- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 23 March 2017 16:52
- Hits: 2720
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(AM)
Technical highlights
SET lndex : แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1580
ทิศทางตลาด : SET Index ปิดที่ 1568.78 จุด ลดลง 2.12 จุด มูลค่าการซื้อขาย 35,245 ล้านบาท ตลาดเมื่อวานปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปปิดยืนเหนือแนวต้านที่ 1570 จุด หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1560 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายไม่สูงมาก จึงทำให้มีการฟื้นตัวในระยะสั้น
Daily: ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1570 จุด หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1560 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง จึงทำให้มีการฟื้นตัวที่บริเวณแนวรับสำคัญในระยะสั้น ทาให้แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1580 จุด แต่เราแนะนาให้ใช้เป็นจังหวะขาย และมีแนวรับสำคัญที่ 1550 จุด
กลยุทธ์ :SET Index แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1580 จุด แต่เป็นจังหวะขายหุ้นต่อเนื่อง หลังจากฟื้นตัวเหนือแนวรับสำคัญในระยะสั้นที่ 1560 จุด แต่ถ้าปรับตัวลดลงหลุด 1560 จุดลงไป จะมีแนวรับถัดไปที่ 1550 จุด
Most Active Value: แนวรับ แนวต้าน
CPF สัญญาณซื้อ แนวต้านสำคัญ 29.50 แนวต้านถัดไป 30.25 29.00 / 28.50 29.50 / 30.00
CPALL สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 60.00 แนวรับ 58.50 59.00 / 58.50 60.50 / 61.00
PTT แนวโน้มขึ้นทดสอบ 408-410 แนวรับ 400 404 / 400 408 / 408
KBANK แนวรับ 190 แนวต้าน 194-195 190 / 189 192 / 194
PTTGC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 74.00 แนวรับ 70.00 และ 69.00 71.50 / 71.00 72.50 / 73.00
AOT เคลื่อนไหวในกรอบ 38.00-39.50 38.50 / 38.00 39.25 / 39.50
SCB แนวโน้มขึ้นทดสอบ 162 และ 164 แนวรับสำคัญ 154 158 / 156 162 / 164
BANPU แนวรับ 19.20 และ 19.00 แนวต้าน 19.60 และ 20.00 19.20 / 19.00 19.50 / 19.60
SCC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 540-544 แนวรับ 530 530 / 528 536 / 540
ADVANC ขายทำกำไรที่แนวต้าน 178 และ 180 แนวรับ 175 176 / 175 178 / 180
JWD Infologistics (JWD TB; THB 9.60) - ซื้อ
แนวต้าน : 9.85 และ 10.00 / แนวต้านสำคัญ 10.40
แนวรับ : 9.60 และ 9.50
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านแนวต้านของรูปแบบสามเหลี่ยมขึ้นไปได้ ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ยเหนือระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 60
แนะนำซื้อ JWD โดยมีแนวรับที่ 9.60 และ 9.50 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 9.85 และ 10.10 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 9.40 ลงไป
TTCL (TTCL TB; THB 17.30) - ซื้อ
แนวต้าน : 18.00 และ 18.40 / แนวต้านสำคัญ 19.00
แนวรับ : 17.30 และ 17.20
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของกรอบแนวโน้มขาลง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง
MACD เคลื่อนไหวออกด้านข้างในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 30
แนะนำซื้อ TTCL โดยมีแนวรับที่ 17.30 และ 17.20 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18.00 และ 18.40 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.80 ลงไป
Trading Pick Follow up: แนวรับ แนวต้าน
KKC แนวรับสำคัญ 2.74 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.00 และ 3.08 2.74 / 2.70 2.88 / 3.00
SEAOlL แนวโน้มขึ้นทดสอบ 3.40-3.46 แนวรับสำคัญ 3.04 3.10 / 3.04** 3.28 / 3.40
SCN แนวรับสำคัญ 7.80 ถ้าหลุดจะเป็นสัญญาณขาย แนวโน้มขึ้นทดสอบ 8.25 และ 8.50 7.80** / 7.60 8.25 / 8.40
SMPC แนวโน้มขึ้นทดสอบ 18.00 และ 18.50 แนวรับสำคัญ 16.80 17.20 / 17.00 17.80 / 18.00
AAV สัญญาณซื้อต่อเนื่อง แนวต้าน 6.55 ถ้าทะลุผ่านขึ้นไปได้ แนวต้านถัดไป 6.70 6.40 / 6.30 6.55 / 6.70
BWG แนวโน้มขึ้นทดสอบ 2.34 และ 2.40 แนวรับสำคัญ 2.12 2.24 / 2.20 2.34 / 2.40
BM สัญญาณฟื้นตัว แนวโน้มขึ้นทดสอบ 4.14 และ 4.28 แนวรับสำคัญ 3.92 4.10 / 4.00 4.14 / 4.20
TPCH สัญญาณซื้อ แนวโน้มขึ้นทดสอบ 20.40 และ 20.80แนวรับสำคัญ 19.20 19.70 / 19.50 20.40 / 20.80
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 - [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET...ยังผันผวน
หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มแกว่งตัวลงจากความกังวลในหลายๆ เรื่องที่คาดว่าจะล่าช้าไปจากการคาดการณ์เดิม อย่าง นโยบายการลดภาษีและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หากมาดูประเด็นนี้ผ่านการสำรวจของ Bank of America ที่ได้ไปสำรวจบรรดากองทุนในวันที่ 10-16 มี.ค.พบว่ามีเพียง 10% ตอบว่านโยบายลดภาษีจะผ่านสภาสหรัฐได้ในช่วงฤดูร้อนนี้ น้อยกว่านั้นตอบจะเป็นเดือน ส.ค. การดิ่งของตลาดหุ้นสหรัฐในขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากขึ้นมาสูงมากและเริ่มแพง หากมาดูสัดส่วนสำคัญๆที่จะช่วยหนุนตลาดหุ้นสหรัฐขึ้นมา เช่น ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้า ค่า Earning momentum ratio และ EPS growth 12 เดือนล่วงหน้า จากรูปด้านซ้าย จะพบว่าที่ดีมากๆ คือ อัตราการทำกำไรของตลาดใน 12 เดือนล่วงหน้าจะโตถึง 10.6% ส่วนค่า Earning momentum ratio กำลังจะขึ้นมาแดนบวก สะท้อนนักวิเคราะห์ มีมุมมองเชิงบวกกับกำไรของบริษัทใน S&P 500
อย่างไรก็ตามการที่ดัชนี S&P 500 กำลังขึ้นไปยืนที่จุดสูงสุด ส่งผลให้ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าตอนนี้กำลังเทรดกันที่จะจุดสูงสุดที่เกือบ 18 เท่า เทียบค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 15 เท่า หากย้อนในอดีตเมื่อตลาดเริ่มอ่อนไหวและไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ๆ การปรับตัวลงจึงหลีกเลี่ยงลำบาก เพียงแต่จะลงไปเท่าไร ซึ่งยังต้องติดตามอีกหลายประเด็น อย่าง นโยบายประกันสุขภาพที่จะเข้าสภาและการแถลงของประธาน FED ในคืนนี้ เรื่องทิศทางดอกเบี้ย ซึ่งน่าจะอยู่ในความคาดหมายของตลาด คือ คงจะพูดในทำนองว่า ค่อยเป็นค่อยไป ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตัวเลขเงินเฟ้อ และการจ้างงาน
สำหรับสัดส่วนที่สำคัญในตลาดหุ้นไทย ที่เห็นได้ชัด ว่าดีขึ้นมากๆ คือ ค่า Earning revision ratio ที่กำลังเป็นบวก สะท้อนให้เห็นว่า จำนวนบริษัทที่ถูกปรับเพิ่มกำไรในปีนี้มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ที่แย่ คือ อัตราการทำกำไรของตลาดใน 12 เดือนล่วงหน้า ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งตอนนี้โตแค่ 7.51% เทียบภูมิภาคที่มากกว่า 14% ส่งผลให้ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าของไทยขึ้นไปเทรดกันที่สูง (รูปด้านขวา) ดังนั้นทิศทางตลาดจะเป็นอย่างไรหลังจากนี้ ต้องดูอัตราการทำกำไรของตลาดเป็นหลัก โดยเฉพาะผลการดำเนินงาน Q1/17
นอกจากต้องติดตามเหตุการณ์ในสหรัฐ นอกนั้นจะเป็นราคาน้ำมัน ที่หลังจากนี้อาจจะอ่อนตัวลงอีก หลังตัวเลขปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดการ Short น้ำมันจากพวก Hedge fund ในสัดส่วนที่สูง สำหรับประเด็นที่จะส่งผลด้านบวกกับตลาดหุ้นเกิดใหม่หลังจากนี้ มาจากผลการสำรวจของ Bank of America ที่บอกว่าหุ้นในตลาดเกิดใหม่ยัง Undervalue และนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะขายหุ้นในสหรัฐ แล้วหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้เห็นได้จาก เม็ดเงินกำลังไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียเหนือ
ทิศทางดัชนี SET ช่วงปลายสัปดาห์ คาดจะยังผันผวนตามตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันเป็นหลัก โดยช่วงที่ตลาดยังอ่อนไหว ยังต้องเพิ่มความระมัดระวัง รอให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีความชัดเจนขึ้น วันนี้จึงมองดัชนี SET จะผันผวนในขาลงต่อ โดยวันนี้เราให้แนวรับที่ 1555-1560 จุดและแนวต้านที่ 1570-1573 จุด หุ้นแนะนำในวันนี้คือ BDMS CPF MALEE MONO SGP
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(AM)
Investment Strategy
กลยุทธ์: หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มแกว่งตัวลงจากความกังวลในหลายๆ เรื่องที่คาดว่าจะล่าช้าไปจากการคาดการณ์เดิม อย่าง นโยบายการลดภาษีและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน หากมาดูประเด็นนี้ผ่านการสำรวจของ Bank of America ที่ได้ไปสำรวจบรรดากองทุนในวันที่ 10-16 มี.ค.พบว่ามีเพียง 10% ตอบว่านโยบายลดภาษีจะผ่านสภาสหรัฐได้ในช่วงฤดูร้อนนี้ น้อยกว่านั้นตอบจะเป็นเดือน ส.ค. การดิ่งของตลาดหุ้นสหรัฐในขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา เนื่องจากขึ้นมาสูงมากและเริ่มแพง นอกนั้นยังต้องติดตามราคาน้ำมันดิบ ที่หลังจากนี้อาจจะอ่อนตัวลงอีก หลังตัวเลขปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกิดการ Short น้ำมันจากพวก Hedge fund ในสัดส่วนที่สูง สำหรับประเด็นที่จะส่งผลด้านบวกกับตลาดหุ้นเกิดใหม่หลังจากนี้ มาจากผลการสำรวจของ Bank of America ที่บอกว่าหุ้นในตลาดเกิดใหม่ยัง Undervalue และนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะขายหุ้นในสหรัฐ แล้วหันมาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่เพิ่มขึ้น ซึ่งตอนนี้เห็นได้จาก เม็ดเงินกำลังไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ทิศทางดัชนี SET ช่วงปลายสัปดาห์ คาดจะยังผันผวนตามตลาดหุ้นสหรัฐและราคาน้ำมันเป็นหลัก โดยช่วงที่ตลาดยังอ่อนไหว ยังต้องเพิ่มความระมัดระวัง รอให้ตลาดหุ้นสหรัฐมีความชัดเจนขึ้น วันนี้จึงมองดัชนี SET จะผันผวนในขาลงต่อ โดยวันนี้เราให้แนวรับที่ 1555-1560 จุดและแนวต้านที่ 1570-1573 จุด หุ้นแนะนำในวันนี้คือ BDMS CPF MALEE MONO SGP
Themes play :
SAWAD : เราแนะนำ ซื้อ SAWAD โดยมีราคาเป้าหมาย 58.00 บาท หลังเราพา SAWAD ไปพบกับนักลงทุนสถาบันในสหรัฐ 19 ราย ในสัปดาห์ก่อน โดยรวมแล้ว เราพบว่านักลงทุนสหรัฐมองเชิงบวกต่อแนวโน้มการดำเนินงานของบริษัท โดย SAWAD ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 20-30% ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า และเปิดสาขาใหม่ปีละ 300 สาขา ขณะที่ผู้บริหารเผยว่าจำนวนสาขาที่เหมาะสมในระยะยาวคือ 3,500 สาขาเทียบกับปัจจุบันที่มีสาขาทั่วประเทศรวม 2,100 สาขา โดยนักลงทุนไม่กังวลเกี่ยวกับ NPL ของบริษัทและมองเชิงบวกต่อการที่ SAWAD สามารถเรียกเก็บค่าปรับจากลูกค้าที่เป็น NPL ซึ่งค่าปรับเหล่านี้จะบันทึกเป็นรายได้อื่นและมีสัดส่วนประมาณ 25% ของรายได้รวมในปี FY16 นักลงทุนสหรัฐยังมองว่า SAWAD มีการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ยอดเยี่ยมเนื่องจากบริษัทจะปล่อยเงินกู้แบบมีหลักประกันโดยคิดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกันไว้ในระดับต่ำ จึงช่วยลดความเสี่ยงสินเชื่อและประกันว่าบริษัทจะมีอัตราการรับชำระหนี้จากหนี้มีปัญหาสูงหาก SAWAD ต้องยึดหลักประกัน
ประเด็นสำคัญในสัปดาห์
23 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข New Home Sales เดือนก.พ. โดยตลาดคาด 565,000 ยูนิต จากเดือนก่อนหน้าที่ 555,000 ยูนิต
24 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Durable Goods Orders เดือนก.พ. จากเดือนก่อนหน้าที่ 2.0%
24 มี.ค. : สหรัฐประกาศตัวเลข Markit U.S. Manufacturing PMI เดือนมี.ค. จากเดือนก่อนหน้าที่ 54.2
27 มี.ค. : ไทยประกาศตัวเลข Custom Export YoY เดือนก.พ. จากเดือนก่อนหน้าที่ 8.83%
27 มี.ค. : จีนประกาศตัวเลข Industrial profit YoY เดือนก.พ. จากเดือนก่อนหน้าที่ 2.3%
Opportunity Day
23 มี.ค. : AH COMAN DIMET DEMCO PTG
24 มี.ค. : NWR SEAFCO SAT ASN
27 มี.ค. : TMILL AIRA TNP CHEWA TBSP
28 มี.ค. : GEL PJW ASEFA ASP SELIC ANAN
29 มี.ค. : ETE SR MBKET
30 มี.ค. : CBG AU FUTUREPF
31 มี.ค. : AJ
Fundamental Stock :
SAWAD : Company Note คำแนะนำ : ซื้อราคาเป้าหมาย : 58บาท
SGP: Company Note คำแนะนำ : ซื้อ ราคาเป้าหมาย : 16บาท
Technical Pick:
กลยุทธ์ : SET Index แนวโน้มในระยะสั้นยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 1580 จุด โดยมีแนวรับในระยะสั้นที่ 1560 จุด
JWD Infologistics (JWD TB; THB 9.60) - ซื้อ
TTCL (TTCL TB; THB 17.30) - ซื้อ
SET lndex : แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1580
Retail Research Team