WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ภาวะตลาดหุ้นรายวัน



Stock Picks- March 2017 Fundamental : AJ, LH, MTLS, TCAP, TU
Dark Horse : BEAUTY

Strategy Pick -Today TCAP
(ดู Theme การลงทุนด้านใน)

Top Picks-High Div Yield KKP,LALIN, SNC, TMT, LH, PSH, QH, BCP, DIF, LHHOTEL, BTSGIF
Top-5 Short Sell DTAC 8%, SCC 6%, BH 5%, PTT 4%, CPN 4%

Technical View ภาพตลาดเป็นบวก ซื้อค่าบวก
Support Resistance Stop Loss
SET 1550-1540 1580-1590 หลุด 1555
SET50 970-965 1000-1010 หลุด 985
Technical Picks - Today BANK, PLAT, DTAC, SCN, BCH, ROBINS, BWG, WORK

หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อ 5.24 จุดปิดที่ 1568.78 นำโดยกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์ อิเลคทรอนิกส์ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่ออีก 1.6 พันล้านบาท ปัจจัยสำคัญอื่นในช่วงนี้ ได้แก่
- ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงกว่า 1%...วิตกมาตรการทรัมป์ล่าช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ พรรครีพับลิกันจะเสนอร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ซึ่งจะนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" ต่อรัฐสภาในวันนี้
- ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index) ร่วงลงมาที่ 99.77 หลังจบการประชุม FOMC เมื่อกลางมี.ค.แล้วปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด
จับตาสุนทรพจน์ประธานเฟดพฤหัสนี้ที่จัดโดยเฟดชิคาโก..คาดจะส่งสัญญาณว่าสหรัฐจะค่อยๆขยับดอกเบี้ยขึ้น (อย่างอีกน้อย 2 ครั้งปีนี้)
/+ DBS Bank คาดส่งออกไทยเดือนก.พ.60 จะ -4.1%YoY เพราะฐานปีก่อนสูงจากส่งออกทองคำมาก ส่วนมูลค่าส่งออกช่วงพ.ย.59 -ม.ค.60 ฟื้นตัวดีโดย +8.4%YoY และมีโมเมนตัมบวก เห็นว่าส่งออกไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตได้มากกว่า 3%
- ADVANC : ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดกำไรงวด 1Q60F จะ -24%YoY, -5%QoQ) เพราะจ่ายค่าเช่า TOT และมีค่าเสื่อมโครงข่ายเพิ่ม การแข่งขันยังสูงแต่รุนแรงน้อยลงจาก 1H59 คาดกำไรปี 60 จะ -7.5% ต่อจากปีก่อนที่ -21.9%
จัดพอร์ตบนความสมดุลของ Risk & Return (แบ่งเป็น 3 หมวด : หุ้นปันผล, หุ้นมั่นคง และหุ้นเติบโต) และทำ Re-balancing เป็นระยะ หุ้นกลยุทธ์พื้นฐานที่แนะนำวันนี้เป็น TCAP
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดรวมเป็นบวก แนวต้าน 1580-1590 ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบหรือต่ำกว่า 1555 ควร Wait & See หรือลดพอร์ตตาม
สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ KKP, SCN, ROBINS, BWG ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BLA, PTL, IRPC, TISCO, BEM, WINNER หุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะ Take Profit คือ TOP, ECL, PLAT หุ้นหลุด List -ไม่มี-

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค - [email protected]

 

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

'เลือกซื้อ/ถือต่อ'

'หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
  ปัจจัย&กลยุทธ์ทางปัจจัยพื้นฐาน : เมื่อวานนี้ตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นต่อ 5.24 จุดปิดที่ 1568.78 นำโดยกลุ่มพลังงาน ธนาคารพาณิชย์อิเลคทรอนิกส์ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่ออีก 1.6 พันล้านบาท ปัจจัยสำคัญอื่นในช่วงนี้ ได้แก่
  - ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงกว่า 1%...วิตกมาตรการทรัมป์ล่าช้ากว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ พรรครีพับลิกันจะเสนอร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ซึ่งจะนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" ต่อรัฐสภาในวันนี้
  - ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (Dollar Index) ร่วงลงมาที่ 99.77 หลังจบการประชุม FOMC เมื่อกลางมี.ค.แล้วปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด
  • จับตาสุนทรพจน์ประธานเฟดพฤหัสนี้ที่จัดโดยเฟดชิคาโก..คาดจะส่งสัญญาณว่าสหรัฐจะค่อยๆขยับดอกเบี้ยขึ้น (อย่างอีกน้อย 2 ครั้งปีนี้)
  •/+ DBS Bank คาดส่งออกไทยเดือนก.พ.60 จะ -4.1%YoY เพราะฐานปีก่อนสูงจากส่งออกทองคำมาก ส่วนมูลค่าส่งออกช่วงพ.ย.59 -ม.ค. 60 ฟื้นตัวดีโดย +8.4%YoY และมีโมเมนตัมบวก เห็นว่าส่งออกไทยปีนี้มีโอกาสเติบโตได้มากกว่า 3%
  - ADVANC : ฝ่ายวิจัยฯ DBSV คาดกำไรงวด 1Q60F จะ -24%YoY, -5%QoQ) เพราะจ่ายค่าเช่า TOT และมีค่าเสื่อมโครงข่ายเพิ่ม การแข่งขันยังสูงแต่รุนแรงน้อยลงจาก 1H59 คาดกำไรปี 60 จะ -7.5% ต่อจากปีก่อนที่ -21.9%
  • จัดพอร์ตบนความสมดุลของ Risk & Return (แบ่งเป็น 3 หมวด : หุ้นปันผล, หุ้นมั่นคง และหุ้นเติบโต) และทำ Re-balancing เป็นระยะหุ้นกลยุทธ์พื้นฐานที่แนะนำวันนี้เป็น TCAP
  การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ภาพตลาดรวมเป็นบวก แนวต้าน 1580-1590 ซื้อใหม่เน้นตามด้วยค่าบวก ค่าลบหรือต่ำกว่า 1555 ควร Wait & See หรือลดพอร์ตตาม
  สำหรับการ SCAN หุ้นที่ราคามีโอกาสทำ New High พบว่าหุ้นที่เข้ามาใหม่ คือ KKP, SCN, ROBINS, BWG ส่วนหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BLA, PTL, IRPC, TISCO, BEM, WINNER หุ้นแนะนำไปแล้วและให้หาจังหวะ Take Profit คือ TOP, ECL, PLAT หุ้นหลุด List –ไม่มี-

ปัจจัยต่างประเทศ & ในประเทศที่สำคัญ
ปัจจัยต่างประเทศ :
• สหรัฐ : รีพับลิกันเสนอร่างกฎหมาย"อเมริกันเฮลธ์แคร์"ที่จะมาใช้แทนโอบามาแคร์วันนี้
  พรรครีพับลิกันจะเสนอร่างกฎหมาย "อเมริกันเฮลธ์แคร์" ซึ่งจะนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายประกันสุขภาพ "โอบามาแคร์" ต่อรัฐสภาในวันนี้ ด้านสำนักงานงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) ออกรายงานเตือนว่า หากร่างกฎหมายอเมริกันเฮลธ์แคร์ถูกนำมาบังคับใช้แทนกฎหมายโอบามาแคร์ จะทำให้ชาวอเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพมีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 24 ล้านคน
• สหรัฐ : จับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเยลเลนพฤหัสนี้
  นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะกล่าวสุนทรพจน์ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งการประชุมจัดขึ้นโดยเฟดสาขาชิคาโก ภายใต้หัวข้อ "Strong Foundations: The Economic Futures of Kids and Communities" เพื่อหาสัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปในปีนี้
  ด้านนายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก กล่าวเมื่อวานนี้ว่าเฟดกำลังดำเนินไปในแนวทางที่ถูกตอ้ งสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ หลังจากที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกของปีนี้เมื่อวันที่ 15 มี.ค.60 ที่ผ่านมา
+ ตลาดหุ้นสหรัฐ : ร่วงกว่า 1% วิตกนโยบายทรัมป์ไม่แน่นอน
  ดัชนี DJIA ปิดที่ 20,668.01 จุด ร่วงลง 237.85 จุด หรือ -1.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,793.83 จุด ลดลง 107.70 จุด หรือ -1.82% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,344.02 จุด ลดลง 29.45 จุด หรือ -1.24% เนื่องจากนักลงทุนกังวลกับมาตรการทรัมป์ที่ยังไม่แน่นอน ซึ่งรวมถึงแผนการลงทุนในโครงการสาธารณูปโภคมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์แผนการปฏิรูประบบประกันสุขภาพ แผนปรับลดอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับชนชั้นกลาง และแผนการปรับลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับภาคธุรกิจที่ยังไม่มีรายละเอียดออกมา
- สัญญาน้ำมันดิบ : ลดลงเพราะกังวสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่สูง
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 88 เซนต์ หรือ 1.8% ปิดที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 66 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 50.96 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีกระแสคาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ก่อน ซึ่ง EIA จะรายงานตัวเลขคืนนี้ (เวลาไทย) ด้านกลุ่มโอเปกก็กำลังพิจารณาว่าจะขยายเวลาปรับลดการผลิตหรือไม่
+ ราคาทองคำ : ปรับขึ้นต่อ
  สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 12.5 ดอลลาร์ หรือ 1.01% ปิดที่ระดับ 1,246.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากตลาดกังวลมาตรการทรัมป์ที่ยังมีความไม่แน่นอน และค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่องหลังประชุมเฟดกลางมี.ค.60 ล่าสุดดัชนี Dollar Index ลงมาที่ 99.77

ปัจจัยในประเทศ :
•/+ ส่งออกเดือนก.พ.ของไทย DBS Bank คาดว่าจะ -4.1%YoY เพราะฐานปีก่อนสูงจากส่งออกทองคำ
  ทาง DBS Bank คาดการณ์ตัวเลขส่งออกเดือนก.พ.60 ของไทยว่าจะ -4.1%YoY เทียบกับ +8.8%YoY ในเดือนม.ค. 60 เนื่องจากฐานมูลค่าส่งออกทองคำที่สูงมากในเดือนก.พ.ปีก่อน แต่ถ้าไม่รวมเดือนก.พ.60 พบว่ามูลค่าส่งออกของไทยช่วงพ.ย.59-ม.ค.60 มีการฟื้นตัวดีขึ้น โดยเติบโตได้ถึง 8.4%YoY และดูมีโมเมนตัมดีพอสมควร สำหรับมูลค่าส่งออกปี 60 คาดว่าจะสามารถกลับมาเติบโตเป็นบวกได้ เพราะราคาโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะปิโตรเลียม และราคาสินค้าเกษตรปรับขึ้น รวมทั้งรายได้ภาคบริการก็เติบโตได้ดี ซึ่งทำให้รายได้สุทธิจากการส่งออกและบริการน่าจะแตะหรือใกล้เคียงระดับ 1 ล้านล้านบาทได้ในปีนี้
+ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ : คาดกำไร 1Q60 มีโอกาสเติบโตจากการตั้งสำรองฯลดลง
  # แม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะยังซบเซา การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนเติบโตอย่างเชื่องช้า แต่ก็มีแนวโน้มดีขึ้น โดยกลุ่มลูกค้ารายใหญ่ของธนาคารพาณิชย์เริ่มขยับลงทุนและกู้ยืมเงินมากขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ด้าน NPL ก็ค่อนข้างเสถียรขึ้น และ Coverage Ratio ที่สูง ทำให้คาดการณ์ว่าธนาคารพาณิชย์หลายแห่งจะตั้งสำรองค่าเผื่อฯเป็นเปอร์เซ็นต์ต่อสินเชื่อลดลง
  # สำหรับธนาคารที่มีกระแสว่าอาจมีข่าวบวกในระยะใกล้ คือ KTB ซึ่งหาก AQ เพิ่มทุนสำเร็จและนำมาชำระคืนหนี้ 1.3 หมื่นล้านบาท โดย AQ จะประชุมผู้ถือหุ้นวันที่ 7 เม.ย.นี้ และ SCB ซึ่งกำลังขายหุ้น SCB Llife ให้กับต่างชาติซึ่งขณะนี้มีผู้สนใจซื้อ คือ AIA, Manulife Prudential และ FWD Group ซึ่งหากขายออกไปได้ SCB จะบันทึกกำไรก้อนโตราว 3.5 หมื่นล้านบาท
  # ส่วนธนาคารที่มี Valuation จูงใจในกลุ่มนี้ คือ TCAP ณ ราคาปัจจุบัน 48.75 บาท ซื้อขายที่ P/E ปี 60F ที่ 8.1 เท่า ต่ำกว่า Median ของกลุ่มที่ 10.1 เท่า และมี P/BV ปีนี้ 1.0 เท่า ต่ำกว่า Median ของกลุ่มที่ 1.3 เท่า ขณะเดียวกันก็ให้ Dividend Yield 4.4% สำหรับปี 60F ดีกว่า Median ของกลุ่มที่ 3.5% ด้วย เราแนะนำซื้อ โดยให้ราคาพื้นฐาน 53 บาท

นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค – [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!