- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 March 2017 17:53
- Hits: 2252
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET Index: แนวโน้มขึ้นทดสอบ 1580
SET lndex: 1569.59 ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้แนวต้านที่ 1570 จุด แต่มูลค่าการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้การปรับตัวเพิ่มขึ้นในระยะสั้นน่าจะอยู่ในกรอบจำกัด โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 1580 จุด และมีแนวรับสำคัญที่ 1560 จุด ในขณะที่การปรับตัวเพิ่มขึ้นในรอบนี้ เราคาดว่า น่าจะเป็นการฟื้นตัวไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 จุดไม่เกินระดับ 1590 จุดขึ้นไป เนื่องจากโครงสร้างหลักยังมีความเสี่ยงในการปรับตัวลดลงหลังจากเข้าสู่จุดสูงสุดของ Cycle ไปเมื่อเดือกุมภาพันธ์.
แนวต้าน : 1570 และ 1572
แนวรับ : 1566 และ 1564
BEM = 7.20 / 7.30, PTT = 404 / 408, SCC = 530 / 534, PTTGC = 72.00 / 73.00, AOT = 39.00 / 39.50
Scan Inter (SCN TB; THB 8.00) -ซื้อ
แนวต้าน : 8.25 และ 8.50
แนวรับ : 8.00 และ 7.90
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้น และเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนลบ เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มลงเคลื่อนไหวเหนือแนวโน้มขึ้น RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 50
แนะนำซื้อ SCN โดยมีแนวรับที่ 8.00 และ 7.90 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 8.25 และ 8.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 7.80 ลงไป
Sahamitr Pressure Container (SMPC TB; THB 17.30) -ซื้อ
แนวต้าน : 18.00 และ 18.50
แนวรับ : 17.20 และ 17.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับ 70
แนะนำซื้อ SMPC โดยมีแนวรับที่ 17.20 และ 17.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 18.00 และ 18.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 16.80 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tanavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…ตลาดหุ้น ไทย จะยัง Laggard
หลังดัชนีตลาดหุ้นไทย(MSCI Thailand)ในปี 2016 ขึ้นได้แรงสุดถึงประมาณ 22-23% เปิดขึ้นมาปีนี้ ขึ้นได้เพียง 5.4% ซึ่งถือเป็นอัตราการขึ้นที่ต่ำที่สุดในภูมิภาคจะพบว่าในปีนี้เม็ดเงินต่างชาติเริ่มไหลเข้าตลาดหุ้นเอเชียเหนือ อย่าง เกาหลี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน ส่วนในอาเซียน คือสิงคโปร์ เหตุที่เม็ดเงินไหลเข้าในตลาดเอเชียเหนือ ก็มาจากเป็นกลุ่มเศรษฐกิจที่เปิดกว้างต่อการฟื้นตัวของเศษฐกิจโลกและสหรัฐ นอกจากนั้นตลาดหุ้นเหล่านี้ในปีที่ผ่านมายัง Underperform คาดหากไม่มีสถานการณ์อะไรเปลี่ยนแปลง ตลาดหุ้นเหล่านี้ น่าจะยังเป็นที่รองรับเม็ดเงินรอบใหม่จากต่างประเทศ (ดูรูปด้านซ้าย) ส่วนในตลาดหุ้นไทย คาดจะยังเป็น Laggard ต่อไปจนกว่าจะเห็นสัญญาณในเชิงบวก
สำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมของไทยตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (ดูจากรูปขวา) พบว่ากลุ่มที่ยังขึ้นได้สูงสุด คือ ปิโตรเคมี ธนาคาร วัสดุก่อสร้าง สื่อสาร ชิ้นส่วนรถยนต์ และอสังหาริมทรัพย์ ส่วนกลุ่มที่ลงลึกสุด คือไฟแนนซ์ รองลงมาคือ โรงพยาบาล ค้าปลีก อาหาร-เครื่องดื่ม เกษตรและโรงแรม ดังนั้นกลุ่มที่ลงมาลึกในตอนนี้เริ่มที่จะมีแรงซื้อเข้ามา สภาพที่เกิดขึ้น คือ หุ้นในกลุ่มใหญ่ขยับได้น้อย ยกเว้นธนาคาร ขณะที่หุ้นในกลุ่มที่โตจากภายในส่วนใหญ่ถูกขาย เรายังมองว่าตลาดจะยังอยู่ในความผันผวน
สำหรับการปรับหุ้นเข้าและออกของ FTSE Asia pacific ex Japan ในตลาดหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมา พบว่าจะคล้ายๆกับของดัชนี MSCI คือ หุ้นที่ถูกปรับเข้า-ปรับออก ในหุ้นใหญ่และกลางแทบไม่มี จะมีก็คือ BJC และ IVL ส่วนหุ้นขนาดเล็กที่ถูกปรับเข้าไป คือ TLGF TKN TFG และ BEAUTY แม้จะมีการปรับเข้าใน FTSE Thailand แต่ปริมาณการซื้อขายหุ้นเหล่านี้เบาบางมาก สะท้อนตลาดเล่นไปล่วงหน้าแล้ว ส่วนการปรับหุ้นเข้าและออกของ MSCI ยังต้องรอในเดือน พ.ค.
หลังการรายงานตัวเลขการซื้อขายน้ำมัน(Net Long/Short)ในตลาดล่วงหน้า CFTC พบว่าสถานะในวันที่ 7-14 มี.ค. พวก Hedge fund มีการลดการ Long น้ำมัน (เป็นสัปดาห์ที่ 3) ที่ 84 ล้านบารเรล์และมีการ Short เพิ่มขึ้นที่ 70 ล้านบารเรล์ รวม 153 ล้านบารเรลล์ ภาพตรงนี้ยังมีความเป็นไปได้ว่าราคาน้ำมันในช่วงกลางถึงปลายอาทิตย์นี้น่าจะย่อตัวลงต่อ โดยสัดส่วนสถานะ Long ต่อ Short ลดลงเหลือ 4.4:1 จากเดิมอยู่ที่ 10.3:1 เหตุการณ์ Short เพิ่มขึ้นมาจากมองว่าปริมาณการผลิตน้ำมันในสหรัฐจะยังเพิ่มขึ้น
ทิศทางตลาดหุ้นไทยเปิดขึ้นในวันจันทร์ รีบาวน์ขึ้น แต่ก็เผชิญกับแรงขายทำกำไรระหว่างวัน โดยสภาพตลาด ยังเป็นไปในลักษณะเอาหุ้นใหญ่กลุ่มพลังงาน และสื่อสาร อย่าง PTT ADVANC ยันตลาด แล้วไปเล่นตัวอื่น โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล อาหาร-เครื่องดื่ม ส่วนทิศทางในวันนี้ไปถึงปลายสัปดาห์ คาดตลาดจะเริ่มย่อตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐ หลังนักลงทุนกังวลนโยบายลดภาษี และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาจจะล่าช้าออกไปถึงสิ้นปี การปรับตัวลงของราคาน้ำมันและตลาดหุ้นสหรัฐเริ่มแพงคือเทรดกันที่ค่า P/E 12 เดือนล่วงหน้าที่ 18 เท่าเทียบค่าเฉลี่ย 10 ปีที่ 14 เท่า วันนี้มองแนวต้านที่ 1568-1572 ส่วนแนวรับที่ 1555-1550 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BJC MONO CPALL และ CHG
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary…
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,569.59 จุด เพิ่มขึ้น 6.05 จุด (+0.39%) มูลค่าการซื้อขาย 16,327.40 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบในทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค ด้วยวอลุ่มซื้อขายเบาบาง ตลาดยังรอปัจจัยใหม่มาหนุน ติดตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์
Afternoon Perspective…
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย แกว่งแคบ ระยะสั้นตลาดหุ้นยังคงยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นได้ต่อเนื่อง ซึ่งแสดงว่าสัญญาณการเก็งกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ซึ่งปัจจัยมาจากเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นไทย หลังค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงรอบใหม่ โดยจะมีแนวต้านถัดไปที่1573 จุด และแนวรับ 1555 จุด อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเม็ดเงินที่เข้ามาน่าจะเป็นแค่การเก็งกำไรเล่นรอบ ทำให้หุ้นขนาดใหญ่ชั้นนำไม่น่าจะปรับตัวขึ้นได้มาก กลยุทธ์ ระยะสั้นยังคงเน้นเก็งกำไรรายตัว โดยเฉพาะหุ้นนกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ น่าสนใจ โดยเราชอบ IRpC โดยคาดว่าผลการดำเนินงาน1Q/17 อาจจะไม่ได้แย่เหมือนที่ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เพราะกังวลเรื่องการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน ในทางเทคนิคหากยืน 5.20 บาทได้ต่อเนื่องจะเป็นสัญญาณซื้อ โดยจะมีแนวต้านถัดไปที่ 5.35 และ5.50 บาท แนวรับ 5.10 บาท
Technical Pick (PM) ...
Scan Inter (SCN TB; THB 8.00) - ซื้อ
Sahamitr Pressure Container (SMPC TB; THB 17.30) - ซื้อ
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]