- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 22 March 2017 17:52
- Hits: 2380
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
แนวโน้มตลาดวันนี้ (22/03/60)
ตลาดหุ้นไทยวานนี้ “ไม่มีปัจจัยลบ ยังบวกได้ต่อ”
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นได้ตามตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยปิดบวกได้ที่ 5.24 จุด ปิดที่ 1,568.78 จุด +0.3% Day มูลค่าซื้อขาย 35,685 ล้านบาท โดยตลาดในช่วงนี้ไม่มีปัจจัยลบเข้ามา และหุ้นที่ประคองตลาดไว้ยังคงเป็นหุ้นกลุ่มพลังงาน +0.9% Day โดยเฉพาะ PTT และกลุ่มแบงก์ +0.2% Day นำโดยหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ ประกอบกับ Flow จากต่างชาติเริ่มมีการกลับมาซื้อมากขึ้น โดยซื้อสุทธิในตลาดหุ้นที่ 1,532 ล้านบาท และเปิดสถานะ Long TFEX อีก 12,025 สัญญา รวมถึงมีการกลับเข้ามาซื้อในตลาดตราสารหนี้ราว 1,092 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิเป็นวัน 3 ติดต่อกันอีก 1.5 พันล้านบาท รวมซื้อต่อเนื่องสะสม 3.8 พันล้านบาท
(+) ครม.มีมติเห็นชอบโครงการ SMEs Transformation Loan วงเงินรวม 1.5 หมื่นล้านบาท ปล่อยสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับกลุ่มที่มีปัญหาสภาพคล่องและกลุ่มที่มีแนวโน้มเติบโตเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0
(-) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA -237.85 จุด (-1.14%) อ่อนตัวลงแรง นำโดยสถาบันการเงินที่ถูกขายทำกำไร JPM และ GS
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -1.8% มาอยู่ที่ 47.34 ดอลลาร์/บาร์เรล ท่ามกลางความกังวลต่อตัวเลขสต๊อคน้ำมันดิบของ EIA ที่จะรายงานในวันนี้
(-) ความกังวลต่อการดำเนินนโยบายลดอัตราภาษีของ Trump สร้างแรงขายในสินทรัพย์เสี่ยงและเร่งการขายล็อคกำไรในตลาดหุ้นสหรัฐ
(+/-) ครม.มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ใน ม.ค. 62
(+/-) ครม. มีมติเห็นชอบเสนอตั้งนิคมอุตสาหกรรมเขตพัฒนาเศรษฐกิจสระแก้วมูลค่าโครงการ 1,660 ล้านบาท บนพื้นที่ 660 ไร่
(+/-) ค่าระวางเรือ (BDI) ลดลง 5 จุด(-0.41%) มาอยู่ที่ 1,200 จุด
(+/-) สหราชอณาจักร รายงานดัชนีราคา เดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 2.3% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ 2.1%
(+/-) WHAUP เคาะราคาช่วง IPO 25.25-26.25 บาท เปิดจอง 22-24 มี.ค. โดยผู้ถือหุ้น WHA ได้สิทธิจองซื้อในอัตรา 250 หุ้น WHA : 1 WHAUP
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การพรีวิวงบกลุ่มธนาคารในช่วงปลายเดือน
ติดตามการทำ Window Dressing ช่วงสิ้นไตรมาส 1
การจัดงาน Set in the city ระหว่างวันที่ 23-26 มี.ค.
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ ยอดขายบ้านของสหรัฐ ดุลบัญชีเดินสะพัดยูโรโซนเดือน ม.ค. ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มี.ค. ตัวเลขการส่งออกไทยเดือน ก.พ. และ Speech ของนางเยนเลน วัน พฤ.
กลยุทธ์การลงทุน “รอย่อ เน้นรายตัว”
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มย่อตัวลง จากโมเมนตัมลบของราคาน้ำมันดิบที่ยังคงอ่อนแอ และโมเมนตัมลบจากตลาดต่างประเทศ ที่เริ่มมีแรงขายทำกำไร กลุ่มสถาบันการเงินหลังจากรับรู้ประเด็นบวกของนโยบาย Trump มาก่อนหน้า เรายังคงแนะนำลดพอร์ตในหุ้น Big Cap ทั้งกลุ่ม พลังงาน และกลุ่มธนาคาร โดยแนะนำเก็งกำไรสั้นในหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว เช่นราคาน้ำมันดิบที่อ่อนแอ กลุ่มสายการบิน และกลุ่มที่คาดว่าจะรายงานผลประกอบการ 1Q60 เด่น เรายังคงมอง Catalyst ในตลาดไทยค่อนข้างจำกัด หลังจากที่การลงทุนภาครัฐมีแนวโน้มช้ากว่าการประเมินของตลาด และ GDP Growth มีความเสี่ยงจะถูกปรับลดลง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
AAV เก็งกำไร
คาดช่วงไตรมาส 1Q60 ฟื้นตัวดี QoQ จากลูกค้าจีนกลับมาหลังจากได้รับผลกระทบทัวร์ 0 เหรียญ และปัจจัยในประเทศในช่วง 4Q59ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่อ่อนตัวลง
Hedge ราคาน้ำมันไปราว 70% ลดความเสี่ยงจากตลาดน้ำมันขาขึ้น
EASTW เก็งกำไร
คาดได้รับผลดีจากเร่งผลักดันนโยบาย EEC จากที่รายได้หลักมาจากการขายน้ำในภาคตะวันออก
ระดับน้ำในเขื่อนภาคตะวันออกวานนี้ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน
ตลาดประเมินกำไรสุทธิ ปี 60 เติบโตราว 10%
ทีมวิเคราะห์