- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 08 March 2017 17:37
- Hits: 2692
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดหุ้นไทยวานนี้
SET INDEX วานนี้เปิดย่อตัวลงทดสอบแนว 1,550 จุด ก่อนเกิด Technical rebound นำโดย PTT/ SCC/ KBANK ขณะที่ตลาดหุ้นรอบเอเชียแกว่งในกรอบแคบไร้ทิศทาง และค่าเงินบาทอ่อนค่าเล็กน้อย ปิด ณ สิ้นวัน SET INDEX อยู่ที่ 1,549.87 จุด ลบ 3.74 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเพียง 36,607 ล้านบาท
ทั้งนี้ต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 มากถึง 2,412 ล้านบาท ขายสุทธิตลาดตราสารหนี้เป็นวันที่ 7 เร่งขึ้นเป็น 3,571 ล้านบาท แต่ Long สุทธิใน SET50 Index Futures เป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,436 สัญญา
ปัจจัยสำคัญวันนี้
- ติดตามการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯ คืนนี้
- ตลาดคาด 96% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 15 มี.ค. ทรงตัวจากวันก่อนหน้า
- ติดตามสถานะสุทธิของต่างชาติใน SET50 Index Futures หลังกลับมามีสถานะ Long สุทธิ
- วันนี้ติดตามการส่งออกเดือนก.พ.ของจีน Bloomberg consensus คาด +20.0% yoy และนำเข้าคาด +14.0% yoy
มุมมองต่อตลาดวันนี้: กลาง (วันที่ 28)
เรายังคงให้น้ำหนักกับการเกิด Technical rebound บริเวณ 1,545 จุด +/- แม้ว่าปัจจัยทั้งในและต่างประเทศจะไร้ทิศทางและน้ำหนักก็ตาม แต่ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ทรงตัว US$52-53/barrel อาจทำให้กลุ่มพลังงานฟื้นตัว หลัง 5 วันทำการที่ผ่านมาปรับฐานลง 1.67% ขณะที่กลุ่ม Domestic Play นำโดยกลุ่มธนาคาร และกลุ่มอสังหาฯ จะมี Downside risk จำกัด จาก Dividend Yield ช่วยประคองภาพรวมตลาดหุ้นไทย
วันนี้จับตา LHBANK หลังทางการไต้หวันอนุมัติให้ CTBC เข้าลงทุนใน LHBANK ได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือ การประชุมผู้ถือหุ้น LHBANK อนุมัติการเพิ่มทุนดังกล่าวในราคา 2.20 บาทตามคำเสนอซื้อของ CTBC
SET INDEX วันนี้คาดกรอบแกว่ง 1,545 - 1,560 จุด มูลค่าการซื้อขายยังคงเบาบางราว 4.0-4.5 หมื่นล้านบาท/วัน พร้อมติดตามสถานะของต่างชาติใน SET50 Index Futures เพราะเชื่อว่านักลงทุนกลุ่มนี้จะเริ่มทยอยปิดสถานะ Short ที่ถือ 5.15 หมื่นสัญญา QTD
กลยุทธ์การลงทุน "คงแนะนำทยอยสะสมหุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนสำหรับงวดปี 2559 หรือ 2H59 สูงกว่า 4%" สำหรับการลงทุนระยะกลางและยาว ชะลอการเก็งกำไรรอบสั้น
Daily Pick
1. สะสม TKS : ราคาปิด 12.20 บาท ราคาเหมาะสม 17.00 บาท
a) ประกาศจ่ายเงินปันผล 2H59 หุ้นละ 0.50 บาท ขึ้น XD วันที่ 16 มี.ค. คิดเป็น Dividend Yield เท่ากับ 4.1%
b) คาดกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +25.6% yoy เป็น 383 ล้านบาท จากการขยายตัวไปยังธุรกิจต่างประเทศ ได้แก่ เขมร, ลาว และธุรกิจใหม่ซึ่งร่วมทุนกับญี่ปุ่นคือการผลิต Label ขณะที่บริษัทร่วมคือ SYNEX คาดว่ากำไรจะทำระดับสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่องในปี 2560
c) Valuation น่าสนใจ ที่ระดับ PER2560 เท่ากับ 11.5 เท่า เทียบเท่า PEG ที่ 0.45 เท่า และให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 2560 - 2561 สูงถึงปีละ 5.5% นอกจากนั้น ยังมีฐานการเงินที่แข็งแกร่งเป็น Net Cash จึงมีความพร้อมเต็มที่เพื่อขยายตัวไปยังธุรกิจใหม่ หรือ ตลาดใหม่ ได้อีกมากในอนาคต
2. สะสม PTT : ราคาปิด 389.00 บาท ราคาเหมาะสม 420.00 บาท
a) แม้เม็ดเงินต่างชาติจะยังมีทิศทางชะลอในสัปดาห์นี้ถึงสัปดาห์หน้า แต่คาดว่าหลังผ่านพ้นการประชุมเฟดในวันที่ 15 มี.ค.และได้ความชัดเจนเรื่องอัตราดอกเบี้ย จะส่งผลให้เม็ดเงินต่างชาติไหลกลับเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเซียเกิดใหม่อีกครั้ง ดังนั้น การปรับฐานลงของหุ้น PTT ในรอบนี้จึงเป็นโอกาสในการเข้าทยอยสะสม
b) คาดการณ์เงินปันผล 2H59 หุ้นละ 5.00 - 6.00 บาท คิดเป็น Dividend Yield ราว 1.3% และเชื่อว่าอาจส่งผลให้เกิด Short Covering ก่อนขึ้นเครื่องหมาย XD เป็นอีกแรงหนุนช่วยผลักดันราคาหุ้น
c) ทิศทางกำไรสุทธิปี 2560 เติบโต +5% yoy เป็น 98,550 ล้านบาท และ Valuation น่าสนใจ ที่ PER2560 ระดับ 11.3 เท่า ต่ำกว่า SET INDEX ที่ 15.2 เท่า และมี Upside Risk จากการนำ PTTOR เข้าจดทะเบียน IPO อีกไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 30.00 บาท
Fund Flow Analysis
Fund Flow in Emerging Markets
ซื้อสุทธิเป็นวันที่ 2 อีก US$35 ล้าน จากวันก่อนหน้าซื้อสุทธิ US$203 ล้าน
Foreign Investors Action วานนี้
ต่างชาติเริ่มทยอยปิดสถานะ short ใน SET50 Index Futures
นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิตลาดหุ้นไทยเป็นวันที่ 7 อีก 2,412 ล้านบาท รวม 7 ขายสุทธิ 9,941 ล้านบาท ส่งผลให้ YTD นักลงทุนกลุ่มนี้ขายสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 5,446 ล้านบาท
SET50 Index futures นักลงทุนกลุ่มนี้กลับมา Long สุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ 1,436 สัญญา เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้า Short สุทธิ 10,063 สัญญา คาดเป็นการทยอยปิดสถานะ Short อีกครั้ง ทำให้ยอด QTD นักลงทุนกลุ่มนี้ Short สุทธิลดลงเล็กน้อยเป็น 51,528 สัญญา เมื่อ S50H17 ปิดต่ำกว่า SET50 Index เป็นวันที่ 5 กว้างขึ้นเป็น 2.13 จุด จากวันก่อนหน้า Discount 0.64 จุด
และตลาดตราสารหนี้ นักลงทุนต่างชาติคงการขายสุทธิเป็นวันที่ 7 เร่งขึ้นเป็น 3,571 ล้านบาท รวม 7 วันทำการขายสุทธิ 16,088 ล้านบาท เทียบกับ 2 วันทำการก่อนหน้าซื้อสุทธิ 1,871 ล้านบาท โดยราคาพันธบัตรไทยปรับฐานลงเป็นวันที่ 7 ผ่านผลตอบแทนพันธบัตรไทยอายุ 10 ปี เพิ่มขึ้นอีก 1.01bps จากวันก่อนหน้าเพิ่มขึ้น 0.35bps ปิดที่ 2.795%
Short-Selling วานนี้
เท่ากับ 737 ล้านบาท จากวันก่อนหน้า 874 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้น 54 หลักทรัพย์เท่ากับวันก่อนหน้า
NVDR Movement
NVDR กลับมาซื้อสุทธิเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ โดยเป็นการทำ Big Lot หุ้น GL เป็นหลัก
การซื้อขายผ่าน NVDR กลับมาซื้อสุทธิ 897 ล้านบาท จาก 2 วันทำการก่อนหน้าขายสสุทธิ 1,564 ล้านบาท ทั้งนี้ NVDR กลับมาสะสมกลุ่มไฟแนนซ์สูงสุด 665 ล้านบาท คาดว่าเป็นผลจากการทำ Big Lot หุ้น GL ตามมาด้วยกลุ่มวัสดุก่อสร้าง 306 ล้านบาท แต่ลดน้ำหนักกลุ่ม อาหารสูงสุด 195 ล้านบาท
ประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจ - การเงินรายภูมิภาค
สหรัฐอเมริกา
นโยบายทางการเมือง - เศรษฐกิจของประธานาธิบดี Trump
- การยกเลิกกฎหมาย Blacklisting กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง: เป็นกฎหมายที่อดีตประธานาธิบดีโอบามาผ่านการรับรอง โดยวุฒิสภาผ่านร่างกฎหมาย Congressional Review Act (CRA) ด้วยเสียง 49-48 เพื่อยกเลิกข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมในส่วนของไอน้ำและ wetlands เพิ่มการตรวจสอบซื้อปืนผิดกฎหมาย และกำหนดให้บริษัทน้ำมัน, ก๊าซและเหมืองแร่ต้องจ่ายเงินให้กับรัฐบาลต่างประเทศ ประเด็นเหล่านี้จะมีการพิจารณาและแก้ไข
ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาเป็นกลาง
- ดุลการค้าเดือนม.ค. ขาดดุล US$4.85 หมื่นล้าน เท่ากับ Bloomberg consensus คาด แต่ขาดดุลมากขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ US$4.43 หมื่นล้าน โดยการนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.3% mom จากการนำเข้าสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้นถึง 2.4% mom และยานยนต์นำเข้าเพิ่มขึ้น 1.3% mom ส่วนการส่งออกเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% mom จากการส่งออกอุปกรณ์อุตฯ และยานยนต์
- สินเชื่อเพื่อการอุปโภคบริโภค เดือนม.ค. เพิ่มขึ้น US$8.8 พันล้าน ต่ำกว่า Bloomberg consensus คาดเพิ่มขึ้น US$1.83 หมื่นล้าน และเดือนก่อนหน้า US$1.48 หมื่นล้าน โดยสินเชื่อที่ไม่ใช่เป็นการ Rollover ลดลง US$3.8 พันล้าน เป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2559 และเป็นการลดลงมากสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2555
OPEC ประเมินหากต้องลดกำลังการผลิตต่อเนื่องถึงเดือนมิ.ย.ต้องให้นอกกลุ่มโอเปกร่วมด้วย: เลขาธิการโอเปก ให้ความเห็นว่า การตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับการยืดระยะเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปมากกว่าเดือนมิ.ย.นี้ จะต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกตามที่ตกลงกันในเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้เลขาธิการฯ จะมีการประชุมกับกลุ่มผู้ผลิต Shale Oil และ Hedge Fund ในเร็วๆ นี้ เพื่อให้ความเห็นถึงทิศทางการผลิตน้ำมัน ขณะที่การประชุมกลุ่มโอเปกจะมีขึ้นในเดือนพ.ค.
ยุโรป
โพลล์ล่าสุดพรรค SPD นำพรรคของนาง Merkel: การสำรวจของสื่อ INSA Institute ล่าสุดพบว่าพรรค Social Democrat Party (SPD) มีคะแนนนำ 31.5% ขณะที่พรรค CDU ของนายกฯ และพรรคพันธมิตร CSU มีคะแนนรวม 30.5% ส่วนพรรคทางเลือก AfD มีคะแนน 11.0%
คำสั่งซื้อโรงงานของเยอรมันต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2552: เดือนม.ค.หดตัว 7.4% mom จากเดือนธ.ค.ที่เพิ่มขึ้น 5.2% mom เป็นการหดตัวลงแรงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2552 และลดลงแรงกว่าที่ Bloomberg consensus คาด -2.5% mom โดยคำสั่งซื้อโรงงานภายในประเทศลดลง 10.5% mom ส่วนคำส่งซื้อสินค้าเพื่อการส่งออกลดลง 4.9% mom
เยอรมันเพียงประเทศเดียวไม่สามารถทำให้อียูรวมตัวกันได้: รมว.คลัง เยอรมัน กล่าวว่า เยอรมันเพียงประเทศเดียวไม่สามารถคงอียูต่อไปได้ เยอรมันต้องการฝรั่งเศส และยืนยันว่าเยอรมันไม่ได้เป็นคนทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่า เพื่อสร้างความสามารถทางการแข่งขันให้แก่เยอรมัน อียูยังอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก และต้องการความช่วยเหลือทุกๆ ด้าน เพื่อให้เกิดเสถียรภาพ
เศรษฐกิจอียูใน 4Q59 ผลักดันด้วยการบริโภคภายในกลุ่ม: 4Q59 เศรษฐกิจเติบโต 0.4% qoq และ 1.7% yoy ผลักดันโดยการบริโภคภายในกลุ่มช่วยเพิ่ม GDP ได้ 0.2% qoq และการลงทุนช่วย GDP เพิ่มขึ้น 0.1% qoq หลังจากที่หดตัว 0.1% qoq ใน 3Q59 ขณะที่การส่งออกสุทธิลดลง 0.1% qoq
ยอดค้าปลีกในอังกฤษแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปี: ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมอาหาร เฉลี่ย 3 เดือนสิ้นสุดเดือนก.พ. ลดลง 0.4% mom และยอดค้าปลีกรวมลดลง 0.2% mom เป็นการลดลงครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2554 ทั้งนี้เป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น ลดกำลังซื้อของคนอังกฤษ
การโหวตในวุฒิสภาอังกฤษเปิดให้สภาสามารถปฎิเสธการ Brexit ได้: ด้วยคะแนน 366 ต่อ 268 ที่เปิดทางให้สภาสามารถใช้อำนาจยกเลิกการพิจารณา Brexit ในขั้นตอนสุดท้ายได้ ถือเป็นเงื่อนไขเพิ่มเติมในร่างกฎหมายมาตรา 50 แห่งกรุงลิสบอน ส่งผลให้สภาจะต้องพิจารณาและอนุมัติการเจรจาทุกกรณีก่อนที่จะหารือในสภาอียู หรือหากการเจรจาล้มเหลว สภาอังกฤษจะต้องโหวตรับรองการตัดสินใจที่จะยกเลิก
จีน
เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของจีนกลับมาสูงกว่า US$3 ล้านล้านอีกครั้ง: เดือนก.พ. เงินทุนสำรองเพิ่มขึ้น US$6.92 พันล้าน เป็น US$3.005 ล้านล้าน เป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2559 ฟื้นตัวจากเดือนม.ค.ที่ลดลง US$1.23 หมื่นล้าน และทำให้เงินทุนสำรองฯ ต่ำกว่า US$3.0 ล้านล้าน และถือว่าสวนทางกับ Reuters Poll คาดลดลง US$2.5 หมื่นล้าน เป็น US$2.973 ล้านล้าน
เอเชียแปซิฟิก
ธนาคารกลางออสเตรเลียคงอัตราดอกเบี้ย: อัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.50% เป็นการคงอัตราดอกเบี้ยครั้งที่ 8 และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ อย่างไรก็ตามผู้ว่าการธนาคารกลางส่งสัญญาณข้อจำกัดนโยบายการเงิน ภายใต้ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจและผู้บริโภคเท่ากับหรือสูงกว่าค่าเฉลี่ย ณ ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังอยู่ในระดับต่ำ 1.5% ก็ตาม
รัฐบาลอินเดียเตรียมกำหนดให้ใช้เหล็กของอินเดียในการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน: รัฐบาลอาจออกเป็นข้อกำหนดให้โครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ซึ่งในงบประมาณปี 2560/61 โครงการลงทุน US$5.9 หมื่นล้าน และเป็นโครการที่ใช้เหล็กเป็นองค์ประกอบที่สูง เช่นท่าเรือ, ถนน, รางรถไฟ และโรงไฟฟ้า จะต้องใช้เหล็กที่ผลิตในอินเดีย
ไทย
ไม่มี
Strategist Team
Mayuree Chowvikran, CISA Strategist / Analyst 662-6586300 x 1440
Padon Vannarat Equity Analyst 662-6586300 x 1450
Krittapol Itthithumsakul Assistant Analyst