- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 March 2017 16:48
- Hits: 6101
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
บวกต่อ ความมั่นใจของตลาดสูงขึ้นแล้ว
KGI คาด SET วันศุกร์ขึ้นต่อ แม้ต่างชาติยังไม่กลับตัว แต่เม็ดเงินในประเทศยังหนุน (วานนี้ดัชนีฯ ฟื้นตัวแรงจากปัจจัยภายนอกที่ชัดเจน ตามคาด) เราประเมินว่าฟันด์โฟลว์จะใช้เวลาอีกพักหนึ่งกว่าจะกลับมาซื้อหุ้นไทย (ช่วงนี้ต่างชาติยังเน้นเข้าตลาดหุ้นเอเชียเหนือ ซึ่งเชื่อมโยงเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยตรง) แต่คาดว่าแรงขายของต่างชาติจะลดลงเป็นลำดับ ด้านแรงซื้อภายในประเทศยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนดัชนีฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหุ้นตัวหลักซึงมีน้ำหนักชี้นำดัชนีฯ ค่อนข้างสูง ประกอบกับในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้า เราประเมินไม่มีข่าวลบเข้าสู่ตลาด ภาพ SET จึงน่าจะเป็นแกว่งตัวขึ้น ด้านปัจจัยเศรษฐกิจ วานนี้ผู้บริหาร ธปท. ให้สัมภาษณ์ผ่านสื้อ ว่านโยบายดอกเบี้ยของไทยปัจจุบันยังเหมาะสมกับภาวะในประเทศ แม้เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย (นักเศรษฐศาสตร์ KGI คาด กนง. คงดอกเบี้ยที่ 1.50% ตลอดปีนี้)
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรหุ้น BBL*, TMT / ซื้อหุ้นปันผล GLOW*
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) 1) แนะนำ “Follow buy” หลัง Break ผ่านแนวต้าน 183 บาทได้ ประเมินแนวต้านถัดไปที่ ±190 บาท แนวรับ 182.5 บาท กำหนดจุดขายถ้าต่ำกว่า 180.5 บาท 2) เรายังคงประเมินจะหุ้นธนาคารพาณิชย์ จะได้รับ Sentiment เชิงบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น (อย่างไรก็ดีฝ่ายวิจัยฯ ประเมิน กนง จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5%) 3) ประเมิน Valuation น่าสนใจด้วย PBV 0.93 เท่า PE 2560 = 9.7 เท่า 4) รอการปลดล๊อกข้อจำกัดการถือหุ้นต่างด้าว (Foreign limit) จากปัจจุบัน 25%
TMT (เป้าพื้นฐาน 20 บาท) 1) ราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว หลังสร้างฐานได้ บริเวณ ±15 บาท คาดมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน 16.7 บาท และถัดไป 18 บาท แนวรับ ±15.5 บาท (Stop loss 15 บาท) 2) ฝ่ายวิจัยฯยังคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มจากประเด็นการลดกำลังการผลิตที่จีน + ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นตามราคาถ่านหิน + ดีมานด์เหล็กในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุนภาครัฐฯ 3) ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรปีนี้ 600 ล้านบาท (EPS 1.38 บาท/หุ้น) และคาดปันผลปีนี้ 1.0 บาท/หุ้น (Dividend yield 6.4%) ... เป็นประมาณการฯแบบอนุรักษ์นิยม
GLOW* (เป้าพื้นฐาน 88 บาท) 1) ประเมินแนวรับ 79.5 บาท และ 78.5 บาท / แนวต้าน 80.75 บาท และ 82 บาท (Stop loss 76.5 บาท) 2) คาดผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจะเด่นใน 2Q60 ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อน (การใช้ไฟพีคในไตรมาสนี้) 3) เป็นหุ้นโรงไฟฟ้าที่ปันผลสูง 4.292 บาท/หุ้น (Dividend yield 5.4%) ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 2 พ.ค.นี้ (ขณะที่ EGCO* และ RATCH* ขึ้นเครื่องหมาย XD แล้ว)
หุ้นในกระแส
หุ้นรับฤดูร้อน เราประเมินผลการดำเนินงานของหุ้นในกลุ่มเหล่านี้จะได้อานิสงส์จากฤดูร้อนใน 2Q60
i) เครื่องดื่ม (SAPPE, TACC, ICHI, CBG) และขวดน้ำดื่ม (SITHAI): แนะนำ “เก็งกำไร” TACC แนวรับ 8.35 บาท / แนวต้าน 8.8 – 9.25 บาท และ SITHAI แนวรับ 1.96 บาท / แนวต้าน 2.0 – 2.18 บาท
ii) ผลิตพัดลม แอร์ (KOOL, SNC): เลือก KOOL เป็นหุ้นเด่น แนวรับ 6.6 บาท/แนวต้าน 8.2 บาท
iii) สินเชื่อเช่าซื้อ แอร์ (SINGER, TSR): แนะนำ “เก็งกำไร” ทั้ง SINGER แนวรับ 12.5 บาท / แนวต้าน 14.4 บาท และ TSR แนวรับ 4.7 บาท / แนวต้าน 5.0 – 5.25 บาท
iv) ร้านสะดวกซื้อ (CPALL*): แนะนำ “สะสม” แนวรับ 58 บาท / แนวต้าน 59.5 – 61.25 บาท
หุ้นมีข่าว
(0) THAI* ยังไม่ได้มีการอนุมัติแผนการจัดตั้ง “THAI Group” ในการประชุมบอร์ดครั้งล่าสุด เนื่องจากยังต้องทำความเข้าใจอย่างลึกซึ่ง (บางกอกโพสต์) เราเชื่อว่า การจัดตั้ง “THAI Group” จะเกิดขึ้นในที่สุด เพื่อเชื่อมโยงการบริหารจัดการสายการบินที่มีความแตกต่างทั้ง 3 แบบในกลุ่มให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ที่ดี หลังจากการพลิกฟื้นผลการดำเนินงานของ THAI ประสบความสำเร็จมาระดับหนึ่งในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เรายังคงแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมาย 19.09 บาท
(+ COM7*, JMART*, SYNEX) คาดคอมมาร์ตเงินสะพัด 2.8 พันล.โน้ตบุ๊กคอมเล่นเกมยังเป็นพระเอก (มติชน) นายพรชัย จันทรศุภแสง ผู้อำนวยการธุรกิจสื่อไอทีและดิจิทัล บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในระหว่าง วันที่ 16-19 มีนาคม ได้จัดงาน "คอมมาร์ต คอนเนค 2017" ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยในงานนี้จะมีการโชว์เทคโนโลยีที่อัจฉริยะ ตอบโจทย์ด้านการทำงาน เล่นเกม และบันเทิง จากแบรนด์ไอทีชั้นนำ ที่ส่งตรงเทคโนโลยีทันสมัยมาจากงาน CES (Consumer Electronics Show 2017) ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าและนวัตกรรมไอทีระดับโลกที่สหรัฐอเมริกา พร้อมเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ที่น่าสนใจ อาทิ โน้ตบุ๊ก Lenovo และ ASUS เป็นต้น และได้จัดโซนพิเศษสินค้าลดราคาล้างสต๊อกด้วย คาดว่าตลอด 4 วัน จะมีเงินสะพัดประมาณ 2,800 ล้านบาท มีผู้เข้าชมงานประมาณ 800,000 คน
(+) CENTEL* ยันปีนี้โตต่อ (โพสต์ทูเดย์) CENTEL มองปีนี้โตกว่าปีก่อน ตั้งงบลงทุน 3,000 ล้าน สนใจซื้อเคเอฟซีจากยัม เรสเทอรองตส์ นายรณชิต มหัทธนะพฤทธิ์ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการเงินและ บริหาร บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา (CENTEL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 2560 จะเติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 4,419 ล้านบาท ซึ่งโตตามจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน เริ่มเห็นดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เริ่มฟื้นตัวในเดือน มี.ค. หลังจาก 2 เดือนแรกยังอยู่ในภาวะที่อ่อนตัว
(+) จับตา DCC เข้าบริหาร RCI อนาคตมีผลประโยชน์ร่วม (ทันหุ้น) DCC รุกคืบเข้ารับจ้างบริหารจัดการธุรกิจให้กับ RCI พร้อมส่งผู้บริหารร่วม "รุ่งโรจน์ แสงศาสตรา" ผู้บริหาร DCC ชี้การร่วมมือครั้งนี้เกิดประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย ประหยัดขนาดธุรกิจ-สร้างมูลค่าเพิ่ม-ขยายตลาดครอบคลุม งานนี้ RCI ส่อแววแกร่ง ล้างขาดทุนสะสมได้ภายใน 2 ปี ฟากโบรกชี้ DCC มีแววซื้อหุ้น RCI เข้าพอร์ต
(+) ASIAN ปั๊มรายได้ทะลุหมื่นล. รุกการตลาดขยายฐานลูกค้า (ทันหุ้น) ASIAN ปักหมุดรายได้ปี 2560 ทะลุ 1 หมื่นล้านบาท เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% หลังรุกทำการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้า และพัฒนาผลิตภัณฑ์ รองรับออเดอร์ล็อตใหญ่ จับตาธุรกิจอาหารแช่แข็งปีนี้บูม ยอดส่งออกกุ้งเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ฟากโบรกแนะสะสมเข้าพอร์ตหลังราคายังต่ำกว่าบุ๊กแวลู
(+) FPI-ECF ดันบ.ลูกเข้าตลาดหุ้นจ่อบุ๊กกำไรขายไฟฟ้า 7.5 MW (ทันหุ้น) FPI ผนึกกำลัง ECF ดันบริษัทร่วมทุน "เซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์" เข้าตลาดหุ้นปลายปีหน้า ส่งซิกเตรียมบุ๊กกำไรขายไฟฟ้า 7.5 เมกะวัตต์ Q2/60 นี้ แย้มสนใจซื้อโรงไฟฟ้าไบโอแมส 2-3 โรง แถมซุ่มศึกษาลงทุนพลังงานอื่น เชื่อหนุนผลงานโตเด่น
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
COM7* (เป้า Consensus 14.6 บาท) สำหรับนักเก็งกำไรสั้น วานนี้ราคาปิดยืนเหนือ 11 บาทได้ แนะนำ “Follow buy” ประเมินราคาหุ้นจะพ้นแนวโน้มขาลงได้เมื่อยืนเหนือแนวราคา 11.6 บาท ขึ้นไป ซึ่งเป็นแนวต้านเทรนไลน์ขาลง (Stop loss 10.0 บาท) ... PE ปี 2560 ตอนนี้ต่ำเพียง 23 เท่า และ PEG <1 เท่า ถูกสุดในกลุ่มค้าปลีก
PTTGC* (เป้าพื้นฐาน 83 บาท) วานนี้ยังไม่สามารถยืนแนวราคา 74 บาทได้ แนะนำซื้อแนวรับ ±72 บาท ประเมินยังเป็นการแกว่งตัวในกรอบ Uptrend line channel 72 – 77 บาท (Stop loss 72 บาท) ... Upside จากราคาเป้าหมายปัจจุบันอีกราว 5 บาท จากการเข้าซื้อธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม PTT* เพิ่มเติม (คาดแล้วเสร็จใน 2H60 ซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการฯปัจจุบัน)
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 32.5 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งตัวขึ้นในกรอบ Uptrend line channel 26.5 – 31.5 บาท สำหรับนักเก็งกำไรสั้น หากราคาดีดพ้น 28.5 บาทได้ แนะนำ “Follow buy” ... ฝ่ายวิจัยฯประเมินแนวโน้มกำไร 1Q60 โต ฝ่ายวิจัยฯประเมินยังเติบโต QoQ เป็นระดับ 1 พันล้านบาท (+12% QoQ) จากราคายางมะตอยที่เริ่มขยับขึ้นปลายปี เริ่มส่งผลบวกต่ออัตรากำไรใน 1Q60
ASIAN (ยังไม่มีเป้าหมาย Consensus) แนะนำ “ถือ” หากดีดพ้นแนวต้าน 5.2 บาทได้ แนะนำ “Follow buy” แต่ถ้าต่ำกว่า 5 บาท แนะนำ “Stop loss” … ค่าเงินบาทอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ + Valuation ไม่แพงด้วย Trailing PE 11.7 เท่า และยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 6.1 บาท (ตอนนี้ PBV 0.82 เท่า) และจ่ายปันผล 0.21 บาท/หุ้น Yield 4.2% (XD วันที่ 25 เม.ย.)
CPN* (เป้าพื้นฐาน 77 บาท) ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 58.25 บาท และ 59.25 บาท / แนวรับ 56.5 บาท (Stop loss 53.75 บาท)
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) แนะนำ “ถือ” หากดีดพ้นแนวต้าน 2.0 บาทได้ แนะนำ “Follow buy” แต่ถ้าต่ำกว่า 1.96 บาท แนะนำ “Stop loss” ... ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดในปีก่อน Earnings momentum เริ่มเข้าสู่ขาขึ้นแบบ QoQ อย่างน้อย 2 ไตรมาสติด
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) พิจารณาแนวราคา 63 บาท หากผ่านได้ แนะนำ “Follow buy” ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 65 บาท แต่หากไม่ผ่านแนะนำ “ขายทำกำไร”
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 19.5 – 20.8 บาท
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
FN แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 10 บาท คาดเตรียมเปิดสาขาใหม่ที่หาดใหญ่ ใน 2Q60 และอีกแห่งใน 4Q60 จากแผนการเปิดสาขาใหม่รวมสองแห่งในปีนี้ หนุนให้ผลการดำเนินงานปีนี้ขยายตัว 43.5% YoY เป็น 210 ล้านบาทจาก 146 ล้านบาทในปี 2559
KSL แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 6.60 บาท ฝ่ายวิจัยฯปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” โดยประเมิน Earnings momentum เป็นขาขึ้นในทุกไตรมาสของปี 2559/60 (ปิดงบ ต.ค.)
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- นัยเส้นแนวโน้มที่ต้าน 1558 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นปิดเหนือนัยต้าน 1558 จุดได้นั้น อาจสะสมกำลังผลักขึ้นสู่ต้าน 1582 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงหรือปิดต่ำกว่านัยต้าน 1558 จุดนั้น อาจทรงราคาลงในกรอบ 1558 – 1544 จุด
แนวรับวันนี้: 1550/1545 แนวต้านวันนี้: 1558/1571
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]