- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 March 2017 16:36
- Hits: 2094
บล.ซีไอเอ็มบี : Thailand Trading Picks(PM)
SET lndex: รอสัญญาณซื้อถ้าทะลุผ่าน 1560 ขึ้นไป
SET lndex: 1554.89 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1555 จุด หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับที่ 1530 จุดแล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นไปได้ ในขณะที่มูลค่าการซื้อขายเพิ่มสูงขึ้น โดยที่โครงสร้างแนวโน้มขาลงในระยะสั้นของ SET Index มีแนวต้านสำคัญที่ 1555 จุด ถ้าสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่าน 1560 จุดขึ้นไปได้ แนวโน้มในระยะสั้นจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1580 จุด แต่ถ้ามีแรงขายออกมาต่อเนื่องที่บริเวณ 1550-1555 จุด จะมีแนวรับที่ 1530 จุด
แนวต้าน : 1555 และ 1560
แนวรับ : 1550 และ 1545
GL = 15.50 / 17.00, ADVANC = 174 / 176, PTT = 394 / 397, TRUE = 6.25 / 6.40, KBANK = 191 / 193
Asia Aviation (AAV TB; THB 6.20) - ซื้อ
แนวต้าน : 6.40 และ 6.55 / แนวต้านสำคัญ 6.75
แนวรับ : 6.20 และ 6.10
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณฟื้นตัวทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากเคลื่อนไหวออกด้านข้างเพื่อสร้างฐานเหนือแนวรับของกรอบแนวโน้มขาขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้แนวโน้มหลักยังมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยในแดนบวก เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นทะลุผ่านระดับ 50
แนะนำซื้อ AAV โดยมีแนวรับที่ 6.20 และ 6.10 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 6.40 และ 6.55 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 6.00 ลงไป
Sappe (SAPPE TB; THB 29.25) - ซื้อ
แนวต้าน : 31.00 และ 31.50
แนวรับ : 29.25 และ 29.00
ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเกิดสัญญาณซื้อทางเทคนิค พร้อมด้วยปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แล้วสามารถฟื้นตัวกลับขึ้นไปได้
MACD ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเข้าใกล้ระดับ 0 เครื่องมือทางเทคนิคชี้วัดแนวโน้มขึ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือแนวโน้มลง RSI ปรับตัวเพิ่มขึ้นเข้าใกล้ระดับ 60
แนะนำซื้อ SAPPE โดยมีแนวรับที่ 29.25 และ 29.00 เพื่อคาดหวังการปรับตัวเพิ่มขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 31.00 และ 31.50 เป็นจุดขายทำกำไร
STOP LOSS ถ้าราคาหุ้นปิดต่ำกว่า 27.00 ลงไป
Analysts :
Teerasak Tamavarakul +662 657-9231 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Investment Strategy(AM)
SET…หุ้นที่ลงลึกตั้งแต่ YTD และ MTD
หุ้นที่ปรับตัวลงลึกนับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน (YTD) และตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค. ถึงปัจจุบัน (MTD) ยังคงกระจุกอยู่ในกลุ่มผู้ผลิตอาหาร-เครื่องดื่มและรับเหมา โดยหุ้นในกลุ่มเครื่องดื่ม แรงขายที่เกิดขึ้นมาจาก ราคาหุ้นขึ้นไปสูงในปีที่ผ่านมา ขณะที่ผลการดำเนินงาน Q4/16 ออกมาไม่ดีอย่างคาดรวมทั้งบางบริษัทที่ไปลงทุนในต่างประเทศ ประสบกับปัญหายังตีตลาดไม่ได้ ส่วนในกลุ่มผู้ผลิตอาหาร ยังมีแรงกดดันจากการคาดการณ์ผลการดำเนินงานในปีนี้ที่คาดว่าจะชะลอตัวลง เทียบปีที่ผ่านมา กลุ่มรับเหมา ก็ไม่ต่างกัน คือ ราคาหุ้นยังขยับตัวขึ้นไม่ได้ จากความล่าช้าของแผนการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและงบ Q4/16
รูปด้านซ้าย เราแสดงราคาหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มหลักๆ หากมองการเปลี่ยนแปลงของ Total return ในกลุ่มเหล่านี้ในช่วง 1, 3และ 5 ปีที่ผ่านมาพบว่า ราคาหุ้นต่างปรับตัวขึ้นสูงมากๆ แต่พอขึ้นมาในปี 2017 ถึงปัจจุบันและต้นเดือน มี.ค. ถึงปัจจุบัน เกิดมีแรงขายทำกำไรหุ้นเหล่านี้ออกมารับงบ Q4/16 ในกลุ่มนี้จะพบว่าตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน หุ้น CBG MALEE BJC CPF ต่างปรับตัวลงไป -30.1% -27.8% -7.9%และ -4.5% เฉพาะเดือน มี.ค. ถึงปัจจุบัน หุ้นที่ยังเผชิญแรงขายหนักๆ คือ MALEE และ CBG ที่ –19% และ -17% ตามลำดับ
ส่วนในกลุ่มรับเหมาที่ยังปรับตัวลงลึกตั้งแต่ต้นปีและเฉพาะเดือน มี.ค. ถึงปัจจุบัน คือ CK (-12.9%) STEC (-11.3%) และ UNIQ (-6.4%) ดังนั้นหลังราคาหุ้นในกลุ่มเริ่มปรับตัวลงมารับข่าวความล่าช้าของการลงทุนและงบ Q4/16 เรามองว่าประเด็นที่จะกดดันราคาหุ้นหลังจากนี้ น่าจะเริ่มคลายตัวลง ขณะที่รัฐบาลได้ออกมายืนยันว่า งบลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานอย่างรถไฟฟ้า จะเริ่มประมูลได้ในครึ่งปีหลัง ตรงนี้น่าจะทำให้sentiment ของกลุ่มดีขึ้น ส่วนในกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ก็ไม่ต่างกัน หลังราคาหุ้นลงมาในระดับที่น่าจะสอดรับกับพื้นฐานและยังไม่เห็นปัจจัยกดดันใหม่ๆ ในทางกลับกัน ค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง น่าจะเป็นปัจจัยหนุน
หุ้นใน 2 กลุ่มที่กล่าวมา หากมามองอัตราการทำกำไรในปีนี้ โดยเฉพาะอาหารและเครื่องดื่ม คาดจะเริ่มทรงตัว แม้จะชะลอตัวจากปีที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่ายังสูง ส่วนรับเหมา จะค่อยดีขึ้นและดีมากๆในปีหน้า กลยุทธ์การลงทุนใน 2 กลุ่มนี้แม้ความเสี่ยงในเรื่องพื้นฐาน ราคาหุ้นรับข่าวไปมากแล้ว แต่ราคาหุ้นคงยังขึ้นได้ไม่มาก หลังภาพตลาดรวมยังไม่ดี ซึ่งยังต้องรอดู งบ Q1/17 ค่าเงินบาท และความคืบหน้าของการลงทุนในภาครัฐส่วนกลยุทธ์ เล่นสั้น คาดยังพอได้ในบางตัว
ทิศทางดัชนี SET หลังการปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐและผลการเลือกตั้งในเนเธอร์แลนด์ คาดยังไม่ไปไหน คือขึ้นๆลงๆ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ เนื่องจากตลาดยังขาดปัจจัยหนุนภายในและยังเผชิญกับแรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ค่อยๆ มีแรงกดดันลดลงและราคาหุ้นลงไปลึก ยังคงเป็นกลุ่มที่กล่าวมาข้างต้น วันนี้มองแนวต้านที่ 1546-1550 และแนวรับ 1535-1530 จุด แนะนำ ซื้อเก็งกำไร IRPC HMPRO MALEE CK
Analysts :
Kiatkong Decho +662 657-9236 [email protected]
บล.ซีไอเอ็มบี : Trend Spotter(PM)
Morning Market Summary...
SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,554.89 จุด เพิ่มขึ้น 14.09 จุด (+0.91%) มูลค่าการซื้อขาย 28,869.70 ล้านบาท หุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศ หลังเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐฯ บ้านเราเช้านี้มีแรงซื้อหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มธนาคาร สื่อสาร และพลังงาน
Afternoon Perspective...
แนวโน้มตลาดช่วงบ่าย ถ้าปิดเกิน 1555 จุด จะถือว่าตลาดทำสัญญาณกลับตัวที่แข็งแรง และมีโอกาสที่ SET จะปรับตัวขึ้นต่อ โดยจะมีแนวต้านถัดไปที่1565 จุด แต่หากปิดต่ากว่า 1550 จุด จะถือว่าการดีดตัวในวันนี้เป็นแค่เทคนิเคลรีบาวน์ตลาดมีโอกาสที่จะถูกขายทำกำไรตามออกมาได้หลังจากนี้ โดยประเด็นหลักที่ต้องจับตาดูต่อคือทิศทางของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ หากอ่อนค่าลงต่อจะเป็นสัญญาณบวกตลาดหุ้นมีโอกาสแกว่งตัวขึ้นต่อ แต่หากเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นรอบใหม่ ตลาดก็น่าจะถูกขายทำกำไรออกมา
Technical Pick (PM) & Cash Balance...
Asia Aviation (AAV TB; THB 6.20) - ซื้อ
SaPPe (SAPPE TB; THB 29.25) - ซื้อ
Cash Balance Preview : คาดหลักทรัพย์ที่มีโอกาสจะติด Cash Balance สัปดาห์หน้า : EE, RCI (กรณีหุ้นแม่ติด ฯ Warrant ทุกตัวของหุ้นนั้นจะติดตามด้วย)
Analysts :
Teerawut Kanniphakul +66(2) 657 9233 - [email protected]/ [email protected]