- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 29 March 2017 16:59
- Hits: 6797
บล.บัวหลวง : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
Welcome 'Window dressing'
วันนี้คาดดัชนี บวกต่อ ในกรอบ 1,572-1,587 จุด และ คงแนะนาเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว
จากบรรยากาศการลงทุนช่วง Window dressing ที่ยังคงเป็นปัจจัยหนุนจิตวิทยาเชิงบวกหุ้นไทย และวันนี้ประชุม กนง.นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่จากโพล Bloomberg คาดคงดอกเบี้ย 1.5% และยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเร็ว-ผ่อนคลาย คาดเป็นบวก กลุ่มสินเชื่อบุคลล MTLS SAWAD TISCO TCAP KKP etc. (เป็นลบหากผลประชุมออกมาด้านตรงข้าม...ขึ้นดอกเบี้ยหรือ Tightening) และหุ้นที่มีการคืนเงินกู้-ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่ล็อกดอกเบี้ย เพื่อรับเทรนด์ดอกเบี้ยผ่านจุดต่าสุด, หุ้นที่เพิ่ง IPO นาเงินไปคืนเงินกู้...หุ้นเชื่อมโยง WHA ชาระหนี้จากการซื้อ HEMRAJ ใกล้หมดและ WHAUP ได้เงิน IPO ลดภาระหนี้กลุ่มฯ, TICON (ได้เงินจาก Fraser คืนหนี้) TNR (เพิ่ง IPO ไปคืนหนี้ทั้งหมด) etc.
หุ้นแนะนำวันนี้ WHA แนวรับ 3.14 บ. ต้าน 3.30 Stop loss 3.06 บ. High dividend yield เกือบ 5% (XD 4 พค. 0.1536 บ.) มีแผนขยายโรงไฟฟ้าและโรงบาบัดน้าเสียของ WHAUP ช่วยหนุนการขายที่ดินนิคมของกลุ่ม WHA ขณะที่ยอดขาย 2 เดือนขายไป 500 ไร่ มีโอกาสเกินเป้า (Earnings upward) และจับตาพื้นที่ใกล้เคียง EEC โดย WHA มีที่ดินรอพัฒนาขาย (ซึ่งยังไม่เปิดเผยขนาด Land bank ที่รอพัฒนา) โดยพื้นที่เตรียมพัฒนาอยู่ห่างจากสนามบินอู่ตะเภาเพียง 18 กม. คาดได้ประโยชน์จากการเกิด EEC มากสุดในกลุ่ม, BEM (แนวรับ 7.5 บ ต้าน 7.8/7.9 Stop loss 7.3) คาดมติครม.เมื่อวาน ที่จะให้อายุสัมปทานเดินรถเดิมขยายออกไปให้เท่ากับ สายสีน้าเงินส่วนต่อขยายใหม่ เป็นปี 2592 จะส่งผลบวกต่อการเก็งกาไรในระยะสั้น ซึ่งเรายังไม่รวมรายได้ส่วนนี้ไว้ในประมาณการณ์ คาด Upside ต่อราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 0.70 บ. หากรวมอายุสัมปทานใหม่ และเราคงคาแนะนาซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.5 บ. (อนึ่งคาดจะเซ็นสัญญาเดินรถสายสีน้าเงินส่วนต่อขยายใหม่เดือน เมย.)
รายงานวันนี้
(0) SAPPE แม้แนวโน้มกาไร 1Q17 จะชะลอตัวตามภาวะการบริโภคในประเทศ และภาวะน้าท่วมในอินโดนีเซีย แต่เราคาด ผลประกอบการจะกลับมาโดดเด่นอีกครั้งใน 2Q17 จากปัจจัยฤดูกาลหน้าร้อนช่วยหนุน ประกอบกับการการออกสินค้าใหม่ 7 รายการ และการกลับมาของตลาดอินโดนีเซียหลังน้าท่วม คาดกาไรที่โดดเด่นใน 2Q17 จะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้น เราคงคาแนะนา ซื้อ ราคาเป้าหมาย 34.50 บาท (อิง P/E 25 เท่า เทียบค่าเฉลี่ยในอดีต +0.25SD คาดในช่วงกาไรขาขึ้น และเริ่มเข้า high season จะหนุนให้ราคาหุ้นจะเทรดเหนือค่าเฉลี่ยฯได้) ในขณะที่การทาตลาด All CoCo เพิ่อขาย franchise ในต่างประเทศยังคงเป็นอัพไซด์ในระยะยาวที่เรายังไม่รวมในประมาณการกาไร
(0) BH เรามีกาปรับประมาณการกาไรหลักปี 2017 ลง 5% และปี 2018 ลง 8% จากรายได้การรักษาที่เราปรับลดลง 8% ในปี 2017 และ 10% ในปี 2018 สะท้อนการชะลอตัวของปริมาณคนไข้ ซึ่งจะนวนผู้ป่วยยังคงไม่เห็นสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากในปี 2016 OPD ปรับลดลง 2.4% และ IPD ปรับลดลง 4% อย่างไรก็ตามจากประมาณการของเรา core margin อยู่ที่ 20.7% ในปี 2017 ซึ่งดีที่สุดในกลุ่ม BH ยังคาดมี ROE ที่สูงที่สุดในกลุ่มที่ 26% ในปี 2017 สูงกว่าค่าเฉลี่ย Global ที่ 15% และยังถือเป็นหุ้น “best value plays” จากราคาหุ้นที่ยังถูกที่สุดในกลุ่ม เทรดที่ PE ปี 2017 33.7 เท่า (ต่ากว่าค่าเฉลี่ย Global ที่ 36.1 เท่า) เรายังคงคาแนะนา ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 212 บาท (ปรับลงจาก 250 บาท)
(+) TKN เราเริ่มต้นคาแนะนา ซื้อ TKN ด้วยราคาเป้าหมายปี 60 อยู่ที่ 30.75 บาท เราชอบโอกาสการเติบโตของกาไร ซึ่งหนุนโดยการขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ ปัจจุบัน PER ปี 60 อยู่ที่ 34 เท่าซึ่งอาจจะดูสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่ 25 เท่า แต่เราเชื่อว่า PER ระดับนี้ยังไม่สูงจนเกินไป เนื่องจากบริษัทมีอัตราการเติบโตสูงถึง 33% ต่อปีในช่วงอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่ 26% ต่อปี ดังนั้น PEG ของบริษัทจึงอยู่เพียง 1.04 เท่า ซึ่งใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ณ ระดับราคาปัจจุบันยังมีอัพไซด์ถึงราคาเป้าหมาย 17% โดยปัจจัยหนุนมาจาก 1) การเติบโตของยอดส่งออก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมายอดการส่งออกของ TKN เติบโตขึ้นอย่างเด่นชัดโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม (CAGR) อยู่ที่ 38.4% ต่อปี เราคาดการณ์ว่าในช่วงระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ยอดขายในตลาดต่างประเทศจะโตเฉลี่ย 32% ต่อปี, 2 ) ยอดขายในประเทศยังโตได้อีก ความต้องการบริโภคสาหร่ายยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง สะท้อนผ่านมูลค่าตลาดสาหร่ายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.4% ในปี 59
หุ้นมีข่าว/ประเด็น
(+) อเมริกัน แอร์ไลน์ส ซื้อหุ้น "ไชน่า เซาท์เธิร์น" หวังสยายปีกสู่ตลาดการบินจีน สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส เตรียมซื้อหุ้นมูลค่า 200 ล้านดอลลาร์ ในสายการบินไชน่า เซาท์เธิร์น พร้อมจับมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือในอนาคต ไชน่า เซาท์เธิร์น เป็นสายการบินรายใหญ่ที่สุดของจีนเมื่อพิจารณาจากจานวนผู้โดยสาร และเป็นสายการบินจีนรายล่าสุดที่เปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ ทั้งนี้ การดาเนินการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มความเป็นไปได้ให้กับสายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ในการเข้าสู่ตลาดการบินที่กาลังเติบโตของจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในตลาดนักท่องเที่ยวที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ โดยสายการบินจีนหลายแห่งกาลังรุกขยายฝูงบินและเพิ่มจุดหมายปลายทางไปยังประเทศต่างๆ เพื่อรองรับการเติบโตของจานวนนักท่องเที่ยว (ที่มา อินโฟเควส ASPEN) / จากกระแสข่าว M&A ส่งผลต่อการเก็งกาไรหุ้นกลุ่มสายการบินของไทยขึ้นมาอีกครั้ง (AAV, THAI ect.)
(+) BEM ครม.ไฟเขียวให้เอกชนเดินรถสายสีน้าเงินส่วนต่อขยายรูปแบบ PPP net cost: ครม. อนุมัติให้เอกชนรายเดิมเดินรถสายสีน้าเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลาโพง-บางแค, บางซื่อ-ท่าพระ และให้ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ทั้งนี้เอกชนจะเข้ามาลงทุนในรูปแบบ PPP Net Cost เพื่อลดภาระการลงทุนของภาครัฐ และขยายระยะเวลาการเดินรถสายสีน้าเงินหรือสายเฉลิมรัชมงคลที่วิ่งอยู่ปัจจุบันให้สิ้นสุดระยะเวลาเดียวกับสายสีน้าเงินส่วนต่อขยาย (ที่มา อินโฟเควส/ ASPEN)
ความเห็น เราคาดอายุสัมปทานที่จะให้มีการขยาย สัมปทานเดิมออกไปให้เท่ากับ สายสีน้าเงินส่วนต่อขยายใหม่ เป็นปี 2592 จะส่งผลบวกต่อการเก็งกาไรในระยะสั้น ซึ่งเรายังไม่รวมรายได้ส่วนนี้ไว้ในประมาณการณ์ คาด Upside ต่อราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้น 0.70 บ. หากรวมอายุสัมปทานใหม่ และเราคงคาแนะนาซื้อ ราคาเป้าหมาย 8.5 บ.
(+) SCN ลงนามทาสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติกับ PTT จานวน 4 สัญญา แบ่งเป็น การขอสัญญาใหม่เพื่อซื้อขายก๊าซธรรมชาติ ตามค่าความร้อนคิดเป็นบาทต่อล้านบีทียู จานวน 2 สัญญา ได้แก่ บี.พี.เอ.อินเตอร์2 ที่จังหวัดชลบุรี คาดการณ์ยอดขาย 60,000 กิโลกรัมต่อวัน และสยามวาสโก จังหวัดชัยนาท คาดการณ์ยอดขาย 40,000 กิโลกรัมต่อวัน ส่วนอีก 2 สัญญา ได้แก่ บี.พี.เอ อินเตอร์เทรด1 จังหวัดชลบุรี คาดการณ์ยอดขาย 60,000 กิโลกรัมต่อวัน และเอ็มมี่ เอ็นจีวี จังหวัดปราจีนบุรี 1 แห่ง คาดการณ์ยอดขาย 40,000 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นรูปแบบการขอแก้ไขสัญญา จากเดิมเป็นการซื้อขายก๊าซธรรมชาติคิดเป็นบาทต่อกิโลกรัม เป็นการซื้อขายก๊าซตามค่าความร้อนเช่นกัน โดยทั้ง 4 สัญญาคาดการณ์ยอดขายรวม 200,000 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งจะได้ผลตอบแทนจากการจาหน่ายก๊าซตามโครงสร้างราคาแบบใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 3.43 บาทต่อกิโลกรัม จากเดิมที่ได้ประมาณ 2 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลดีต่อผลการดาเนินงานของบริษัทฯ ที่ดีขึ้น โดยคาดว่าทั้ง 4 แห่งจะเริ่มดาเนินการก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปีนี้ (ที่มา อินโฟเควส ASPEN)
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
(+) ประชุม กนง. วันนี้ คาดคงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.5%
(+) เมื่อวาน US Consumer confidence มีค. +125.6 ดีกว่าคาดที่ 113.4 จาก 114.8 (ที่มา ASPEN)
(+) MS ออกรายงาน 28 มีค. ยังคงคาด FED จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 6 ครั้ง ภายในสิ้นปี 2018 แต่นโยบาย 'dovish tightening' คาดจะยังสนับสนุน ค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ โดย MS ยังคงน้าหนักการลงทุน Over Weight ตลาดหุ้นไทย ซึ่งเป็นตลาดเดียวใน ASEAN ที่ OW เพราะคาดการกระตุ้นเศรษฐกิจ และโครงสร้างพื้นฐานจะยังคงเป็นปัจจัยหนุน โดย อินโดฯ สิงคโปร์ ฟิลิปินส์ MS ตลาดมี downside ในช่วง -6% ถึง -13%
(0) พุธ US pending home sales คาด 2.5% จาก -2.8% m-m. ญี่ปุ่น Retail sale กพ. คาด 1.8% จาก 1.0% y-y. (ที่มา Bloomberg)
(+) พฤหัส US GDP 4Q16 3rd คาด 2% จาก 1.9%, สเปน HICP inflation มีค. คาด +2.4% จาก 3% เยอรมนี CPI มีค. คาด +1.8% จาก 2.2%, Eu area Economic sentiment มีค. (ที่มา Bloomberg)
(+) ศุกร์ US Core PCE index กพ.คาด 0.2% จาก 0.3% US Personal spending กพ.คาด +0.2% คงที่ m-m. US U of M Consumer sentiment มึค. คาด 97.8 จาก 97.6, ฝรั่งเศส HICP Inflation มีค. คาด +1.4 y-y. Euro area HICP inflation core คาด +0.8% จาก +0.9% y-y. UK GDP 4Q16 3rd คาด +0.7% q-q คงที่, ญี่ปุ่น Industrial production กพ. คาด +2.2% จาก -0.4% m-m. Core CPI กพ. คาด +0.2% จาก +0.1% y-y. จีน PMI official manufacturing มีค.คาด +51.7 จาก 51.6, เกาหลีใต้ Industrial production กพ.คาด +8% จาก 1.7% y-y. ไทย Current account balance กพ. คาด +4US$bn จาก 5US$bn (ที่มา Bloomberg)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค