- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 16 March 2017 16:30
- Hits: 1463
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
หลังเลือกหุ้นซื้อแล้ว แนะนำให้เน้นถือเพื่อรอรอบบวกไว้ก่อนได้
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET ยังแกว่งผันผวนและมีจังหวะอ่อนตัว หลังวันก่อนหน้าขยับขึ้นพอควร โดยคาดว่านักลงทุนบางส่วนยังรอติดตามผลประชุมเฟดในช่วงค่ำ เพราะถึงแม้ว่าจะคาดการณ์อยู่แล้วว่าเฟดคงจะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยค่อนข้างแน่นอน แต่ก็อยากรอดูถ้อยแถลงของประธานเฟดหลังประชุม ว่าจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยในครั้งถัดๆ ไปในปีนี้อย่างไร แต่กรอบลบยังจำกัด และมีแรงซื้อช่วงลบพยุงตลาดให้เห็นอยู่
แนวโน้มตลาดวันนี้ : บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้สดใสขึ้น หลังที่ประชุมเฟดขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามคาด ขณะที่ถ้อยแถลงของประธานเฟดแสดงถึงสัญญาณว่าจะยังไม่มีการเร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงถัดไป โดยภายในปีนี้น่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยอีกเพียง 2 ครั้งตามคาด นอกจากนี้หุ้นกลุ่มพลังงานยังได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ขยับบวกขึ้นกว่า 2% จากตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐรายสัปดาห์ที่ลดลง สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เปิดเป็นบวก ซึ่งแม้ว่ากรอบบวกจะไม่หวือหวานัก แต่ FSS คาดว่าจะช่วยกระตุ้นแรงซื้อให้ SET ยังทรงตัวได้ดีต่อเนื่อง และมีลุ้นโอกาสรีบาวด์บวกได้ด้วยตามคาดเดิม
กลยุทธ์ : FSS คาดว่า SET ยังลุ้นแกว่งทรงตัว เพื่อสร้างฐานรอรอบขึ้นครั้งใหม่ตามคาด โดยเราประเมินระดับดัชนีตามพื้นฐานปีนี้ไว้ที่ 1650 จุด ดังนั้นหลังจากเลือกหุ้นซื้อไปแล้ว แนะนำให้เน้นถือเพื่อรอรอบบวก
แนวรับ 1538-1535 , 1532-1528 จุด
แนวต้าน 1543-1546 , 1548-1552 จุด
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BEAUTY, SEAOIL, BH(buy back)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$32ล้าน นำโดยเกาหลีใต้ US$91ล้าน และอินโดนีเซีย US$17ล้าน ขณะที่ไหลออกจากประเทศไทย US$70ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาค หลัง Fed ได้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่ตลาดคาดและส่งสัญญาณการปรับขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้ มีผลกระทบต่อ Earnings Yield Gap ให้มีความน่าสนใจลดลง
ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
(+) ผลประชุมเฟดเป็นบวกกับสินทรัพย์เสี่ยง Fed ขึ้นดอกเบี้ยตามตลาดคาด 0.25% เป็น 0.75-1% ส่งสัญญาณขึ้นอีก 2 ครั้งในปีนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นแรงกว่า 100 จุด (กลุ่ม Finance ถูกขายทำกำไร กลุ่มพลังงานปรับขึ้น) เพราะนอกจากจะตามคาดแล้ว แถลงการณ์ของ Fed ยังมองเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้น ราคาสินทรัพย์ต่างๆจึงปรับสวนทางจากก่อนหน้าการประชุมเฟด ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า Bond yield ปรับลง ทองคำปรับขึ้น น้ำมันปรับขึ้น (หนุนอีกทางหนึ่งด้วยปริมาณดิบคงคลังของสหรัฐลด)
(+) ความกังวลเรื่อง Nexit หายไป ผลการนับคะแนนเบื้องต้น นายมาร์ค รุตเต นายกฯคนปัจจุบัน หัวหน้าพรรค People’s Party for Freedom and Democracy (VVD) ชนะเลือกตั้ง (ชนะพรรคขวาจัด) ทำให้ความกังวลเรื่อง Nexit หายไป
(0) SVI ผู้บริหารตั้งเป้ายอดขายโดดเด่น US$380-400 ล้านในปีนี้ หลังหมดปัญหาในสายการผลิตและเคลียร์คำสั่งซื้อเก่าที่มาร์จิ้นต่ำหมดแล้ว เร่งหาลูกค้าใหม่และเพิ่มสินค้าใหม่ๆ เราเชื่อว่าเป็นไปได้ยาก เพราะโรงงาน Siedel ที่ยุโรปยังไม่สดใส ต้องปรับกลยุทธ์และสายการผลิต และน่าจะตั้งด้อยค่าความนิยมของ Seidel อีกปีในปีนี้และยังมีค่าใช้จ่ายของโรงงานใหม่ที่กัมพูชา เราจึงคงประมาณการเดิมที่คาดกำไร +48.5% Y-Y คงราคาเป้าหมาย 6 บาท แนะนำเพียงถือ
(+) SWC ได้รับอนุมัติให้วางขายสินค้ากลุ่มทำความสะอาดเครื่องใช้สำหรับเด็ก (TEEPOL Baby) ในเซ็นทรัล จากเดิมที่ได้วางในท็อปส์ เริ่มจำหน่าย เม.ย. นี้ ส่วนยอดขายสินค้ากำจัดแมลงในออสเตรเลียเพิ่มขึ้นโดดเด่นจาก 10% ของรายได้รวมในปีก่อนเป็น 15% SWC ได้อานิสงส์จากเงินบาทแข็งค่าและราคาน้ำมันลดลง เราคาดกำไรปีนี้ +38% Y-Y ปัจจุบันมี PE เพียง 10 เท่า ยังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 14.70 บาท คาดจ่ายปันผล 0.25 บาท/หุ้นงวด 2H16 (yield 2.1%)
(+) K ได้งานตกแต่งภายในเพิ่มอีกกว่า 80 ล้านบาทจากเซ็นทรัลภูเก็ตและโรงแรม Rosewood ทำให้งานในมือเพิ่มเป็น 845 ล้านบาท คิดเป็น 63% ของประมาณการรายได้ปีนี้ที่ 1,348 ล้านบาท (+14% Y-Y) การได้งานของกลุ่มเซ็นทรัลและโรงแรมเป็นครั้งแรก แม้อัตรากำไรขั้นต้นจะต่ำกว่างานที่ทำอยู่ แต่เป็นโอกาสได้งานต่อเนื่องในอนาคต กำไร 1Q17 อาจไม่ตืนเต้น และคาดกำไรทั้งปี +5% Y-Y แต่มีโอกาสปรับขึ้น ปัจจุบัน PE 18 เท่าต่ำสุดตั้งแต่เข้าตลาดฯ แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.30 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
16 มี.ค. - ญี่ปุ่น: BOJประชุม
- สหรัฐ: การพิจารณาเพดานการก่อหนี้สาธารณะ,Housing starts & Building permits (ก.พ.)
- ยูโรโซน: อัตราเงินเฟ้อ (ก.พ.)
17 มี.ค. - ประชุมติดตามผลการลดการผลิตน้ำมันของผู้ผลิตในและนอก OPEC
22 มี.ค. - ฟิลิปปินส์:ธนาคารกลาง (BSP)ประชุม
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านเก่า (ก.พ.)
23 มี.ค. - ไทย:ยอดขายรถ (ก.พ.)
- สหรัฐ: ยอดขายบ้านใหม่ (ก.พ.)
24 มี.ค. - สหรัฐ:คำสั่งซื้อสินค้าคงทน (ก.พ.)
- ยูโรโซน:Markit Eurozone Composite PMI (มี.ค.)
27 มี.ค. - ไทย:ดุลการค้า (ก.พ.)
28 มี.ค. - เกาหลีใต้: 4Q16 GDP
29-มี.ค. - ไทย:กนง.ประชุม (ตลาดคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.5%)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อคืนที่ผ่านมาปิดบวกได้ค่อนข้างดีหลังราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น รวมถึง FED ที่ขึ้นดอกเบี้ยตามคาดและมีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ
(+) ด้านตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนปิดในแดนลบบวกได้เช่นกันหนุนโดยการพุ่งขึ้นของกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามกรอบการบวกถือว่าไม่กว้างนักเนื่องจากตลาดปิดทำการก่อนที่จะทราบผลการประชุม FED
(+) ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่เคลื่อนไหวในแดนบวกได้เช่นกันจากบรรยากาศการลงทุนที่สดใสมากขึ้นภายหลังการประชุม FED เสร็จสิ้น
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดเคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.10 บาท/ดอลลาร์
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 48.86 ดอลลาร์/บาร์เรล หลัง EIA รายงานว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐฯลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งสวนทางกับที่ตลาดคาดว่าจะเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 1.90 ดอลลาร์/ออนซ์ มาอยู่ที่ 1,200.70 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุม FED ซึ่งออกมาหลังจากที่ตลาดปิดทำการไปแล้ว ก่อนที่เช้านี้จะปรับบวกได้ค่อนข้างดี
Contact person : Somchai Anektaweepon
Register : 002265 Tel: 02-646-9967, 02-646-9852
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research, IG: finansiasyrusresearch