WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

AIRAบล.ไอร่า : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน



ทิศทางตลาด
Sideway? คาดมีโอกาสเคลื่อนไหวในแดนบวก/ลบ ตามตลาดภูมิภาค
  เช้านี้ที่ไร้ทิศทาง แม้ได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ล่าสุดที่แข็งแกร่ง และคาดช่วยชดเชยประเด็นความกังวลต่อความไม่แน่นอนในการดำเนินงานนโยบายของสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้านี้มีความคาดหวังในเชิงบวกว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังเสียงสนับสนุนของพรรครีพับลิกันไม่เพียงพอ ทำให้ต้องยกเลิกร่างกฎหมาย “อเมริกันเฮลธ์แคร์”ที่จะนำมาใช้แทน “โอบามาแคร์”ไป ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลักดันนโยบายอื่นๆ ตามที่หาเสียงไว้ เช่น การปฏิรูปภาษี การผ่อนคลายกฎเกณฑ์ รวมถึงงบประมาณใช้จ่ายในโครงการสาธารณูปโภค ที่มีมูลค่าสูงถึง 1.0 ล้านล้านUSD ตลอดระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า
  ยังแนะติดตามประเด็นการพิจารณาออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) โดยอังกฤษจะประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป (EU) ในวันนี้ (29/3/60) และส่งผลให้อังกฤษสามารถเริ่มต้นกระบวนการเจรจา คาดใช้ระยะเวลา 2 ปี เพื่อแยกตัวออกจาก EU อย่างเป็นทางการ
  
  รวมถึงการเลือกตั้งในยุโรป โดยเฉพาะในฝรั่งเศส (เม.ย. – พ.ค.) ซึ่งคาด Sentiment เป็นบวก หลังผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ และผลสำรวจล่าสุดในช่วงการหาเสียงในฝรั่งเศส คาดช่วยลดความกังวลโดยเฉพาะการเปลี่ยนขั้วอำนาจทางการเมือง ที่อาจเป็นการจุดกระแสความนิยมต่อนโยบายขวาจัด
  ทางด้านประเด็นในประเทศ คาดยังได้รับ Sentiment บวก โดยเฉพาะ Fund Flow ไหลกลับเข้ามาต่อเนื่องใน Emerging Marketภูมิภาค รวมถึงไทย ที่มียอดซื้อสุทธิต่างชาติกว่า 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมติดตาม (1) การประชุม กนง. ในวันนี้ (29/3/60) คาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% (2) PTT ขึ้น XD @10.00 บาท ในวันนี้ และ (3) Window Dressing ซึ่งจะมีการปิดงบไตรมาส 1 ในวันที่ 31/3/60

  ส่วนทางด้านปัจจัยกดดันจากความไม่แน่นอนในการเปิดประมูลของภาครัฐ ซึ่งส่งผลต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง คาดเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลัง ครม. เห็นชอบประเด็นการปรับร่างทีโออาร์ใหม่สำหรับรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง และแนะให้จัดทำร่าง TOR ใหม่ เสร็จภายใน 3 เดือน คาดมีความเป็นไปได้ที่จะเปิดประมูลในช่วง 2H/60

SET SET50 SET100
1,576.72 +6.22 1,000.40 +4.97 2,251.25 +11.77

ปัจจัยที่มีผลต่อตลาด
ปัจจัยที่มีผลต่อตลาดวันนี้
  (+) ตลาดต่างประเทศ DJIA +150.52, NASDAQ +34.77, S&P +16.98, FTSE +49.92, CAC +28.77 และ DAX +153.35 ภายใต้ปัจจัยหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง (1) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค – มี.ค. อยู่ที่ 125.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบกว่า 16 ปีนับแต่ธ.ค.’43 และสูงกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 114.0 (2) ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศ – ม.ค. เพิ่มขึ้น 5.9%YoY ซึ่งเพิ่มสูงสุดในรอบ 31 เดือน ภายใต้ปัจจัยหนุนจากจากสต็อกบ้านที่อยู่ในระดับต่ำ และ (3) ตัวเลขขาดดุลการค้า – ก.พ. ลดลง 5.9%MoM อยู่ที่ 6.48 หมื่นล้านUSD ขณะที่สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่ง - ก.พ. เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 5.941 แสนล้านUSD และปัจจัยหนุนข้างต้น ช่วยชดเชยความกังวลหลังร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ของปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามยังคงจับตาการแสดงความคิดเห็นของบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด โดยล่าสุดนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟดได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ พร้อมติดตามการบริหารงานของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด ว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดในอนาคต

  ส่วนทางด้านตลาดหุ้นยุโรป ได้รับปัจจัยหนุนบ้าง ดัชนีความเชื่อมั่น  ภาคธุรกิจของเยอรมนี – มี.ค. อยู่ที่ 112.3 เพิ่มขึ้นจาก 111.0 เมื่อก.พ. และดีกว่าที่คาดว่าจะอยู่ที่ 111.1

P/E (เท่า) P/BV (เท่า) Dividend Yield (%)
17.39 1.93 3.13

ที่มา : www.set.or.th

มูลค่าการซื้อขาย หน่วย (ลบ.)
มูลค่าการซื้อขาย 38,903.60
สถาบัน -467.64
บัญชีหลักทรัพย์ 154.36
ต่างประเทศ 1,675.69
ในประเทศ -1,362.41

และยังแนะจับตา
  (1) กลุ่มอาหาร ได้รับประโยชน์จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น เช่น BR และ TKN เป็นต้น
  (2) กลุ่มธนาคาร ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปี ’60 เช่น KBANK และ SCBเป็นต้น
  (3) กลุ่มปิโตรเคมี ได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินงานที่ยังคงแข็งแกร่ง เช่น IVL และ PTTGC เป็นต้น
  (4) กลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่คาดได้รับประโยชน์ต่อเนื่องจากส่วนต่างผลิตภัณฑ์ที่สูงขึ้น และความต้องการในประเทศที่คาดดีขึ้น เช่น SCC
  (5) กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ มีปัจจัยบวกจากการเปิดขายโครงการในปี’60  ที่โดดเด่น เช่น ANAN และ SPALI เป็นต้น
  (6) กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่ได้รับประโยชน์จากงานภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาต่อเนื่อง เช่น SQ และ UNIQเป็นต้น        
  
  (7) กลุ่มพลังงาน เช่น PTT ได้รับประโยชน์จากธุรกิจก๊าซที่แนวโน้มกำไรเติบโตดี ขณะที่ TOP และ SPRC แนวโน้มผลการดำเนินงานดี ค่าการกลั่นปรับตัวสูงขึ้น และ BANPU ปรับตัวขึ้นตามราคาถ่านหิน
  (8) กลุ่มสื่อและสิ่งพิมพ์ โดยบริษัทที่ได้รับประโยชน์จากค่าโฆษณาที่คาดว่าจะฟื้นตัวในช่วง 1Q/60 และเรตติ้งที่อยู่ในอันดับต้นๆ เช่น WORK
  
  (9) กลุ่มขนส่ง ในส่วนของธุรกิจขนส่งทางเรือ เช่น PSL คาดได้รับประโยชน์จากผลการดำเนินที่มีแนวโน้มฟื้นตัว จากการปรับตัวของอุตสาหกรรมเรือเทกอง ขณะที่ดัชนีค่าระวางเรือเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่ 1,333 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่กลางปี’58

  ผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ 10 ปี +0.04 อยู่ที่ 2.41%
  (ระดับสูงสุด 3.77% เมื่อ กพ.’54) |
  
  ดัชนีความเสี่ยง (VIX) -0.97 อยู่ที่ 11.53

หุ้นแนะนำ : PSL

นักวิเคราะห์ : จิตรลดา เลขาพันธ์ โทร .02-684-8788

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!