- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 10 March 2017 17:43
- Hits: 3239
บล.คันทรี่ กรุ๊ป : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้'ค่อยๆ ซึมลง'
ดัชนีตลาดหุ้นไทยวานนี้เปิดตลาดช่วงเช้าปรับตัวลงและแกว่งในกรอบตลอดวัน หลังนักลงทุนบางกลุ่มชะลอลงทุนและรอติดตามผลประชุม ธ.กลาง ทั่วโลก โดยตลาดให้น้ำหนักต่อ FOMC (14-15 มี.ค.) ที่คาดอาจเห็นการขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวลง ซึ่งกดดันหุ้นกลุ่มพลังงานวานนี้ (-0.9%DoD) และส่งผลให้ดัชนีปิดลบ 2.49 จุด (-0.16%DoD) ที่ 1,549.24 จุด ด้วย Vol. ซื้อขายเบาบาง 38,048 ล้านบาท ด้านทิศทาง Fund Flow ต่างชาติยังไหลออกต่อ หลังขายสุทธิต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 อีก 329 ล้านบาท รวม 9 วัน ต่างชาติขายสุทธิแล้ว 11,113 ล้านบาท
ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลกับตลาดหุ้นวันนี้
(+) ผลการประชุม ECB มีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0% เท่าเดิม และยังคงวงเงินในมาตรการ QE ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ไปถึงสิ้นเดือน มี.ค. ก่อนจะลดลงเหลือ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือนในช่วงที่เหลือของปีนี้
(+) ค่าระวางเรือ (BDI) เพิ่มขึ้น 19 จุด (+1.8%) มาอยู่ที่ 1,064 จุด เป็นปัจจัยบวกสำหรับกลุ่มเรือ PSL, TTA
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJIA +2.46 จุด (+0.01%) หลังจากที่ประชุม ECB คงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม ส่วน Nasdaq +0.02% และ S&P 500 +0.08%
(+)คมนาคมปรับรูปแบบจัดซื้อจัดจ้าง ดึงเอกชนลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมระบบราง ตั้งเป้า 10 ปี 1 หมื่นกิโลเมตร
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI -2% หลุดระดับ 50 ดอลล่าร์/บาร์เรล มาอยู่ที่ 49.28 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยยังได้รับแรงกดดันต่อเนื่องจากการายงานสต๊อกน้ำมันดิบของทาง EIA ที่เพิ่มขึ้นถึง 8.2 ล้านบาร์เรล
(-) สัญญาทองคำตลาด COMEX เดือนเม.ย. ลดลง 6.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,203.20 ดอลลาร์/ออนซ์ จากความกังวลเรื่องที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ย
(-) ราคายางพารา (TOCOM) วานนี้ -2.6% Day มาอยุ่ที่ 281.10 Yen/Kg. แต่เช้านี้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 286.5 Yen/Kg
(-) ราคาถ่านหินปรับลดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 ติดต่อกันอีก 0.6% มาอยู่ที่ 78.2 US/Tons เป็นลบต่อ BANPU,LANNA,EARTH
(-) นักลงทุนต่างประเทศยังคงมียอดขายสุทธิต่อเนื่องอีก 329 ล้านบาท และรวมแล้วขายสุทธิในช่วง 9 วันที่ผ่านมากว่า 11,113 ล้านบาท
(+/-) ตลาดหุ้นยุโรปวานนี้ปิดปรับตัวมีทั้งบวกและลบ CAC-40 +0.42% DAX +0.09% ส่วน FTSE 100 -0.27%
(+/-) ตลาดหลักทรัพย์แจ้ง GL ให้ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเกี่ยวกับการตั้งข้อสังเกตของผู้สอบบัญชีภายในวันที่ 13 มี.ค.
(+/-) คลังเตรียมต่อภาษี VAT ที่ 7% ต่ออีก 1 ปี แต่นายกบอกถ้าขึ้น VAT 1% จะทำให้มีรายได้เข้ามาพัฒนาประเทศกว่า 1 แสนล้านบาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
หุ้นเข้า/ออก SET 50 รอบ 1H60 (คาดหุ้นเข้า ได้แก่ GL, THAI, GLOBAL, SPRC, JAS, PTG, SCCC, RATCH และหุ้นออก ได้แก่ TASCO, SAWAD, TTW, WHA, BEC, TPIPL, BCP, MTLS)
การพรีวิวงบกลุ่มธนาคารในช่วงปลายเดือน
ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ ได้แก่ ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯประจำเดือนก.พ (10 มี.ค.), อังกฤษ ดุลการค้าเดือน และตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ม.ค. (10 มี.ค.)
กลยุทธ์การลงทุน'เน้น Laggard'
ประเมินดัชนีวันนี้มีแนวโน้มปรับตัวลดลง เรามองว่าราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลงต่อเนื่องและราคา commodity ที่ปรับตัวลดลงในตลาดจีน ( ยางธรรมชาติ,Benzene,PTA) เรามองว่าตลาดจะมีแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง เราแนะนำเก็งกำไรในหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะ ได้ประโยชน์จากน้ำมันขาลงเช่น TASCO และกลุ่มสายการบิน , ปัจจัยฤดูกาลในหน้าร้อน ,หุ้นที่ laggard ตลาดลดเพื่อลดความเสี่ยง
หุ้นเด่นประเด็นร้อน
CPALLเก็งกำไร
เข้าฤดูร้อนช่วง High Season ของสินค้าเครื่องดื่ม
คาดขยายสาขาครบ 1 หมื่นสาขาภายในกลางปีนี้ เร็วกว่าเป้า
CGS ประเมินราคาเป้าหมายปี 60 ที่ 74.50 บาท
SAPPE เก็งกำไร
เป็นหุ้น Laggard ปรับตัวลดลง 15.5% YTD
เตรียมเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจเครื่องดื่มในหน้าร้อน
อยู่ระหว่างการปรับเพิ่มสูตร Sappe alow vera low sugar ในปี 60
ทีมวิเคราะห์