- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 03 April 2017 18:26
- Hits: 2279
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วันศุกร์ที่ผ่านเปิดขึ้นทดสอบด่าน 1,580-1,585 จุด ผลักดันด้วยหุ้น Big Cap ก่อนเกิดแรงขายทำกำไรสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นๆ ในเอเชีย เพื่อปิดความเสี่ยงช่วงสุดสัปดาห์ ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,575.11 จุด ลบ 4.77 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 38,034 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 11 วันทำการ เพียง 287 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 อก 1,325 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 3,859 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
ติดตามอัตราเงินเฟ้อเดือมี.ค.ของไทยวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจไทยเดือนก.พ. อยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ตลาดหุ้นจีนและไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเชงเม้ง และตลาดหุ้นจีนจะปิดอีก 1 วันในวันพรุ่งนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันแรกในรอบ 12 วันทำการ)
เราประเมินทิศทาง SET INDEX จะกลับมาแกว่งในกรอบแคบระหว่าง 1,570-1,580 จุด มูลค่าการซื้อขายราว 3.5-4.0 หมื่นล้านบาท/วัน หุ้น Big Cap จะเริ่มแกว่งในกรอบแคบลง เพราะสถาบันในประเทศกลับมาชะลอหลังสิ้นสุด Window Dressing ขณะที่เม็ดเงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มที่จะสะสมตลาดเกิดใหม่ต่อเนื่อง รวมถึงตลาดหุ้นไทย อีกทั้งราคาน้ำมันดิบ NYMEX ที่ขยับขึ้นเป็นวันที่ 2 เราคาดว่า NYMEX มีโอกาสทดสอบ US$53-55/barrel ซึ่งปัจจัยทั้ง 2 นี้จะช่วยจำกัด Downside risk ให้แก่ SET INDEX ในช่วงนี้
แม้ว่าตลาดหุ้นไทยจะกลับมาซื้อขายเบาบางในช่วง 2 สัปดาห์นี้ จากช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย แต่กลับเป็นจังหวะของการเข้าเก็งกำไรต่อหุ้นรอบใหม่ต่อประเด็นผลการดำเนินงานใน 1Q60 ซึ่งกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ น้ำมัน / ถ่านหิน / น้ำตาล / ยาง / เหล็ก แนวโน้มเติบโต yoy เด่น เช่นเดียวกับกลุ่มธนาคารที่จะขยายตัว yoy เด่นจากภาระการตั้งสำรองที่ลดลง yoy ขณะที่กลุ่มรับเหมาก่อสร้างจะมีความเสี่ยงกำไรจะชะลอตัว qoq
กลยุทธ์การลงทุน "นักลงทุนเริ่มกลับมาสะสมหุ้นเป้าหมายบริเวณ 1,570 จุด +/-" เน้นประเด็นผลการดำเนินงานเป็นสำคัญ
Daily Pick
1. เก็งกำไร PTTEP : ราคาปิด 93.00 บาท ราคาเหมาะสม 101.00 บาท
a) MBKET คาดว่าหุ้นกลุ่มพลังงานจะตอบรับเชิงบวก เนื่องจากราคาน้ำมันดิบ NYMEX ไต่ระดับขึ้นวันที่ 4 ติดต่อกัน ยืนเหนือ US$50.00/barrel ปิดที่ US$50.60/barrel เพิ่มขึ้น +0.50% dod เนื่องจากสมาชิกในกลุ่ม OPEC หลายประเทศสนับสนุนให้มีการขยายระยะเวลาลดกำลังการผลิตน้ำมันออกไป จากเดิมที่จะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือน มิ.ย.
b) คาดกำไรสุทธิ 1Q60 จะเติบโตทั้ง yoy และ qoq ตามราคาขายเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ต้นทุนต่อหน่วยคาดว่าจะลดลง yoy จากค่าเสื่อมราคาและการตัดจำหน่ายที่ลดลง
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +108% yoy เป็น 26,808 ล้านบาท และต่อเนื่อง +14.8% yoy เป็น 30,776 ล้านบาท และเป็นหุ้นที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการไต่ระดับขึ้นของราคาน้ำมันดิบใน 2H60 ซึ่งคาดว่า Demand-Supply น้ำมันในตลาดโลกจะมีความสมดุลมากขึ้น
2. สะสม TMB : ราคาปิด 2.44 บาท ราคาเหมาะสม 2.50 บาท
a) MBKET คงมุมมองเชิงบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร และคาดว่าจะ Outperform ตลาดในเดือน เม.ย. จากแรงเก็งกำไรงบ 1Q60 เนื่องจากเป็นหุ้นกลุ่มแรกที่จะรายงานผลประกอบการ นอกจากนั้น ยังได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2560 ขึ้นเป็น +3.4% จากเดิมที่ +3.2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
b) สินเชื่อ 2M60 ขยายตัวโดดเด่น +1.4% YTD เทียบกับกลุ่มธนาคารที่ -0.3% YTD และธนาคารใหญ่ เช่น BBL -1.6%, KTB +0.2%, KBANK +0.9%, SCB +0.1%
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +27% yoy เป็น 10,447 ล้านบาท และ Valuation น่าสนใจที่ระดับ PER2560 เพียง 7.9 เท่า เทียบกับหุ้นกลุ่มธนาคารที่ 9.4 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ขายสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 7 วันทำการ US$17 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$487 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
กระแสเงินทุนต่างชาติกลับมาชะลอตัวอีกครั้ง
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันแรกในรอบ 11 วันทำการ เพียง 287 ล้านบาท เทียบกับ 10 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 20,016 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ซื้อสุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 6,287 ล้านบาท
SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้คงการ Long สุทธิเป็นวันที่ 2 เพียง 1,325 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 9,457 สัญญา คาดเป็นการทยอยปิดสถานะ Short และกดดันให้ S50M17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index กว้างถึง 6.04 จุด และปิด 1Q60 นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิ 28,859 สัญญา
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 3,859 ล้านบาท โดยที่ราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นเพียง 0.04bps จากวันก่อนหน้าลดลง 1.93bps ปิดที่ 2.753%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 516 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 275 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 55หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 43 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 11 ยังคงเน้น ICT และ SCC
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 115 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิมากถึง 6,131 ล้านบาท รวม 11 วันทำการซื้อสุทธิ 12,001 ล้านบาท โดย NVDR ยังคงสะสมกลุ่ม ICT สูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 354 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 215 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มอาหารสูงสุดเป็นวันที่ 2 อีก 199 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มค้าปลีก 156 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
- รายได้ส่วนบุคคลเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 0.4% mom เท่ากับ Bloomberg consensus คาดการณ์ แต่ชะลอตัวจากเดือนก่อนหน้าที่ 0.5% mom โดยเป็นค่าจ้างและเงินเดือนที่เพิ่มขึ้น
- รายจ่ายส่วนบุคคลเดือนก.พ. เพิ่มขึ้นเพียง 0.1% mom ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 0.2% mom และเดือนก่อนหน้าที่ 0.2% mom
- ดัชนี Consumer Sentiment เดือนมี.ค. เท่ากับ 96.9 จุด ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาด 97.6 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 97.6 จุด
ยุโรป
อียูให้สิทธิ์ในการคัดค้านแก่สเปนกรณี Brexit: อียู ได้ให้สิทธิ์กับสเปนในการคัดค้านความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่าง Gibraltar และอียู หลังอังกฤษออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มอียู ทั้งนี้ Gibraltar เป็นเกาะของอังกฤษที่อยู่ทางตอนใต้ของสเปน
อียูยืนยันจะไม่มีการสรุปด้านการค้าก่อน Brexit: อียู เต็มใจที่จะมีการหารือเงื่อนไขการค้าเสรีกับทางอังกฤษ แต่การสรุปผลอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นเมื่ออังกฤษออกจากอียูอย่างเป็นทางการแล้วเช่นกัน ดังนั้นเอกชนของอังกฤษจะไม่สามารถเข้าถึงตลาดรวมอียูอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค. 2562 หากไม่สามารถตกลงกันได้
จีน
ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาเป็นกลางถึงดีกว่าคาด:
- ดัชนี Caixin PMI ภาคการผลิต เดือนมี.ค. เท่ากับ 51.2 จุด ต่ำกว่า Reuters Poll คาด 51.6 จุด และเดือนก่อนหน้า 51.7 จุด โดยกิจกรรมการก่อสร้างยังคงขยายต่อเนื่อง แต่คำสั่งซื้อใหม่, ผลผลิต กลับชะลอตัวจากเดือนก.พ.
- ดัชนี PMI ภาคการผลิต เดือนมี.ค. เท่ากับ 51.8 จุด ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 51.6 จุด และ Bloomberg consensus คาด 51.7 จุด
- ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนมี.ค. เท่ากับ 55.1 จุด ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 54.2 จุด
ธนาคารกลางจีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสินเชื่อบางประเภท: ธนาคารกลางจีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ Overnight Standing Lending Facility (SLF) 0.2% เป็น 3.3% มีผลตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา และอัตราเงินกู้ 7 วันเป็น 3.45% และ 1 เดือนเป็น 3.8% ทั้งนี้เงินกู้ SLF ณ สิ้นเดือนมี.ค.อยู่ที่ 7.0 หมื่นล้านหยวน โดยอัตราดอกเบี้ย SLF จะเป็นเพดานสูงสุดของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ และเป็นเครื่องมือในการบริหารอัตราแลกเปลี่ยนในตลาดเงิน
เอเชียแปซิฟิก
ผลสำรวจผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นมีมุมมองดีขึ้น: ดัชนี tankan ผู้ผลิตรายใหญ่ เพื่อวัดระดับความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจใน 3 เดือนข้างหน้าพบว่า เดือนมี.ค. อยู่ที่ 12.0 จุด ดีกว่า Reuters Poll คาด 11.0 จุด และเดือนก่อนหน้าที่ 10.0 จุด
ไทย
ประยุทธ์ ตรวจ EEC วันที่ 5 เม.ย.: นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 5 เม.ย. 60 นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีพร้อมคณะจะเดินทางไปเป็นประธานประชุมคณะกรรมการนโยบายพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่สนามบินอู่ตะเภา โดยจะรพิจารณาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะใน 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และการพัฒนารถไฟความเร็วสูงกรุงเทพฯ-ระยอง ที่จะต้องประกาศระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) ให้เอกชนมาลงทุนในกลางปีนี้ และเปิดประมูลให้ได้ในปีนี้ หลังจากผ่านขั้นตอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้ว
ธปท.ส่งสัญญาณเศรษฐกิจเดือนก.พ.ฟื้นตัวดีเกินคาด: ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือน ก.พ.2560 ขยายตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อน
- การส่งออกสินค้าขยายตัวในเกือบทุกหมวด สอดคล้องกับการส่งออกของภูมิภาคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกขยายตัว 0.7% และหากหักทองคำออก มูลค่าการส่งออกขยายตัว 8.4% มาจากการส่งออกยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางที่ขยายตัวดีจากราคาที่ปรับสูงขึ้นและอุปสงค์จากจีนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
- การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน ก.พ.ปรับลดลงบ้าง เนื่องจากสินค้าหมวดยานยนต์ แผงวงจรรวม และเครื่องใช้ไฟฟ้ามีการเร่งผลิตไปในช่วงก่อน และอีกส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยชั่วคราวจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมันบางแห่ง
- การบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนที่ขยายตัวดีขึ้น ขณะที่ปัจจัยพื้นฐานที่สนับสนุนกำลังซื้อของครัวเรือนโดยรวมดีขึ้น สะท้อนจากจำนวนผู้มีงานทำและรายได้ที่แท้จริงที่ปรับสูงขึ้นบ้าง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยรวมดีขึ้นเช่นกัน
- การลงทุนภาคเอกชนทรงตัวจากเดือนก่อน ส่วนภาคการท่องเที่ยวหดตัว 3.2% ตามจำนวนนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซียที่ลดลงหลังพ้นเทศกาลตรุษจีน แต่หากพิจารณาจากช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ. จำนวนนักท่องเที่ยวขยายตัว 1.6%
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst