- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 13 March 2017 16:56
- Hits: 1797
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
Fed ใกล้ขึ้นดอกเบี้ยเต็มที่
คาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบจำกัดวันนี้ จากความกังวลเงินทุนไหลออกจากบรรดาตลาดเกิดใหม่กลับมาหลังจากตัวเลขการว่าจ้างแรงงานนอกภาคเกษตรสหรัฐออกมาแข็งแกร่งมากตอกย้ำการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในการประชุมวันพุธนี้กว่า 90% นอกจากนี้เริ่มมีผู้บริหาร ECB พูดเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยก่อนหยุด QE ปลายปีนี้ แม้เรื่องนี้ยังคงห่างไกลแต่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในทันที และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยุโรปเริ่มขยับสูงขึ้น ปัจจัยภายในประเทศเป็นบวกวันนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ.สูงสุดในรอบ 14 เดือน รถไฟรางคู่มูลค่า 9.6 หมื่นล้านบาท น่าจะเริ่มสร้างได้ภายใน 6-7 เดือน หลังจากคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจจะคัดเลือกเงื่อนไขสัญญาที่เหมาะสมในเดือนนี้
หุ้นเด่นวันนี้: PTTGC (ราคาปิด 72.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมาย AWS 80.00 บาท)
บมจ. พีทีที โกลบอล เคมิคอล เป็นหุ้นเด่นในวันนี้จากโมเมนตัมการเติบโตของกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งปีนี้ต่อเนื่องจากงวด 4Q59 ที่เพิ่งรายงานออกมา นอกจากนี้ราคาหุ้นปัจจุบันยังให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลในระดับที่น่าสนใจ โดยกำไรสุทธิงวด 4Q59 ทำระดับสูงสุดของปี 59 อย่างแข็งแกร่งอยู่ที่ 9.7 พันลบ. (+57% QoQ, +108% YoY) เนื่องจากไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงานที่ฉุดผลการดำเนินงานลงเช่นในสามไตรมาสก่อนหน้า ส่งผลให้บริษัทฯ สามารถเดินเครื่องโรงงงานหลักๆ ได้อย่างเต็มกำลังการผลิต เราคาดจะเห็นกำไรสุทธิปีนี้แข็งแกร่งกว่าปีที่แล้วภายใต้การเดินเครื่องอย่างไม่สะดุดตลอดทั้งปี นอกจากนี้เราเพิ่งปรับประมาณการกำไรสุทธิปี 2560-61 ขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนการผลิตที่ปรับปรุงดีขึ้นที่เห็นในงวด 4Q59 ปัจจัยของอุตสาหกรรมยังเป็นแรงหนุนต่อผลประกอบการด้วยส่วนหนึ่ง โดยเฉพาะในสายโอเลฟินสที่กำลังอยู่ในวงจรขาขึ้น การเข้าซื้อกิจการล่าสุดของ PTTGC ในบริษัทที่ดำเนินธุรกิจสายเคมีภัณฑ์ของกลุ่ม PTT ที่เหลือทั้งหมดจาก PTT จะนำไปสู่การผนึกกำลังและการรวมธุรกิจในกลุ่มเคมีภัณฑ์ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นในการดำเนินงานมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนการเข้าซื้อถือว่าถูกโดยเปรียบเทียบ โดยรวมเราคาดจะเห็นกำไรสุทธิปีนี้และปีหน้าเติบโตต่อเนื่อง 13% YoY และ 5% YoY ตามลำดับ แม้จะไม่มีการบันทึกกำไรจำนวนมากจากผลของสต็อกเช่นที่เกิดขึ้นในปีที่แล้วก็ตาม (ปี 2559 มีการรับรู้กำไรจากผลของสต็อกราว 4.9 พันลบ.) นอกเหนือจากแนวโน้มกำไรสุทธิที่คาดว่าจะดีขึ้นแล้ว ราคาหุ้นในปัจจุบันยังให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่น่าสนใจอยู่ที่ราว 5.0% ต่อปี ในส่วนของ Price Pattern ของ PTTGC มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มหลักที่เป็นแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิดทั้ง Daily, Weekly, & Monthly Buy Signal โดยเมื่อพิจารณา Price Pattern ของ PTTGC มีเป้าหมายหลักอยู่ที่ 73 บาท ซึ่งหาก PTTGC มีความแข็งแกร่งที่มากพอ โดยสามารถ Break ด้วยการปิดตลาดเหนือ 73 บาทได้ จะทำให้ Price Pattern ของ PTTGC บ่งบอกถึงการทำ New High โดยมีเป้าหมายแรกเพื่อทดสอบ High เดิมที่ 80.75 บาท และมีเป้าหมายแรกของการทำ New High อยู่ที่ 90.25 บาท ทั้งนี้ PTTGC มีจุด Stop Loss ระยะสั้นอยู่ที่ 71 บาท (แนวต้าน: 72.75, 73.25, 73.75; แนวรับ 72.00, 71.50, 71.00)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ:
- ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.พ. สูงสุดในรอบ 14 เดือน โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในเดือน ก.พ. 60 อยู่ที่ 75.8 จาก 74.5 ในเดือน ม.ค. ก่อนหน้า และนับเป็นการสูงขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากภาคการส่งออกที่ฟื้นตัวและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้น (Bangkok Post)
- Superboard เตรียมเลือกร่างขอบเขตงาน (TOR) สำหรับโครงการรถไฟรางคู่ที่มีความล่าช้า ในวันที่ 20 มี.ค. นี้ โดยมี 4 ทางเลือก หนึ่งในนั้นคือการคงร่าง TOR เดิมไว้ ขณะที่อีก 3 แนวทางเป็นการปรับเปลี่ยนร่างเดิม ซึ่งจะใช้เวลาราว 4 เดือนครึ่งในการแก้ไขเปลี่ยนแปลง หรือ 6-7 เดือนหากรวมกระบวนการเปิดประมูลด้วย (Bangkok Post)
- เสนอขาย IPO ของไทยฟิวเจอร์ฟันด์ให้นักลงทุนรายย่อยก่อน สำนักงานเศรษฐกิจการคลังจะใช้วิธีการจัดสรรให้ผู้จองซื้อหน่วยลงทุนจำนวนน้อยก่อน หมายความว่ารายย่อยจะได้สิทธิซื้อหน่วยลงทุนของไทยฟิวเจอร์ฟันด์ขณะที่เหลือจะจัดสรรให้แก่นักลงทุนสถาบัน เพื่อเพิ่มโอกาสให้รายย่อยสามารถลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานได้ อย่างไรก็ดี สศค. จะจะจำกัดการซื้อไว้ที่ 1 ล้านบาทต่อราย (Bangkok Post)
- กสทช. ให้ทีโอทีเดินหน้าแผน 4G ได้ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่ากำลังจะอนุมัติให้ บมจ.ทีโอทีเดินหน้าการให้บริการ 4G ร่วมกับพันธมิตรได้ หลัง กสทช. ได้ข้อสรุปทางกฎหมายเกี่ยวกับ ม. 46 ของ พ.ร.บ. จัดสรรคลื่นความถี่ ครอบคลุมการร่วมทุนในโครงการโทรคมนาคม (Bangkok Post)ความเห็น: น่าจะทำให้จำนวนคลื่นถูกจัดสรรไปยังผู้ให้บริการมือถือเร็วขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อค่ายมือถือโดยเฉพาะ DTAC (39.75 บาท, ขาย, ราคาเป้าหมาย 31 บาท) ซึ่งต้องการคลื่นมากที่สุด
ต่างประเทศ:
- อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอ้างอิงปรับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบ 12 สัปดาห์เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรหลังการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรสูงกว่าตัวเลขประมาณการ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปิดที่ระดับ 2.578% ลดลง 2 bps จากเมื่อวันพฤหัส โดยในช่วงแรกของวันศุกร์ได้ปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 2.624% ซึ่งเป็นระดับเดียวกับที่เห็นครั้งล่าสุดเมื่อกลางเดือนธ.ค. ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปี ซึ่งมีความอ่อนไหวมากที่สุดต่อความเห็นของเทรดเดอร์เกี่ยวกับนโยบายเฟด ปรับตัวลงเกือบ 1 bps ที่ระดับ 1.364% โดยในช่วงแรกของวันศุกร์ได้ปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ 1.388% เมื่อวันศุกร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนส.ค. 2552 (Reuters)
- เงินยูโรแข็งค่าสูงสุดในรอบกว่า 4 สัปดาห์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อวันศุกร์ หลังจากมีรายงานว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้หารือถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตร เงินยูโรแข็งค่ากว่า 1.1% เทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0698 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับแข็งแกร่งที่สุดนับแต่วันที่ 9 ก.พ. และเป็นการแข็งค่ามากที่สุดในรอบวันนับแต่วันที่ 3 มิ.ย. 59 ซึ่งหนุนให้ค่าเงินยูโรแข็งค่าติดต่อกัน 2 สัปดาห์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ร่วงลงต่ำสุดนับแต่วันที่ 28 ก.พ. (Reuters)
สหรัฐ:
- ดัชนีตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ หลังรายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐและหนุนความคาดหวังมากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมระหว่างวันที่ 14-15 มี.ค. นี้ หุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลปรับตัวลงหลังพรรครีพับลิกันหนุนโดยประธานาธิบดีทรัมป์เผยร่างกฎหมายด้านสุขภาพฉบับใหม่ ซึ่งจะนำมาใช้แทนกฎหมายโอบามาแคร์ได้ผ่านอุปสรรคขั้นแรกในสภาคองเกรส (Reuters)
- การจ้างงานสหรัฐอยู่ในทิศทางแข็งแกร่งในเดือนก.พ. โดยตัวเลขสูงกว่าที่คาด และตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 235,000 ตำแหน่งเนื่องจากภาคก่อสร้างปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 10 ปี ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ประมาณการว่าการจ้างงานในเดือนก.พ. จะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง ทางการได้ปรับเพิ่มตัวเลขการจ้างงานในเดือนม.ค. เป็นเพิ่มขึ้น 238,000 ตำแหน่งจากก่อนหน้านี้ที่รายงานว่าเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่ง รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงเพิ่มขึ้น 6 เซนต์ (+0.2%) ในขณะที่การเติบโตของอัตรารายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงในเดือนม.ค. มีการปรับตัวเลขเป็นเพิ่มขึ้น 0.2% จากเดิมที่เพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งทำให้รายได้ต่อชั่วโมงในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นเป็น 2.8% YoY จากเดิมที่ 2.6% ส่วนอัตราการว่างงานลดลงเล็กน้อยสู่ระดับ 4.7% (Reuters)
ยุโรป:
- ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันศุกร์ปรับตัวลดลง หลังจากผู้กำหนดนโยบายทางการเงินของ ECB ได้หารือถึงความเป็นได้ที่จะขึ้นดอกเบี้ยนโยบายและลดการผ่อนคลายทางการเงินลง ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคซึ่งเป็นหุ้นปันผลปรับตัวลดลงเนื่องจากจะมีความน่าสนใจในผลตอบแทนเงินปันผลลดลง นอกจากนี้ยังกระทบถึงหุ้นกลุ่มส่งออกที่เงินยูโรจะกลับมาแข็งค่า อย่างไรก็ตามประเด็นดังกล่าวถือเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มธนาคาร (Reuters)
เอเชีย:
- BOJ มีแนวโน้มคงนโยบายในการประชุมวันที่ 15 มีนาคมในสัปดาห์นี้ โดยรอให้มีหลักฐานการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น BOJ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะสั้นที่ติดลบ 0.1% และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีอยู่ที่ระดับ 0% คาดว่าจะยังคงรักษาอัตราการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นต่อไปโดยมีการถือครองหุ้นเพิ่มขึ้นเป็นประจาทุกปีที่ประมาณ 8 หมื่นล้านเยน (694.81 พันล้านเหรียญสหรัฐ) (Reuters)
- สำนักงานพยากรณ์อากาศของญี่ปุ่นเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่ามีโอกาส 40% ที่สภาพอากาศ El Nino จะเกิดขึ้นระหว่างช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน แต่มีโอกาสสูงที่จะไม่มี El Nino หรือ La Nina คาดว่าจะเกิดปรากฏการณ์นี้ หรือปรากฎการณ์ตรงข้ามกับ El Nino อาจเกิดขึ้นก่อนเดือนสิงหาคม (Reuters)
- ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นมากกว่า 6% โดยระบุว่าอัตราการว่างงานใน 31 เมืองใหญ่ ๆ อยู่ที่ประมาณ 5% ในช่วงสองเดือนนี้ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ (NDRC) (Reuters)
- ภาระหนี้ภาคบริษัทเอกชนของจีนสูงมาก ตามที่ PBOC กล่าว ขณะที่จีนมีความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของของหนี้และตลาดที่อยู่อาศัย โดยหนี้ภาคบริษัทเอกชนของจีนสูงถึง 169% ของ GDP ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศกล่าวไว้ (Reuters)
- ผู้ให้บริการสายการบินได้ตัดบางเส้นทางระหว่างจีนและเกาหลีใต้ ออกจากการเจรจาต่อรองเกี่ยวกับแผนการของเกาหลีใต้ที่จะใช้ระบบป้องกันขีปนาวุธของสหรัฐฯ โดยไม่คำนึงถึงการคัดค้านของจีน (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์:
- น้ำมันดิบลบต่อวันศุกร์ กดราคาลงไปสู่จุดต่ำสุดในรอบสามเดือน เพราะนักลงทุนยังกังวลว่าผู้ผลิตน้ำมันร่วมมือกันลดกำลังผลิตยังไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำมันล้นตลาด น้ำมันดิบสหรัฐลบ 79 เซนต์ (-1.6%) ปิด 48.49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้ำมันดิบ Brent ล่วงหน้าส่งมอบ พ.ค. ลบ 82 เซนต์ (-1.6%) ปิด 51.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล (Reuters)
- ราคาทองคำฟื้นตัววันศุกร์ ลบมากสุดรอบ 5 สัปดาห์ หลังดอลลาร์และผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลร่วง ราคาทองคาตลาดจรบวก 0.1% ปิดที่ 1,202.36 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ หลังจากร่วงไปสู่ 1,194.55 ดอลลาร์สหรัฐ ร่วงหนักสุดนับแต่ 31 ม.ค. ราคาทองคำตลาดล่วงหน้าลบ 0.2% ปิดที่ 1,201.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094