งโรงแรมในประเทศที่มี peak season ใน 1Q และโรงแรม Tivoli ที่เข้าสู่ high season ใน 2Q ส่วนธุรกิจ Timeshare ฟื้นหลังปรับรูปแบบธุรกิจแล้วเสร็จ และธุรกิจอาหารในทุกประเทศที่มีพัฒนาการดีขึ้น เราคาดกำไรปกติปีนี้ +23.4% แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 43 บาท
(+) SYNEX แนวโน้มกำไรปี 2017-19 โตเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20% ต่อปี จากการเพิ่มพอร์สินค้าปีละ 2-3 แบรนด์ การขยายไปพม่า การรุกธุรกิจลีสซิ่ง และการคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ กำไร 1Q17 เราคาด +20% Y-Y ปัจจุบันมี PE 16 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มจำหน่ายสินค้า IT ที่ 25 เท่า แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 15.5 บาท
(+) D ให้บริการทันตกรรมครบวงจร ปัจจุบันมี 12 สาขา (10 สาขาในกรุงเทพและ 2 สาขาในภูเก็ต) ดำเนินการภายในแบรนด์ BIDC, Dental Signature และ Smile Signature มีจุดเด่นด้านคุณภาพบริการที่ได้มาตรฐานสากลและมีความรวดเร็ว เราคาดกำไรสุทธิปี 2017-18 โตแข็งแกร่งเฉลี่ย 24.7% ต่อปี ได้แรงหนุนจากทั้งรายได้ที่เติบโตจากสาขาเดิมและแผนเปิดสาขาใหม่ปีละ 3-4 สาขา เราประเมินมูลค่าพื้นฐานได้ 7 บาท อิง PE 25 เท่าหรือ PEG 1 เท่า (FSS เป็นผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ D)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
3 เม.ย. - ไทย:Dเข้าเทรด (ราคา IPO 6 บาท), อัตราเงินเฟ้อ (มี.ค.), ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ (มี.ค.)
- จีน:Caixin China PMI Mfg (มี.ค.)
- ญี่ปุ่น: ดัชนี Tankan 1Q17
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Manufacturing PMI (มี.ค.)
5 เม.ย. - ไทย:ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (มี.ค.)
- สหรัฐ: การจ้างงานภาคเอกชน (มี.ค.), FOMC Minutes
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (มี.ค.)
6-เม.ย. - จีน:Caixin China PMI Composite (มี.ค.)
7-เม.ย. - สหรัฐ:การจ้างงานนอกภาคเกษตร (มี.ค.)
- สิงคโปร์: 1Q17 GDP
11 ม.ย. - ไทย:MMเข้าเทรด (ราคา IPO 5.50บาท)
- ยูโรโซน:ZEW Survey Expectations (เม.ย.), Industrial Production (ก.พ.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดในแดนลบหลังตัวเลขเศรษฐกิจออกมาต่ำกว่าที่คาด อย่างไรก็ตามภาพรวมทั้งไตรมาสตลาดถือว่าปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างแข็งแกร่ง
(0) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ปิดผสมโดยตอบรับประเด็นการเริ่มกระบวนการ Brexit อย่างเป็นทางการ
(0) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ปรับตัวผสมตามตลาดหุ้นภูมิภาคอื่นหลังไร้ปัจจัยบวกใหม่ นอกจากนี้ยังถูกกดดันเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ เกาหลีเหนือ และจีน
(0) ค่าเงินบาทยังแก่วงตัวค่อนมาในทางแข็งค่า ล่าสุดเครื่องไหวในกรอบ 35.25-35.36 บาท/ดอลลาร์
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 0.25 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 50.60 ดอลลาร์/บาร์เรล จากกระแสคาดการณ์ว่า OPEC อาจยืดระยะเวลาปรับลดปริมาณการผลิตออกไป อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันเริ่มปรับลงเช้านี้โดยถูกกดดันจากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น รวมถึงค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่า
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.20 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,251.20 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยยังได้รับแรงหนุนจากความไม่มั่นใจเกี่ยวกับความสำเร็จของนโยบายต่างๆของทรัมป์ รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างกระจัดกระจาย
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : แนะนำหุ้นเด่นทางเทคนิค AUCT ให้ซื้อเก็งกำไร
AUCT : ซื้อเก็งกำไร
ราคาปิด : 7.95
แนวรับ : 7.90-7.75
แนวต้าน : 8.15-8.25 , 8.40-8.60
หลังจากราคาไหลลงมาอย่างต่อเนื่องในรอบก่อน และมีแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงแรงในช่วงก่อนเข้าสู่สัปดาห์สุดท้ายของเดือน แต่ในสัปดาห์ที่แล้วเริ่มมีแรงซื้อหนุนให้ราคาแกว่งทรงตัวได้ดีขึ้น พร้อมมีสัญญาณรีบาวด์จากการฟอร์มตัวของ Indicators ทำให้มีลุ้นขยับกลับขึ้นทดสอบแนวต้านให้ทำกำไรได้ ถ้าราคาไม่ย้อนต่ำกว่าแนวรับลงไปอีก (XD ไปแล้วเมื่อ 10 มี.ค.)
Analyst :
Somchai Anektaweepon Register : 002265
Veeravat Virochpoka Register : 047077
Tel. : 0-2646-9967