- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 March 2017 16:58
- Hits: 35467
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
พักขายทำกำไร
คาดหุ้นไทยวันนี้ขยับลงเล็กน้อย น่าจะมีการขายทำกำไรกันเป็นส่วนใหญ่ หลังจากหุ้นขึ้นแรงเมื่อวาน หุ้นพลังงานกลับมาโดนกดดันอีก โดยราคาน้ำมันร่วงใหม่ จากการที่ปริมาณสำรองน้ำมันดิบสหรัฐยังคงอยู่ที่ระดับใกล้เคียงจุดสูงสุดแม้จะลดลงในสัปดาห์ก่อนหน้า ตลาดหุ้นทั่วโลกมีท่าทียอมรับได้กับการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เมื่อวานนี้ และแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ชัยชนะของนายกรัฐมนตรี Rutte ในการเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์เหนือคู่แข่งนาย Wilders ซึ่งมีแนวนโยบายต่อต้านมุสลิมและสหภาพยุโรป ทำให้ความกลัวว่า EU จะแตกลดลงไป ปัจจัยภายในประเทศวันนี้น่าจะมีผลน้อยต่อตลาดโดยรวม
หุ้นเด่นวันนี้ : WORK (57.25 บ.; NR, ราคาเป้าหมาย IAA 62 บาท)
เราเลือก บมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ เป็นหุ้นเด่นวันนี้เนื่องจากการเติบโตของกำไรที่ดีจากสถานะอันแข็งแกร่งในตลาดทีวี เรามองว่าธุรกิจของ WORK ขยายเร็วที่สุดในกลุ่มและสามารถกินส่วนแบ่งตลาดของผู้เล่นเดิมได้ด้วยเนื้อหารายการที่โดดเด่น เมื่อพิจารณาอันดับ WORK ได้เรตติ้งและส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีสถานะเป็นอันดับสามในรูปของจำนวนผู้ชมซึ่งทำให้บริษัทสามารถตั้งค่าโฆษณาที่สูงโดยเปรียบเทียบได้ บริษัทมีหัวคิดดีที่จะนำรายการที่น่าสนใจมากกว่าเข้ามาฉายในช่อง Workpoint ซึ่งเป็นที่โจษจันกันทั้งประเทศ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนอย่างเช่น รายการ The Mask Singer รายการที่ฉายในช่วงไพรม์ไทม์ของวันพฤหัส ซึ่งเรตติ้งสำหรับรายการนี้สามารถชนะช่อง 3 ที่เป็นเจ้าตลาดไพรม์ไทม์อยู่เดิมได้ ไม่เพียงแต่ผ่านช่องทางทีวีเท่านั้น แต่รายการของ WORK ยังดึงดูดความสนใจจากผู้ชมที่อยู่บน Facebook YouTube หรือสื่อดิจิทัลอื่นๆ เราเชื่อว่าน่าจะหนุนรายได้ค่าโฆษณาได้เป็นอย่างดี WORK ยังคงเพิ่มรายการ ละคร เกมโชว์และรายการวาไรตี้ใหม่ๆ เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมในกลุ่มกว้างมากขึ้น โดยรายการของบริษัทส่วนใหญ่ดึงดูดผู้ชมมากกว่ารายการของคู่แข่ง นอกจากนี้ยังมีโอกาสอีกมากในการขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศเนื่องจากบริษัทต่างประเทศหลายบริษัทให้ความสนใจที่จะซื้อรายการจาก WORK ทั้งการซื้อรูปแบบรายการไปพัฒนาและซื้อรายการสำเร็จรูป จากค่าเฉลี่ย lAA คาดว่ากำไรต่อหุ้นของ WORK น่าจะพุ่งถึง 257% ปีนี้และ 32% ในปี 60 เมื่อดูผิวเผิน WORK ดูแพงเพราะซื้อขายกันที่ PE 45.2 เท่า แต่เมื่อพิจารณา PEG ปี 59 เท่ากับเพียงแค่ 0.18 เท่า Price Pattern ของ WORK มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจาณา Price Pattern ของ WORK คาดว่ามีโอกาสได้เห็นการทำ New High อย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายสำคัญของการทำ New High อยู่ที่ 64.50 บาท ทั้งนี้ WORK มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 55.25 บาท (Resistance: 57.50, 58.0, 58.75; Support: 57.0, 56.50, 55.75)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
รมว.คลังมองผลกระทบจำกัดจากการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลังยังคงมุมมองเชิงบวกไว้แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ก็ตาม เนื่องจากสภาพคล่องในประเทศไทยยังคงล้นเหลือเพียงพอที่จะรับมือกับความผันผวนในตลาดนอกประเทศ นอกจากนี้นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังยังมึมุมมองเชิงบวกในลักษณะเดียวกันเนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยดังกล่าวจะเป็นไปในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป (Bangkok Post)
รัฐบาลเตรียมสรุปแผนแม่บทรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของประเทศในเดือนนี้ โดยสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Bol) จะมีการจัดประชุมหารือขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. โดยมีพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานการประชุม รองนายกฯ สมคิดเผยจะมีการหารือในรายละเอียดสำหรับแผนระยะยาว 5 ปีและ 10 ปี รวมไปถึงแนวทางที่เกี่ยวข้องต่างๆ (Bangkok Post)
คาดส่งออกอาหารเติบโตได้ 8% ปีนี้ ด้วยสัดส่วนผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่มากขึ้น กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศประเมินการส่งออกอาหารของไทยปีนี้ว่าจะขยายตัวได้ 8% เป็น 2.6 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ สนับสนุนจากการเติบโตของความต้องการบริโภคของโลก รวมไปถึงสัดส่วนผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงที่มากขึ้น เช่น เนื้อไก่แปรรูป อาหารทะเลกระป๋อง เป็นต้น (Bangkok Post)
ต่างประเทศ :
รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 จะประชุมร่วมกันที่เยอรมนีในช่วงสุดสัปดาห์นี้ โดยประเด็นหลัก ๆ ที่จะหารือกันรวมถึงนโยบายกีดกันทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ไม่เพียงแต่กลุ่มประเทศ G20 เท่านั้น แต่ lMF และ OECD ต่างมองว่าการปกป้องทางการค้าสร้างความเสียหายให้แก่การค้าโลกและการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก และมีความจำเป็นที่จะต้องรักษาการค้าเสรีและการลงทุนไว้ (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อวันพฤหัส เนื่องจากนักลงทุนมองว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลงมากเกินไปในวันก่อนหน้าหลังจากเฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.134% จาก 3.102% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีซึ่งอ่อนไหวมากที่สุดต่อนโยบายเฟด ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 1.324% จาก 1.316% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์เทียบกับสกุลเงินหลักในวันพฤหัส หลังแถลงการณ์จากเฟดที่ส่งสัญญาณทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ลดลง 0.4% อยู่ที่ระดับ 100.37 โดยร่วงลงถึงระดับ 100.35 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับแต่วันที่ 9 ก.พ. ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเทียบกับเงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.28 เยน ปรับตัวลง 0.1% หลังจากที่ก่อนหน้านี้ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันพฤหัส จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพหลังข้อเสนองบประมาณของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ส่งสัญญาณว่าต้นทุนของภาคอุตสาหกรรมนี้จะสูงขึ้น รวมถึงจะตัดงบประมาณด้านวิจัยทางการแพทย์แม้ว่ายังยากที่จะเป็นจริงก็ตาม หุ้นกลุ่มการเงินปรับตัวดีกว่าตลาดเนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงสหรัฐปรับตัวขึ้นในขณะที่หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลง (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือน หลังจาก Fed ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างไม่เร่งรีบและค่อยเป็นค่อยไปนับจากนี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากที่นายกฯ เนเธอร์แลนด์ Mark Rutte ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งได้ผ่อนคลายความกังวลของนักลงทุนถึงความเป็นเอกภาพในยูโรโซน (Reuters)
นายกฯ Mark Rutte แห่งเนเธอร์แลนด์ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งชนะคู่แข่งสำคัญอย่างนาย Geet Wilders ผู้ที่มีนโยบายชาตินิยม (Reuters)
เอเชีย :
จีนตอบอย่างหนักแน่นเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา กรณีที่ญี่ปุ่นเดือดร้อนในทะเลจีนใต้ หลังจากรายงานแผนการปรับแผนการเรือรบที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นไปยังน่านน้ำที่มีการพิพาท ผู้ให้บริการเฮลิคอปเตอร์ lzumo จะหยุดการบินในสิงคโปร์ อินโดนีเซียฟิลิปปินส์ และศรีลังกา ก่อนที่จะเข้าร่วมการฝึกซ้อมรบร่วมกับเรือรบอินเดียและสหรัฐฯในมหาสมุทรอินเดียในเดือนกรกฎาคม การเดินทางครั้งนี้จะเป็นการแสดงกองกำลังนาวิกโยธินที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นในภูมิภาคตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง (Reuters)
BOJ ยังคงนโยบายการเงินไว้อย่างต่อเนื่อง โดยคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ลบ 0.1% และให้คำมั่นว่าจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ที่ระดับศูนย์และคงโปรแกรมการซื้อพันธบัตรไว้ที่ 80 ล้านล้านเยนต่อปี ผู้ว่าการ BOJ นายคุโรดะเปิดเผยว่า BOJ จะไม่เดินตามรอยของเฟดที่บอกเมื่อไม่นานนี้ว่าญี่ปุ่นยังต้องการการสนับสนุนทางการเงินเป็นจำนวนมากด้วยอัตราเงินเฟ้อที่ห่างไกลจากเป้าหมาย 2% ของธนาคารและความเสี่ยงต่อการเติบโตที่ชะลอลง (Reuters)
PBOC ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในวันพฤหัสบดีเพื่อระงับการไหลออกของเงินทุนและทำให้สกุลเงินหยวนมีเสถียรภาพ หลังจากที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯในชั่วข้ามคืน นับเป็นการขึ้นครั้งที่สามในรอบหลายเดือน อัตราการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซื้อคืน สำหรับเทอมอายุ 7, 14 และ 28 วัน พุ่งขึ้นเป็นครั้งที่สองในรอบ 6 สัปดาห์โดย 7 วันเป็นขึ้นเป็น 2.45% (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันลดลงวานนี้ เนื่องจากแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงถูกบดบังโดยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ยังคงอยู่ใกล้จุดสูงสุด และปัจจัยนี้ทำให้นักลงทุนกังวลว่า มาตรการปรับลดปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) อาจจะไม่สามารถบรรเทาภาวะน้ำมันล้นตลาดโลกได้ ราคาน้ำมันดิบ Brent ลดลง 7 เซนต์อยู่ที่ 51.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยราคาดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าราคาที่จุดสูงสุดเมื่อเดือน ม.ค. ที่ 58.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลประมาณ 7 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐลดลง 11 เซนต์อยู่ที่ 48.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ยังอยู่เหนือกว่าระดับราคาต่ำสุดในรอบ 3 เดือน (Reuters)
สต็อกน้ำมันสหรัฐยังอยู่ในระดับสูง หน่วยงาน ElA สหรัฐกล่าวเมื่อวันพุธว่า ปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐลดลงเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกหลังจากปรับขึ้นกว่า 9 สัปดาห์ อย่างไรก็ตาม สต็อกดังกล่าวปรับตัวลงเพียง 237,000 บาร์เรล นอกจากนี้ ElA ได้รายงานสต็อก Cushing กระโดดขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้นเมื่อวันพุธหลังจากถูกกดดันโดยรายงานปริมาณน้ำมันดิบสหรัฐจนทำให้ราคาน้ำมันเข้าสู่จุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ข้อมูลล่าสุดจาก Genscape แสดงปริมาณน้ำมันที่ Cushing อยู่ที่มากกว่า 2 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์สิ้นสุด 14 มี.ค. (Reuters)
ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดีปรับตัวสูงขึ้นเป็นวันที่สอง และทำระดับสูงสุดในรอบกว่าสัปดาห์หลังจากที่ค่าเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ เป็นผลจากการที่ Fed ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างไม่เร่งรีบและค่อยเป็นค่อยไปนับจากนี้ โดยราคาทองคำตลาดจรปรับตัวสูงขึ้น 0.7% มาอยู่ที่ 1,227.43 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ ซึ่งในระหว่างวันได้สูงขึ้นถึงระดับ 1,233.13 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่วันที่ 6 มี.ค. ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าส่งมอบเดือนเม.ย. ปรับตัวสูงขึ้น 2.2% มาอยู่ที่ 1,227.10 ดอลลาร์ฯ ต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094