- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 March 2017 17:59
- Hits: 3707
บล.เอเชีย เวลท์ : Daily Market Outlook
ไม่มีอะไรตื่นเต้น
คาดหุ้นไทยวันนี้ไม่ไปไหน จากการที่ความต้องการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงลดลงไปจากการที่หุ้นสหรัฐร่วงสองวันติดต่อกัน และการที่ตลาดลงความเห็นกันไปแล้วว่า Fed จะขึ้นดอกเบี้ยแน่ในการประชุมสัปดาห์หน้า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงใช้เวลากับเรื่องอื่นๆ ล่าสุดราคายา นโยบายสาธารณสุขของโอบาม่าแทนที่จะเร่งนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่นักลงทุนอยากได้ยิน วันนี้จีนจะประกาศตัวเลขการค้าระหว่างประเทศที่คาดว่าจะออกมาดี ปัจจัยภายในประเทศวันนี้ไม่มีอะไรใหม่ที่จะหนุนหรือกดดันตลาด
หุ้นเด่นวันนี้ : UNIQ(ราคาปิด 18.50 บาท; ซื้อ; ราคาเป้าหมายของ AWS เท่ากับ 25.50 บาท)11.60 บาท)
UNlQ เป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลประโยชน์หลักจากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลในหลายปีข้างหน้า โดยจะเกิด Action Plan สำหรับโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่มูลค่ารวม 896 พันล้านบาท ซึ่งรัฐบาลพยายามผลักดันให้เริ่มต้นปีนี้ เราคาดการณ์ว่า UNlQ จะมีส่วนแบ่งงานประมูลประมาณ 3% -4% หรือราว 30,000-40,000 ล้านบาท เข้ามาเป็น Backlog ในปีนี้ UNlQ เพิ่งชนะการประมูลสัญญา 4 และสัญญา 6 ของการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้มส่วนตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)) มูลค่าโครงการ 9.90 พันล้านบาทและ 3.75 พันล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งจะช่วยเพิ่ม Backlog ให้ UNlQ จากปัจจุบันที่มี 2 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 เป็น 3.5 หมื่นล้านบาทในปี 2560 นอกจากนี้ UNlQ ยังรายงานกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งในไตรมาส 4/59 ที่ 271 ล้านบาท (+16% YoY และ + 2% QoQ) และในปี 2559 ที่ 883 ล้านบาท (+24% YoY) UNlQ ถือว่าเป็นผู้รับเหมาที่มีการเติบโตของกำไรและความสามารถในการทำกำไรในปี 2560 มากที่สุดในกลุ่มรับเหมาขนาดใหญ่ที่รับงานภาครัฐ (เทียบกับ CK, lTD และ STEC) รายได้ของบริษัทมีที่มาจากโครงการใหญ่คือ รถไฟฟ้าสายสายสีแดง สัญญา 1 และสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) สัญญา 2 อัตรากำไรขั้นต้นของ UNlQ ในปี 2559 อยู่ที่ 16.8% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 17.1% ในปี 2560 และ 17.2% ในปี 2561 อัตรากำไรปกติอยู่ที่ 7.0% ในปี 2559 คาดว่าเพิ่มเป็น 7.3% ในปี 2560 และ 8.0% ในปี 2561 ตามลำดับ จุดเด่นคือ UNlQ เป็นเจ้าของสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น โรงงานสำเร็จรูป Precast โรงสีทราย รวมถึงเทคโนโลยี และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนโครงการของบริษัท ปัจจุบัน UNlQ ซื้อขายที่ EV/EBlTDA ต่ำสุดในกลุ่มที่ 11 เท่า เรากำหนดราคาเป้าหมาย 25.50 บาท อิงค่า EV/EBlTDA ที่ 15 เท่า ราคาหุ้นยังมี Upside จากราคาเป้าหมายอยู่ 38% บริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.33 บาท ขึ้น XD วันที่ 10 มี.ค.60 นี้ ถือเป็นโอกาสซื้อเพื่อรอรับปันผล Price Pattern ของ UNlQ ยังมีแนวโน้มหลักอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากการเกิด Monthly Buy Signal แต่ปัจจุบันยังคงอยู่ในช่วงของการปรับฐานทั้งในระยะสั้นและระยะกลาง จากการเกิดทั้ง Daily & Weekly Sell Signal ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเข้าเก็บ UNlQ สำหรับนักลงทุนระยะยาว โดยเบื้องต้นมีราคาเป้าหมายทางเทคนิคที่สำคัญอยู่ที่ 19.20 บาท โดยหากสามารถปรับตัวขึ้นมาปิดตลาดเหนือ 18.80 บาทได้ จะกลับมาเกิด Daily Buy Signal ครั้งใหม่ (Resistance: 18.60, 18.70, 18.80; Support: 18.40, 18.30, 18.20)
ปัจจัยสำคัญ
ประเด็นในประเทศ :
กกร. คงประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจ คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) คงประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญปี 2560 ไว้ตามเดิม โดยคงอัตราการขยายตัวของจีดีพีไว้ที่ 3.5-4% การเติบโตของส่งออก 1-3% และอัตราเงินเฟ้อที่ 1-.2% ประมาณการดังกล่าวอิงจากสมมติฐานว่าการใช้จ่ายของรัฐบาลจะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างงาน และเพิ่มกำลังซื้อ (Bangkok Post) ความเห็น: ประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจของกกร. เป็นไปตามประมาณการของเราที่ 3.5%
ครม.อนุมัติร่างหลักการพรบ.แก้ไขเพิ่มเติม คณะรัฐมนตรีเมื่อวานนี้มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.บริษัทบริหารสินทรัพย์ พ.ศ. 2551 เพื่อให้อำนาจหน่วยงานมากขึ้นในการซื้อและปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของหน่วยงานราชการและสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร จากก่อนหน้านี้ที่ทำได้เพียงการซื้อและรับโอนหนี้ด้อยคุณภาพจากสถาบันการเงิน (Bangkok Post)
SCC (526.00บ. ซื้อ ราคาเป้าหมาย AWS 638.00 บ.) ประกาศซื้อหุ้นทั้ง 100% หรือคิดเป็นมูลค่าราว 5.5 พันลบ. ใน Vietnam Construction Materials JSC (VCM) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจปูนซีเมนต์ครบวงจรในภาคกลางของประเทศเวียดนาม กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ 3.1 ล้านตันต่อปี ภายหลังการเข้าซื้อกิจการดังกล่าว SCC จะมีกำลังการผลิตปูนซีเมนต์ในอาเซียนรวมเพิ่มขึ้นเป็น 33.5 ล้านตันต่อปี (SET) ความเห็น: เรามีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าวจากภาวะสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทานของปูนซีเมนต์ในภาคกลางของประเทศเวียดนามที่มีศักยภาพการเติบโตของความต้องการใช้ที่สูงในระยะยาว ต้นทุนการเข้าซื้อต่อกำลังการผลิตต่อปีถือว่าไม่แพงโดยเปรียบเทียบที่ราว 1,800 บาทต่อตัน เราจะติดตามรายละเอียดการผลิตและการดำเนินงานเพิ่มเติมก่อนที่จะรวมเข้าไปในประมาณการของเรา เรายังคงยืนยันคำแนะนำ ซื้อ สำหรับ SCC
ต่างประเทศ :
กระทรวงเกษตรสหรัฐ (USDA) เผยเมื่อวันอังคารว่ามีการตรวจพบไข้หวัดนกสายพันธุ์ H7N9 ในรัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ได้คร่าชีวิตชาวจีน 112 ราย เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา USDA ยืนยันว่ามีการติดเชื้อไวรัสไข้หวัดนกในฟาร์มแห่งหนึ่งในรัฐเทนเนสซี ซึ่งเป็นกรณีแรกในการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของสหรัฐในรอบกว่า 1 ปี (Reuters)
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นเมื่อวันอังคาร เนื่องจากนักลงทุนรอการประมูลพันธบัตรรัฐบาลในสัปดาห์นี้และคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 2 bps อยู่ที่ระดับ 2.511% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี ปรับตัวขึ้นเกือบ 2 bps สู่ระดับ 3.116% (Reuters)
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบกับสกุลเงินหลักเมื่อวันอังคาร แต่ยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือนธ.ค.และ ม.ค. หลังการคาดการณ์มากขึ้นว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้น 0.25% ส่วนเงินปอนด์ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เทียบกับดอลลาร์สหรัฐหลังจากการประกาศข้อมูลการใช้จ่ายผู้บริโภคที่อ่อนแอเพิ่มความกังวลว่าเศรษฐกิจอังกฤษกำลังชะลอตัว (Reuters)
สหรัฐ :
ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐปิดลบต่อในวันอังคาร นำโดยหุ้นกลุ่มยาและเวชภัณฑ์หลังจากประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความว่าเขากำลังจัดทำระบบใหม่เพื่อลดราคายา แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใด ๆ พรรครีพับลิกันในขณะนี้กำลังทำงานเกี่ยวกับร่างกฎหมายฉบับหนึ่งเพื่อมาแทนที่กฎหมายโอบามาแคร์ หุ้นกลุ่มการเงินฉุดตลาดลงเช่นกันเนื่องจากผลขาดทุนของ เวลส์ ฟาร์โกและเจพี มอร์แกน (Reuters)
ยุโรป :
ตลาดหุ้นยุโรปเมื่อวันอังคารปรับตัวลดลง นำโดยหุ้นผู้ผลิตยารายใหญ่ที่ถูกเทขายหลัง Donald Trump ปธน. สหรัฐฯ กล่าวถึงการปรับลดราคาขายยาลง นอกจากนี้ยังมีแรงกดดันส่วนหนึ่งจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ประกาศออกมาอ่อนแอ ได้แก่ Casino และ Aggreko อย่างไรก็ตามข่าวการควบรวมกิจการของบริษัทสถานีโทรทัศน์ในอิตาลีได้หนุนราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องให้ปรับตัวสูงขึ้น (Reuters)
ผลปนะกอบการบริษัทจดทะเบียนในยุโรปงวด 4Q59 แข็งแกร่ง โดยข้อมูลล่าสุดพบว่าราว 55% ของบริษัทจดทะเบียนโดยรวมรายงานกำไรสุทธิออกมาดีกว่าความคาดหมาย อ้างอิงข้อมูลจาก Eikon โดย Reuters (Reuters)
เอเชีย :
ญี่ปุ่นปรับจีดีพีขึ้นในไตรมาส 4/59 เนื่องจากรายจ่ายลงทุนขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี เศรษฐกิจในไตรมาส 4/59 ขยายตัว 1.2% YoY ต่ำกว่าประมาณการเฉลี่ยสำหรับการเติบโต 1.6% แต่มากกว่าที่ประกาศไปเบื้องต้นที่ขยายตัว 1.0% เศรษฐกิจขยายตัว 0.3% QoQ เทียบกับที่ประกาศไปก่อนหน้านี้มีอัตราการขยายตัว 0.2% และค่าเฉลี่ยที่คาดการณ์ไว้คือเติบโต 0.4% รายจ่ายลงทุนเพิ่มขึ้น 2.0% QoQ ซึ่งมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.7% ข้อมูลที่ปรับปรุงใหม่แสดงถึงรายจ่ายลงทุนขยายตัวรายไตรมาสได้เร็วที่สุดนับตั้งแต่เห็นระดับ 2.3% ในไตรมาส 1/57 (Reuters)
ยอดเกินดุลของญี่ปุ่นต่ำกว่าคาดการณ์ในเดือน ม.ค.: การเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นอยู่ที่ 65.5 พันล้านเยน (575.12 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในเดือนมกราคม เมื่อเทียบกับที่นักเศรษฐศาสตร์ตามผลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะเกินดุล 239.0 พันล้านเยน (Reuters)
รัฐบาลจีนจะควบคุมหนี้รัฐบาลท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด: จีนจะควบคุมโควตาหนี้ของรัฐบาลท้องถิ่นอย่างเข้มงวดและเพิ่มการตรวจสอบการค้ำประกันหนี้ที่ผิดกฎหมาย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเสี่ยว จี้ กล่าวในวันอังคารว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศจีนได้ให้ความมั่นใจว่าจะเข้าไปควบคุมความเสี่ยงทางการเงิน (Reuters)
ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนในเดือนกุมภาพันธ์ซึ่งฟื้นตัวเหนือระดับ 3 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อใช้มาตรการปราบปรามและการกำกับดูแลให้ค่าเงินหยวนคงที่ ช่วยหยุดการไหลออกของเงินทุน โดยเงินสำรองฯ เพิ่มขึ้น 6.92 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ แตะที่ 3.005 ล้านล้านเหรียญฯ เมื่อเทียบกับการลดลง 12.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนมกราคม ทำให้ปริมาณสำรองลดลงไปเป็น 2.998 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าเงินสำรองจะลดลง 25 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ (Reuters)
สินค้าโภคภัณฑ์ :
ราคาน้ำมันเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยวานนี้ หลังจากรัฐมนตรีน้ำมันซาอุดิอาระเบียให้ความเห็นที่สามารถแปลความได้หลายด้านทั้งในเรื่องการลดกำลังการผลิตของ OPEC ในอนาคต ในระหว่างที่ตลาดมองว่าข้อมูลดังกล่าวอาจบ่งบอกถึงคลังน้ำมันสหรัฐปรับขึ้นเป็น 9 สัปดาห์ติดต่อกัน ราคาน้ำมันดิบเบรนท์แทบไม่เปลี่ยนแปลงอยู่ที่ 56.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปรับขึ้น 8 เซนต์ (+0.2%) (Reuters)
ราคาทองเข้าสู่จุดต่ำสุดในรอบมากกว่า 4 สัปดาห์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าขึ้นและตลาดคาดการณ์ว่า Fed จะขึ้นปรับดอกเบี้ย ราคาทองคำตลาดจรลดลง 0.7% อยู่ที่ 1,216.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำล่วงหน้าลดลง 8 ดอลลาร์อยู่ที่ 1,217.50 ดอลลาร์สหรัฐ (Reuters)
Thailand Research Department
Mr. Warut Siwasariyanon (No.17923) TeI: 02 680 5041
Mr. Krit SuwanpibuI (No.17968) TeI: 02 680 5090
Mrs. VajiraIux SangIerdsiIIapachai (No. 17385) TeI: 02 680 5077
Mr. Narudon Rusme, CFA (No.29737) TeI: 02 680 5056
Mr. Napat Siworapongpun (No.49234) TeI: 02 680 5094