WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

 

'เลือกซื้อ/ถือเมื่อ SET เหนือ 1555'
หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
       ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ SET Index ปิดอ่อนตัวลง 2.12 จุดที่ 1566.66 โดยมีการขายทำกำไรกลุ่มแบงค์และพลังงาน การซื้อขายยังค่อนข้างซบเซา โดยรวมเป็นการเทรดรอข่าวใหม่ สำหรับปัจจัยสำคัญในช่วงนี้ ได้แก่
- ทรัมป์ประสบปัญหาในการรวบรวมเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสเพื่อยกเลิก "โอบามา แคร์" ซึ่งอาจทำให้มาตรการอื่นๆ เช่น การปฏิรูปภาษี, การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค ต้องล่าช้าออกไป
- สหรัฐ : ออกกฎห้ามผู้โดยสารจากสนามบิน 10 แห่ง (ในตะวันออกกลาง&แอฟริกา) พกพาอุปกรณ์ที่ใหญ่กว่า Smart Phone ขึ้นเครื่อง
ติดตามสุนทรพจน์ของประธานเฟดที่ชิคาโกวันนี้ ว่าจะให้ Guidance เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐอย่างไร ส่วนตลาดประเมินว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 2 ครั้งในช่วงที่เหลือของปีนี้
- สัญญาน้ำมันดิบ : อ่อนลงต่อ..สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ก่อนพุ่งขึ้นถึง 5 ล้านบาร์เรล มากเกินคาด
AOT : ยังอยู่ระหว่างเจรจาเรื่องค่าเช่าที่ดินกับกรมธนารักษ์ แต่คาดผลกระทบไม่รุนแรง กรณีที่แย่ ถ้าต้องจ่ายค่าเช่าเพิ่ม+ค่าปรับย้อนหลัง ราคาพื้นฐานจะลดเป็น 41.40 บาท (จากปัจจุบัน 45.50 บาท) ซึ่งมี Upside จากราคาปัจจุบัน 5%
- THAI : ปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 18.70 บาท (เดิม 23.25 บาท) ธุรกิจมีความท้าทายสูง มาร์จิ้นแคบลง และอาจต้องเพิ่มทุนให้ NOK
จัดพอร์ตบนความสมดุลของ Risk & Return (แบ่งเป็น 3 หมวด : หุ้นปันผล, หุ้นมั่นคง และหุ้นเติบโต) และทำ Re-balancing เป็นระยะ หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานที่แนะนำวันนี้เป็น TU

การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดรวมเป็นลบเล็กๆ แนวต้าน 1580-1590 ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบหรือต่ำกว่า 1555 ควร Wait & See หรือลดพอร์ตตาม

สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ ROJNA, HANA, TPCH, JWD ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BLA, PTL, IRPC, BEM, WINNER, KKP, SCN, ROBINS หุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะ Take Profit คือ TISCO, BWG หุ้นหลุด List -ไม่มี-

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]

Need to know TODAY


ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ

ปัจจัยต่างประเทศ :
- อังกฤษ : มีเหตุการณ์รถยนต์พุ่งใส่ฝูงชนและยิงกราดในกรุงลอนดอนมีเสียชีวิต 5 รายบาดเจ็บ 40 ราย
เจ้าหน้าที่ตำรวจกรุงลอนดอนยืนยันว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โจมตีกรุงลอนดอนเพิ่มขึ้นเป็น 5 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 40 ราย ทั้งนี้เมื่อวานนี้ได้เกิดเหตุมีผู้ขับรถยนต์คันหนึ่งแล่นเข้าใส่ฝูงชนบนสะพานเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภาอังกฤษ และเกิดเหตุกราดยิงด้านนอกอาคารรัฐสภา โดยผู้ก่อเหตุกราดยิงดังกล่าวได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจยิงเสียชีวิต หลังที่เขาใช้มีดแทงตำรวจคนหนึ่งเสียชีวิต

- สหรัฐ : ออกกฎห้ามผู้โดยสารจากสนามบิน 10 แห่งพกอุปกรณ์ที่ใหญ่กว่า Smart Phone ขึ้นเครื่อง
กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐ ออกกฎไม่อนุญาตให้ผู้โดยสารของสายการบินจากสนามบิน 10 แห่ง 8 ประเทศ พกพาอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ที่มีขนาดใหญ่กว่า Smart Phone เช่น Note Book, Lab Top, Digital Camera และอื่นๆ ติดตัวขึ้นเครื่องบิน โดยระบุว่า "ข่าวกรองที่เชื่อถือได้บ่งชี้ว่า กลุ่มก่อการร้ายยังคงมีเป้าหมายที่เที่ยวบินโดยสารเชิงพาณิชย์ ซึ่งรวมถึงการซ่อนอุปกรณ์ระเบิดไว้ในของใช้เพื่อลักลอบนำขึ้นเครื่องบิน"

ซึ่งสนามบิน 10 แห่งดังกล่าว ประกอบด้วย เส้นทางสหรัฐจากสนามบินในกรุงอัมมานของประเทศจอร์แดน กรุงไคโรประเทศอียิปต์ เมืองคาซาบลังก้าของโมร็อกโก กรุงโดฮาของกาตาร์ นครอิสตันบูลของตุรกี กรุงคูเวตซิตี้ของคูเวต นครดูไบและกรุงอาบูดาบีของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมืองญิดดะฮ์และกรุงริยาดห์ ประเทศซาอุดิอาระเบีย

สหรัฐ : ยอดขายบ้านมือสองก.พ. -3.7%MoM เพราะสินค้าให้เลือกมีน้อย
ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.พ.ร่วงลง 3.7% สู่ระดับ 5.48 ล้านยูนิต ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 2% สู่ระดับ 5.57 ล้านยูนิต โดยได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งสูง และสต็อกบ้านที่ลดต่ำลงเป็นเดือนที่ 21 ติดต่อกัน

สหรัฐ : จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลนพฤหัสนี้
นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งการประชุมจัดขึ้นโดยเฟดสาขาชิคาโก ภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้
ด้านนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวเมื่อวานนี้ว่าเฟดกำลังดำเนินไปในแนวทางที่ถูกต้องสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้เมื่อวันที่ 15 มี.ค.60 ที่ผ่านมา

ตลาดหุ้นสหรัฐ : บวก/ลบเล็กน้อย...กังวลมาตรการทรัมป์ล่าช้า
ดัชนี DJIA ปิดที่ 20,661.30 จุด ลดลง 6.71 จุด หรือ -0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,821.64 จุด เพิ่มขึ้น 27.81 จุด หรือ +0.48% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,348.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.43 จุด หรือ +0.19% เนื่องจากทรัมป์ประสบปัญหาในการรวบรวมเสียงสนับสนุนของสมาชิกพรรครีพับลิกันในสภาคองเกรสเพื่อยกเลิกโครงการ "โอบามา แคร์" ซึ่งอาจทำให้มาตรการอื่นๆ เช่น การปฏิรูปภาษี, การผ่อนคลายกฎระเบียบ และการใช้จ่ายงบประมาณในโครงการสาธารณูปโภค ต้องล่าช้าออกไป

- สัญญาน้ำมันดิบ : อ่อนลงต่อ..สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ก่อนพุ่งขึ้นถึง 5 ล้านบาร์เรล มากเกินคาด
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 48.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 32 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 50.64 ดอลลาร์/บาร์เรล โดย EIA รายงานสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ก่อนว่าพุ่งขึ้นถึง 5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 2.8 ล้านบาร์เรล ส่วน API คาดว่าสต็อกจะเพิ่ม 4.5 ล้านบาร์เรล

+ สัญญาทองคำ : ทดสอบ 1250 ดอลลาร์/ออนซ์แล้ว แต่ปิดต่ำกว่าระดับนี้เล็กน้อย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ระดับ 1,249.70 ดอลลาร์/ออนซ์ ปัจจัยหนุน คือ การอ่อนค่าของเงินดอลาร์สหรัฐเพราะกังวลมาตรการทรัมป์ล่าช้า

ปัจจัยในประเทศ :
+ กลุ่มไก่ส่งออก : ได้ประโยชน์จากการที่หลายประเทศระงับนำเข้าเนื้อสัตว์จากบราซิลชั่วคราว
ทางการญี่ปุ่นสั่งระงับการนำเข้าเนื้อสัตว์แช่แข็งจากบราซิลเป็นการชั่วคราว หลังพบว่ามีบริษัทบางแห่งของบราซิลลักลอบส่งออกสินค้าที่หมดอายุโดยบริษัทแปรรูปเนื้อได้ติดสินบนพนักงานควบคุมคุณภาพเพื่อลักลอบส่งออก
นอกจากนี้บริษัทที่ทำธุรกิจบรรจุภัณฑ์เนื้อสัตว์อย่าง JBS SA และ BRF SA ก็ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าใช้สารเคมีเพื่อเปลี่ยนสีและลักษณะของเนื้อที่หมดอายุแล้วให้ดูสดใหม่ รวมถึงติดสินบนเจ้าหน้าที่เพื่อแลกเปลี่ยนกับการส่งออกเนื้อที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยแหล่งข่าวระบุว่าบราซิลได้ส่งออกเนื้อดังกล่าวไปยังยุโรป จีน และตะวันออกกลาง
และทางสื่อท้องถิ่นรายงานว่าสหภาพยุโรป จีน ชิลี และเม็กซิโกต่างก็ออกมาประกาศระงับการนำเข้าเนื้อจากบราซิลด้วยเช่นกัน
ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : การระงับนำเข้าเนื้อสัตว์แช่แข็งจากบราซิลชั่วคราวของญี่ปุ่น สหภาพยุโรป จีน ตะวันออกกลาง และอีกหลายประเทศ เป็นโอกาสที่ไทยจะส่งออกเนื้อสัตว์ ซึ่งรวมถึงไก่ ไปยังประเทศเหล่านี้ได้มากขึ้นแม้จะเป็นเหตุการณ์ชั่วคราวก็ตาม ทั้งนี้การส่งออกที่เพิ่มขึ้นจะทำให้อุปทานในประเทศตึงตัวขึ้นด้วย ยังผลให้ราคาเนื้อสัตว์และ By Products ในประเทศมีโอกาสปรับขึ้น ซึ่งเป็นบวกกับผู้ประกอบการ ซึ่งบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดฯได้แก่ GFPT, CPF, TFG เป็นต้น โดยหุ้นที่ยังมี Upside มากเป็น CPF (ราคาพื้นฐาน 40 บาท)

+ TU (ราคาปิด 21.30 บาท) : ธุรกิจเริ่มฟื้นตัว
กำไรใน 1Q60 เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นหลังจากเจรจาปรับเพิ่มราคาขายกับลูกค้าได้มากขึ้น การเข้าซื้อ Red Lobster เริ่มเห็นผล และช่วยเสริมกำไรในงวด 4Q59 สำหรับธุรกิจแซลมอนได้มาถึงจุดคุ้มทุน (breakeven) แล้ว ณ ระดับอัตรากำไรขั้นต้นใน 4Q59 และคาดว่าจะทำกำไรได้ในปี 60 แนะนำซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 25.00 บาท จุดเด่นบริษัท คือ ลดการพึ่งพิงธุรกิจทูน่าที่มีความผันผวนสูง และมีสินค้าอื่นที่ให้อัตรากำไรดีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงธุรกิจได้เป็นอย่างดี คาดการณ์กำไรหลักปี 60 กลับมาพลิกฟื้นเพิ่ม 23% y-o-y และปี 61 เติบโตต่อเนื่องได้อีก 12% y-o-y

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]
23-3-17

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!