- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 17 March 2017 16:45
- Hits: 1992
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้ฟื้นตัวสอดคล้องกับภูมิภาคเอเชีย หลังเฟดคงมุมมองการขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป ทำให้หุ้น Big Cap ฟื้นตัวเด่น นำโดยกลุ่มพลังงาน /ปิโตรเคมี ขณะที่หุ้น GL ยังคงผันผวน ต่อเนื่อง ปิด ณ สิ้นวันที่ 1,557.05 จุด บวก 16.25 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายมากถึง 56,118 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 1,325 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันที่ 2 มากถึง 18,698 สัญญา และซื้อสุทธิตลาดตราสารหนี้อีกครั้ง 1,021 ล้านบาท
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- BoJ / BoE คงนโยบายการเงินตามคาด
- Trump เสนองบประมาณ มุ่งเน้นความปลอดภัยของประเทศ
- การปรับดัชนี FTSE ณ ราคาปิดวันนี้
ปัจจัยสำคัญสัปดาห์หน้า
- ความคืบหน้า Brexit หลังออกกฎหมายอย่างเป็นทางการแล้ว
- ติดตามการประชุมครม.อาจพิจารณาและอนุมัติโครงการรถไฟรางคู่ และรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย
- การประชุมโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกวันที่ 26 มี.ค.
- ติดตามถ้อยแถลงของประธานเฟดวันที่ 23 มี.ค.
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลางถึงบวก (วันที่ 3)
วันนี้ติดตามผลการประชุมบอร์ดของ GL เพราะจะมีผลต่อการเคลื่อนไหวราคาหุ้นดังกล่าว และหุ้นขนาดกลางและเล็กในภาพรวม อีกทั้งวันนี้เป็นการซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์ โอกาสเกิดแรงขายทำกำไรในภาพรวม ทำให้เราประเมินว่า SET INDEX แกว่งแคบลงระหว่าง 1,550-1,565 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่น 5.5-6.0 หมื่นล้านบาท/วัน
อย่างไรก็ตาม Downside risk ของ SET INDEX จำกัด ด้วยกลุ่มพลังงาน/ปิโตรเคมี เพราะเชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ NYMEX จะฟื้นตัวต่อเนื่องสู่ด่าน US$53-55/barrel หากผลการประชุมโอเปกและนอกกลุ่มในสัปดาห์หน้า ส่งสัญญาณเดินหน้าลดกำลังการผลิตต่อเนื่องใน 2H60 รวมถึงไนจีเลียและลิเบียจะกลับมาลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงปลายปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ติดตามการเคลื่อนไหวของเงินทุนต่างชาติ หลังนักลงทุนกลุ่มนี้เริ่มปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures เร่งขึ้น วานนี้ Long สุทธิมากถึง 18,698 สัญญา หากเร่งปิดสถานะต่อเนื่อง จะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยจำกัด Downside และยืนยันรอบการฟื้นตัว
กลยุทธ์การลงทุน "ถือพอร์ตที่สะสมมาก่อนหน้านี้ และเก็งกำไรหุ้นรายตัวที่ผลการดำเนินงานใน 1Q60 เติบโตเด่น" เป็นทางเลือกในรอบการฟื้นตัวครั้งนี้
Daily Pick
1. สะสม SCB : ราคาปิด 157.00 บาท ราคาเหมาะสม 169.00 บาท
a) จะขึ้น XD เงินปันผล 2H59 หุ้นละ 4.00 บาท ในวันที่ 24 เม.ย. คิดเป็น Dividend Yield 2.5%
b) มีปัจจัยบวกรออยู่ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการขายหุ้น SCB LIFE ให้กับพันธมิตรต่างชาติ ในเดือน เม.ย. โดยมีผู้สนใจเสนอซื้อได้แก่ AIA, Manulife, Prudential และ FWD Group และประเมินเบื้องต้นคาดว่าจะมีกำไรพิเศษสูงถึง 3.5 หมื่นล้านบาท หรือ ราว 10 บาทต่อหุ้น
c) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +19% yoy เป็น 5.6 หมื่นล้านบาท จากสินเชื่อที่กลับมาขยายตัวในทิศทางเดียวกับการเติบโตของเศรษฐกิจ ขณะที่คุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้น จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องการกันสำรองให้ลดลงในปี 2560 โดยมี Coverage Ratio สิ้นปี 2559 ที่ 134.3% เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่ 109.8%
2. เก็งกำไร BANPU : ราคาปิด 19.50 บาท ราคาเหมาะสม 22.20 บาท
a) MBKET คาดว่ากำไรสุทธิ 1Q60 จะเติบโตเด่น yoy และ qoq เนื่องจากเป็นไตรมาสแรกที่จะเห็นบวกเต็มที่จากราคาถ่านหินที่ไต่ระดับขึ้นตั้งแต่ปลาย 3Q59 ที่ผ่านมา ส่งให้ราคาขายเฉลี่ยเติบโตสูง yoy และเพิ่มขึ้น qoq
b) คงมุมมองเชิงบวกต่อราคาถ่านหินในปี 2560 ที่คาดว่าจะมีทิศทางไต่ระดับขึ้น หลังจีนแสดงจุดยืนชัดเจนในการควบคุมปริมาณ Supply ถ่านหินในประเทศ เพื่อที่จะรักษาระดับราคาถ่านหินให้อยู่ในช่วง US$73-83 / ตัน
c) คาดผลประกอบการปี 2560 เติบโตสูงถึง +309% yoy เป็น 9,116 ล้านบาท เนื่องจากจะได้ประโยชน์เต็มที่จากราคาถ่านหินเฉลี่ยในปี 2560 ที่เพิ่มขึ้น ราว 10-15% yoy เป็น US$75.00/ตัน และได้ทำสัญญาซื้อขายถ่านหินของอินโดนีเซียในปี 2560 ไปแล้ว 61% จึงเชื่อว่ามี Downside Risk ของประมาณการกำไรค่อนข้างจำกัด
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 4 เพียง US$816 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$32 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเร่งปิดสถานะ Short ใน SET50 Index Futures อย่างโดดเด่น
แม้ว่านักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 3 อีก 1,325 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 5,774 ล้านบาท ทำให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิขยับขึ้นเป็น 13,442 ล้านบาท
แต่ SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้ยังคง Long สุทธิเป็นวันที่ 2 มากถึง 18,698 สัญญา รวม 2 วันทำการ Long สุทธิ 18,763 สัญญา คาดว่าจะเป็นการเร่งปิดสถานะ Short กดดัน QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเป็น 49,744 สัญญา เมื่อ S50H17 กลับมาปิดต่ำกว่า SET50 Index อีกครั้งเพียง 0.10 จุด จากวันก่อนหน้าปิด Premium เท่ากับ 1.69 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกครั้ง 1,021 ล้านบาท เมื่อราคาพันธบัตรไทยดีดตัวขึ้นเด่นเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี ลดลงมากถึง 5.22bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 1.91bps ปิดที่ 2.803%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 651 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 393 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 54หลักทรัพย์ จากวันก่อนหน้า 51 หลักทรัพย์
NVDR Movement
NVDR ขายสุทธิวันที่ 2 เลือกลดน้ำหนักในกลุ่มพลังงาน/ อสังหาฯ เด่น
การซื้อขายผ่าน NVDR คงการขายสุทธิ 516 ล้านบาท จากวันก่อนหน้าขายสุทธิ 536 ล้านบาท รวม 3 วันทำการขายสุทธิ 1,697 ล้านบาท NVDR ลดน้ำหนักกลุ่มพลังงานสูงสุด 501 ล้านบาท ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาฯ 340 ล้านบาท และกลุ่มปิโตรเคมี 291 ล้านบาท แต่สะสมกลุ่ม ICT สูงสุด 969 ล้านบาท และกลุ่มไฟแนนซ์ 107 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
Trump เสนอร่างงบประมาณสำหรับปี 2560/61 แล้ว: ประธานาธิบดี Trump เตรียมเสนอให้สภาคองเกรสปรับลดค่าใช้จ่ายในหลายส่วนสำหรับงบประมาณปี 2560/61 ที่จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.นี้ โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมที่ถูกลดงบประมาณมากที่สุด 31% และยกเลิกเงินช่วยเหลือองค์กรอิสระ 19 แห่ง รวมถึงโครงการเงินช่วยเหลือเครื่องทำความร้อนในบ้าน, โครงการน้ำสะอาด และการอบรมแรงงานเป็นต้น แต่จะเพิ่มเงินในการป้องกันประเทศ สร้างกำแพงระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซิโก การบังคับใช้กฎหมาย และโรงเรียนทางเลือก ภาพรวมไม่ได้เป็นการเพิ่มการขาดดุลงบประมาณ
รัฐบาลมีแผนแปรรูปธุรกิจการควบคุมการจราจรทางอากาศ: ประธานาธิบดี Trump อยู่ระหว่างการเสนอที่จะให้หน่วยควบคุมการจราจาทางอากาศของสหรัฐฯ แยกเป็นหน่วยงานอิสระออกจากรัฐบาล พร้อมเสนอลดงบประมาณ 13% ในปี 2560/61 เป็น US$1.62 หมื่นล้าน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในระบบ ความรวดเร็ว และการปรับปรุงเทคโนโลยีให้มีต้นทุนที่ต่ำลง
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
- ยอดก่อสร้างบ้านเดือนก.พ. เท่ากับ 1.288 ล้านหลัง ใกล้เคียงกับ Bloomberg consensus คาด 1.270 ล้านหลัง แต่ดีกว่าเดือนก่อนหน้าที่ 1.251 ล้านหลัง โดยยอดก่อสร้างบ้านเดี่ยวเพิ่มขึ้น 6.5% mom
- ยอดขอสวัสดิการว่างงาน เท่ากับ 2.41 แสนตำแหน่ง ใกล้เคียงกับ Bloomberg consensus คาด 2.40 แสนตำแหน่ง แต่ลดลงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้าเล็กน้อยที่ 2.43 แสนตำแหน่ง
ยุโรป
ผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของเนเธอร์แลนด์: พรรค VVD ของนายกฯ Rutte จะครองเสียงข้างมากในสภาเป็นครั้งที่ 3 ด้วยจำนวนที่นั่ง 33 จากทั้งหมด 150 ที่นั่ง ส่วนคู่แข่ง Wilder ที่ชูนโยบาย Anti-Islam ได้ราว 20 ที่นั่ง และพรรค Christian Democratic Appeal และ Centrist Democrats 66 ได้ 19 และ Socialist Party ได้ 14 ที่นั่ง
BoE คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด: ผลการประชุม BoE คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25% ตามที่ตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม มีกรรมการ 1 ท่านที่โหวตให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.50% คือนาย Forbs ซึ่งจะครบวาระในเดือนมิ.ย. ถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2559 ที่มติไม่เป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้การเติบโตทางเศรษฐกิจยังมีความเสี่ยงในตลาดแรงงาน และมีสัญญาณที่รายได้ของครัวเรือนจะเติบโตคงที่ ส่งผลต่อการใช้จ่ายเช่นกัน
พระราชินีอังกฤษอนุมัติกฎหมาย Brexit อย่างเป็นทางการแล้ว: พระราชินี Elizabeth ได้อนุมัติให้นายกฯ Theresa May มีอำนาจเต็มในการเจรจากับอียู เพื่อขอออกจากการเป็นสมาชิกในกลุ่มดังกล่าว หลังสภาได้ผ่านร่างกฎหมายมาตรา 50 แห่งกรุงลิสบอนไปในวันที่ 6 มี.ค.ที่ผ่านมา
อัตราการว่างงานในกรีซแตะระดับ 23.6% ใน 4Q59: จากระดับ 22.6% ใน 3Q59 ทั้งนี้ 71.8% ของผู้ตกงานรวม 1.12 ล้านคนเป็นผู้ไม่มีงานทำระยะยาว หรือไม่มีงานทำมาไม่น้อยกว่า 12 เดือน ส่วนผู้ว่างงานในกลุ่มอายุ 15-24 ปี ว่างงานสูงถึง 45.2% ใน 4Q59 จาก 48.6% ใน 4Q58
จีน
จีนและซาอุฯ อาจตกลงในดีลธุรกิจร่วมกัน US$6.5 หมื่นล้าน: ระหว่างการเยือนของกษัตริย์ของซาอุฯ Salman ที่กรุงปักกิ่งของจีน อาจมีการเจรจาถึงดีลทางการค้า / การลงทุนระหว่างกัน ด้านซาอุฯ ต้องการโปรโมทการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขายหุ้นในรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ Saudi Aramco รวมถึงการขายน้ำมันดิบให้แก่จีนมากขึ้น
ธนาคารกลางจีนขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นครั้งที่ 3: ในรอบหลายเดือน ขึ้นอัตราดอกเบี้ย Medium-Term Lending Facility (MLF) อีก 10bps เป็น 3.05 - 3.20% ทั้งนี้ธนาคารกลางได้ปล่อยสินเชื่อผ่านโปรแกรม MLF สำหรับ 6 เดือนเท่ากับ 1.135 แสนล้านหยวน อายุ 1.0 ปี 1.895 แสนล้านหยวน ผ่านสถาบันการเงิน 17 แห่ง
ธนาคารกลางจีนขยับอัตราแลกเปลี่ยนกลางขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน: อัตราแลกเปลี่ยนกลางที่ 6.8862 หยวน/ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงเปิดตลาดเงินวันที่ 16 มี.ค. ขึ้น 2.53bps หรือ 0.37% dod เป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน
เอเชียแปซิฟิก
BoJ คงอัตราดอกเบี้ยตามคาด: BoJ คงนโยบายการเงินตามที่ตลาดคาดการณ์ อัตราดอกเบี้ยระยะสั้น -0.1% และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีใกล้เคียง 0.0% ภายใต้วงเงินการเพิ่มปริมาณเงิน 80 ล้านล้านเยน/ปี ทั้งนี้ภาพรวมเศรษฐกิจญี่ปุ่นฟื้นตัวปานกลาง แต่ยังมีความระมัดระวังต่อการเติบโต ทำให้ BoJ ยังคงเดินหน้าใช้นโยบายการเงินทีผ่อนคลายต่อไป เพื่อให้บรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2.0% ซึ่ง ณ ปัจจุบันยังห่างไกลอยู่มาก
ซาอุฯ ยืนยันการลดกำลังการผลินน้ำมันตามแผน: รมว.พลังงานของซาอุฯ ยืนยันว่าแผนการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกและนอกกลุ่มโอเปกที่ตกลงกันไว้นั้น ตามแผน โดยซาอุฯ วางแผนลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน ภายใน 1H60 พร้อมยืนยันการผลิตน้ำมันโดยรวมใน 4M60 ซาอุฯ ลดกำลังการผลิตมากกว่าข้อตกลง และยืนยันที่สมาชิกอื่นๆ ในโอเปกจะดำเนินการตามข้อตกลงเช่นกัน
ไทย
ธปท.ยืนยันไทยไม่มีความเสี่ยงติดกับดักเงินเฟ้อต่ำ: นายเมธี สุภาพงษ์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงข้อเสนอแนะของเจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่ระบุว่ามีความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะติดกับดักภาวะเงินเฟ้อต่ำและเสนอให้ ธปท.ผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมนั้น ธปท.มองว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายเดือนธ.ค. 2559 และมีแนวโน้มปรับสูงขึ้น อีกทั้งอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ระยะปานกลางอยู่ระดับใกล้เคียงกับค่ากลางของกรอบเป้าหมาย ธปท. คือร้อยละ 2 จึงยังไม่เห็นความเสี่ยงที่ประเทศไทยจะติดกับดักภาวะเงินเฟ้อต่ำ โดยสะท้อนจากเศรษฐกิจที่กำลังอยู่ในระยะฟื้นตัว ราคาน้ำมันในตลาดโลกและผลตอบแทนตราสารหนี้ที่ปรับสูงขึ้น ดังนั้น ธปท.มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.50% ยังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายและเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst