- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 21 March 2017 17:37
- Hits: 2027
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดบวกต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ก่อน นำโดย PTT ประกาศจ่ายปันผลงวด 2H59 มากกว่าคาด และทำให้หุ้นปันผลอื่นๆ อย่าง ADVANC / KTB ขยับขึ้นเด่นเช่นกัน ภายใต้เงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตามเกิดแรงขายในช่วงท้ายตลาด กดให้ SET INDEX ปิดบวกเพียง 2.56 จุด มาอยู่ที่ 1,563.54 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 35,790 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติซื้อสุทธิตลาดหุ้นเป็นวันที่ 2 อีก 736 ล้านบาท แต่ Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 9,606 สัญญา ซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้ 4,053 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ต่างชาติเลือกสะสมหุ้นไทยต่อเนื่อง
- มูลค่าการซื้อขายเบาบาง คาดนักลงทุนสำรองเงินจองหุ้น IPO ราว 3 บริษัทในช่วง 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า
- ติดตามการประชุมครม.วันนี้
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก
ภาพรวมตลาดหุ้นไทยกลับมาเปราะบางอีกครั้ง เมื่อมูลค่าการซื้อขายกลับมาต่ำกว่า 4.0 หมื่นล้านบาท/วัน เพียงแต่ downside risk โดยรวมจำกัด จากผลตอบแทนจากเงินปันผลงวดปี 2559 และ 2H59 ที่จะเริ่มทยอยขึ้นเครื่องหมาย XD จนถึงเดือนหน้า
อย่างไรก็ตาม SET INDEX อาจยังไม่ทะลุผ่าน 1,570 จุด +/- ในช่วงสั้นนี้ได้ เนื่องจากช่วง 1-3 สัปดาห์ข้างหน้ามีการขาย IPO อยู่ 2-3 บริษัท ทำให้นักลงทุนต้องสำรองเงินสดบางส่วนสำหรับการจองซื้อ และน่าจะเป็นเหตุให้มูลค่าการซื้อขายช่วงนี้เบาบางได้เช่นกัน ภายใต้ปัจจัยการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่ขาดความโดดเด่น
ทั้งนี้ติดตามการเคลื่อนไหวของกระแสเงินทุนต่างชาติ หลังทยอยซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทย 2 วันทำการ แม้ว่าจะกลับมา Short สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 9,606 สัญญา จาก 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 30,286 สัญญา เป็นจุดที่น่าสนใจเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน "ถือพอร์ตที่สะสมมาก่อนหน้านี้ และเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงานใน 1Q60 เติบโตเด่น" เป็นทางเลือกในรอบการฟื้นตัวครั้งนี้
Daily Pick
1. สะสม BEM : ราคาปิด 7.35 บาท ราคาเหมาะสม 8.10 บาท
a) MBKET คาดว่าราคาหุ้นจะตอบรับเชิงบวก หากการประชุมครม.วันนี้มีการพิจารณาอนุมัติแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย หรือมีความคืบหน้าในการเจรจาสัญญาณเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเดิมและส่วนต่อขยาย
b) คาดกำไรสุทธิ 1Q60 เติบโต yoy จากการรับรู้รายได้โครงการทางด่วนศรีรีช และค่าจ้างเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ซึ่งเริ่มรับรุ้รายได้ตั้งแต่เดือน ส.ค.2559 ที่ผ่านมา และผลประโยชน์จากการ Refinance ใน 3Q59 จะส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินลดลงได้ราว 20-30% yoy
c) คงมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาว เนื่องจากเป็นผู้เล่นหลักในธุรกิจเดินรถไฟฟ้าซึ่งจะมีเส้นทางเกิดใหม่อีกเป็นจำนวนมากในอนาคต และคาดว่ากำไรจากการดำเนินงานปกติปี 2560 จะเติบโต +33% yoy เป็น 3,468 ล้านบาท ขณะที่ Valuation ซื้อขายที่ PER2560 ระดับ 31.9 เท่า ถูกกว่า BTS ที่ระดับ PER2560 สูงถึง 51.8 เท่า
2. สะสม KTB : ราคาปิด 20.40 บาท ราคาเหมาะสม 21.00 บาท
a) คาดว่า KTB จะมีการประชุมบอร์ดในสัปดาห์นี้ หรือ สัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณาเงินปันผลปี 2559 โดยคาดการณ์หุ้นละ 0.90 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.4% และเชื่อว่ามีโอกาสที่เงินปันผลจะสูงกว่าคาดการณ์ได้เช่นกัน หลัง PTT ที่เป็นรัฐวิสาหกิจเช่นเดียวกับ KTB ประกาศเงินปันผลสูงกว่าคาดการณ์
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ในเดือน เม.ย. คือการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น AQ ในวันที่ 7 เม.ย. หากอนุมัติและเพิ่มทุนได้สำเร็จ คาดว่าจะนำเงินมาชำระเงินกู้บวกดอกเบี้ยให้กับ KTB ราว 1.3 หมื่นล้านบาท และทำให้ KTB มีโอกาสบันทึกรายการดังกล่าวเป็นกำไรพิเศษได้ใน 2Q60
c) Valuation ยังถูก ซื้อขายที่ระดับ PER2560 เพียง 8.5 เท่า และ PBV2560 ที่ 0.97 เท่า
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 6 เหลือเพียง US$42 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$915 ล้าน
เงินทุนสะสม JSE เด่นสุดใน TIP เป็นวันที่ 3
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติสะสมตลาดเงินและตลาดทุนไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 2
นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 อีก 736 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 2,303 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิลดลงเล็กน้อย เป็น 11,139 ล้านบาท
SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Short สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ 9,606 สัญญา เทียบกับ 3 วันทำการก่อนหน้า Long สุทธิ 30,286 สัญญา คาดว่าจะเป็นการกลับมาเปิดสถานะ Short อีกครั้ง ทำให้ QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิขยับขึ้นเป็น 47,827 สัญญา ส่งผลให้ S50H17 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้งกว้างถึง 3.53 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium เท่ากับ 0.46 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เร่งขึ้นเป็น 4,057 ล้านบาท รวม 2 วันทำการซื้อสุทธิ 6,055 ล้านบาท ขณะที่ราคาพันธบัตรไทยฟื้นตัวต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงอีก 1.29bps จากวันก่อนหน้าลดลง 5.22bps ปิดที่ 2.797%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 491 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 558 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 48หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 49 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 เน้นกลุ่ม ICT - ขนส่ง เด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR ซื้อสุทธิอีก 1,046 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ 741 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR เน้นสะสมกลุ่ม ICT เด่นที่สุด 574 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มขนส่ง 317 ล้านบาท และกลุ่มพลังงาน 217 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่มอสังหาฯ สูงสุด 223 ล้านบาท และกลุ่มไฟแนนซ์ 96 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
Republican เปิดเผยร่างกฎหมายด้านสุขภาพ: สส.ของพรรค Republican เตรียมเปิดเผยรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงร่างกฎหมายด้านสุขภาพ และคาดว่าจะได้รับการพิจารณาและอนุมัติภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำเสนอต่อวุฒิสภาในลำดับถัดไป
ประธานเฟดสาขาชิคาโกมองเฟดอาจขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้: ประธานเฟด Evans ประเมินว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปีนี้จะอยู่ที่ 2 ครั้งตามแผนที่วางไว้ เนื่องจากอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำและมีแรงกดดันจากอัตราเงินเฟ้อบางส่วน
ยุโรป
BoE จะกลับมาเน้นการป้องกันผู้ถือกรมธรรน์ประกันชีวิต: BoE เตรียมให้ความชัดเจนกับผู้ถือประกันจะได้รับการป้องกันได้อย่างเหมาะสม
อังกฤษเตรียมส่งเอกสาร Brexit อย่างเป็นทางการปลายเดือนนี้: นายกฯ อังกฤษ เตรียมเขียนเอกสารอย่างเป็นทางการส่งให้อียู วันที่ 29 มี.ค. เพื่อเป็นการประกาศ Brexit อย่างเป็นทางการ และถือเป็นการนับหนึ่งของขั้นตอนการเจรจากับอียูภายใต้กรอบเวลา 2 ปี ทางด้านอียูหลังจากได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการของอังกฤษแล้ว จะเริ่มกำหนดร่างและสรุปกรอบการเจรจาร่วมกับ 27 ประเทศสมาชิกภายในต้นเดือนพ.ค.
จีน
ไม่มี
เอเชียแปซิฟิก
Mobile Operator รายใหญ่ 2 รายในอินเดียตกลงควบรวมกิจการระหว่างกัน: Vodafone Group ในอินเดีย ตกลงกับ Idea Cellular ในการควบรวมกิจการระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้ขนาดของบริษัทใหญ่กว่า AT&T ถึง 1 เท่าตัวในแง่ของฐานลูค้า และกลายเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันที่รุนแรงในอินเดีย
ไทย
ซุปเปอร์บอร์ดเคาะ 5 สายล้มประมูล - ซอยโครงการ: นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ประธานซุปเปอร์บอร์ดจัดซื้อจัดจ้าง กล่าวว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซุปเปอร์บอร์ดได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมรถไฟ เช่น อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้เชี่ยวชาญ ผู้มีส่วนได้เสียในการคัดเลือก และบริษัทที่เคยซื้อซองประกวดราคารถไฟทางคู่ เพื่อสอบถามว่ามีอุปสรรคอะไรบ้าง ในที่สุดสรุปว่าจะใช้ทางเลือกที่ 5 แตกต่างจาก 4 ทางเลือกที่ รฟท.เสนอมา และนัดประชุมร่วมกันในวันที่ 22 มีนาคม ที่กรมบัญชีกลางอีกครั้งหนึ่ง หากการประชุม วันที่ 22 มีนาคม มีความเห็นพ้องก็จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไป โดยยืนยันว่าแนวทาง 5 คือ จะดีกว่าของเดิม ช่วยแก้ปัญหาติดขัดในการแข่งขันและการถูกร้องเรียน โดยจะมีการแตกย่อยโครงการ เช่น สัญญาณ รางรถไฟ งานโยธา จากของเดิมมันจะเป็นโครงการใหญ่มัดรวมกันไว้ แต่ของใหม่จะให้ย่อมมาหน่อย เพื่อแก้โจทย์ที่ผู้ประกอบการขนาดกลางเข้ามาแข่งขันไม่ได้
นายกฯ เตรียมใช้ม.44 แก้ 3 กฎหมายทำธุรกิจในไทยให้เสร็จภายในพ.ค.นี้: เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) กล่าวว่า ได้เสนอแนวทางเร่งรัดกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 5 ฉบับ เพื่อให้ทันต่อการประเมินผลการจัดอันดับความยากง่ายในการทำธุรกิจของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) เดือน พ.ค.นี้ โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว ปี 57 ผลักดันกฎหมาย 3 ฉบับที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว คือ ร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน และร่าง พ.ร.บ.ประกันสังคม โดยให้มีผลบังคับใช้เดือน พ.ค.นี้ ก่อนที่เวิลด์แบงก์จะมาเก็บข้อมูล ทั้งนี้ รองนายกฯสมคิด ต้องการให้อันดับของไทยดีขึ้นมาอยู่ในช่วง 30-39 จากปีก่อนอยู่ที่ 46 ของโลก จึงต้องเร่งรัดให้กฎหมายมีผลในทางปฏิบัติ และเสนอให้ใช้มาตรา 44 เพราะหากใช้วิธีปกติ จะใช้เวลาอีก 3-4 เดือน
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst