WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBXบล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

Market View : ผันผวนในกรอบ
Stock of the town : AMANAH PSL-W1
หุ้นแนะนำพิเศษ : KTB
หุ้นมีข่าว : HMPRO LIT PTTEP
  ดัชนีหุ้นไทยวันก่อนปรับตัวลงจากความกังวล FED ปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม 14-15 มี.ค. จึงมีโอกาสที่ Fund Flow จะไหลออก ประกอบกับแรงขายกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันทรุดตัวลง ส่งผลให้ SET ปิดที่ 1,566.20 จุด (-3.74 จุด) Vol. 3.4 หมื่นลบ.โดย Foreign Net -2,073 ลบ. , TFEX Net -7,528 สัญญา

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
  - ประธาน FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุม 14 – 15 มี.ค.เนื่องจากอัตราว่างงานในเดือนม.ค.อยู่ระดับต่ำ 4.8% รวมถึงเงินเฟ้อขยับเข้าใกล้เป้าหมาย 2%
  +/- ตลาดหุ้น DJ ทรงตัว หลังจากนางเยลเลนส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. รวมถึงดัชนีภาคบริการเดือนก.พ. ขยายตัวขึ้นสู่ 57.6 (จาก 56.5 ในเดือนม.ค.)
  + ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นล่าสุด 53.1 US/Barrel แรงหนุนจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งข่าวการอพยพคนงานที่ท่าเรือขนส่งน้ำมันเอสไซเดอร์ของลิเบีย เนื่องจากเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ใกล้เคียง
  + กรมทางหลวง เตรียมชงครม.วันที่ 14 มี.ค.ไฟเขียวผลประมูลมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราชอีก 12 ตอน
  +/- รมต. Brexit ของอังกฤษ ยันรัฐบาลอังกฤษจะประกาศใช้มาตรา 50 เพื่อเริ่ม BREXIT ภายในสิ้นเดือนมี.ค.
  - Fund Flow ต่างชาติเป็น Net Sell 5 วันต่อเนื่องราว 5.2 พันลบ.
  ** OPP DAY 6 มี.ค. L&E HMPRO APCO 7 มี.ค. VIBHA HPT TK K TRC KTIS THRE 8 มี.ค. BCPG WAVE BM WICE PAP CPN MINT 9 มี.ค. SPCG DRT ARROW QLT HARN TKT PCSGH
  ภาวะตลาดหุ้นไทยมีความกังวลแนวโน้ม Fund Flow ไหลออกหลัง FED ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมี.ค. ซึ่งสอดคล้องกับยอด Foreign เป็น Net Sell ต่อเนื่อง 5 วันราว 5.2 พันลบ. อย่างไรก็ตามภาพสัญญาณทางเทคนิคที่ยืน 1,550 จุดได้ทำให้ดัชนีไม่เสียทิศทางขาขึ้น ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัวในกรอบ 1,560 – 1,575 จุด

กลยุทธ์การลงทุน ซื้อเก็งกำไรกลุ่มที่มีปัจจัยสนับสนุน
  - TTA PSL ค่าระวางเรือ +35 จุด ล่าสุด 939 จุด
  - ITD ILINK ยื่นข้อเสนอชิงงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) รอบ 2 โดย AOT เตรียมเปิดซองคุณสมบัติ 8 มี.ค.นี้
  - IVL ราคาฝ้ายมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นล่าสุด 77.9 US/Tons
  - TASCO ได้ประโยชน์จากราคายางมะตอย +7.8%MoM และ Demand ที่เพิ่มขึ้นเพื่อซ่อมแซมถนนหลังน้ำท่วมภาคใต้
  - กลุ่มธนาคารได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น

หุ้นแนะนำพิเศษ
KTB (ราคาปิด 19.80 บาท ราคาเหมาะสม 20.60 บาท )
คาดกำไรสุทธิปี 60 ราว 3.33 หมื่นลบ. +12% จากสินเชื่อที่ขยายตัวขึ้น 4 - 6% ตามทิศทางการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และสินเชื่อ SME
คาดเงินปันผลปี 59 ราว 0.85 บาทต่อหุ้น yield 4.5% สูงสุดในกลุ่มแบงก์ขนาดใหญ่
ค่า P/E 8.6 เท่า และ P/BV 1 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคาร

หุ้นมีข่าว
HMPRO Analyst Meeting (ราคาปิด 9.90 บาท ซื้อ ราคาเหมาะสม 12.60 บาท)
ปี 60 มีแผนเปิดสาขาโฮมโปร 2-3 แห่ง สาขาเมกาโฮม 3-4 แห่ง สาขาที่มาเลเซีย 2-3 แห่ง เน้นทำเลที่มีกำลังซื้อในกทม. ปริมณฑล และหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด
ผู้บริหารเชื่อว่ายอดขายปี 60 อาจโตไม่มากจากฐานที่ใหญ่แต่เชื่อว่ากำไรจะโตกว่ายอดขาย เช่นเดียวกับปี 59 ที่รายได้ขายโต 8% แต่กำไรโต 18% ซึ่งเป็นผลจากรายได้อื่นโต 13% จากการให้เช่าพื้นที่ขายและรายได้จากการให้บริการ Home service ที่มีศักยภาพเติบโตและมีมาร์จิ้นสูง
ตามประมาณการเดิมฝ่ายวิจัยคาดรายได้ปี 60 ราว 6.45 หมื่นล้านบาท + 14% และกำไรราว 4.4 พันล้านบาท +6% โดยอยู่ระหว่างทบทวนหลังประกาศงบปี 59
LIT Analyst Meeting (ราคาปิด 11.70 บาท ราคาเหมาะสม Bloomberg consensus 14.73 บาท)
ปี 60 ผู้บริหารตั้งเป้าสินเชื่อโตราว 30% สินเชื่อปล่อยใหม่ราว 2.2 พันล้านบาท เน้นลูกค้ากลุ่ม SME ที่เข้าไม่ถึงระบบสินเชื่อธนาคารจึงมีโอกาสเติบโตสูง
มีแผนคุม %NPL ที่ระดับไม่เกิน 3% มีแผนตั้งสำรองหนี้สูญ 2.75% ระมัดระวังเพิ่มขึ้นจากที่ตั้ง 2.5% ในปี 59
ผลการดำเนินงานมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากความต้องการสินเชื่อ Non-IT ที่มีสัดส่วนสูงถึง 76% โดยเฉพาะกลุ่ม SME ในกลุ่มอุตสาหกรรมก่อสร้างที่มีสัดส่วน 23% สูงเป็นอันดับ 2 ในพอร์ตสินเชื่อ
PTTEP (ราคาปิด 92.50 “ถือ” ราคาเหมาะสม 96) เผยเลือก TOTAL เข้าร่วมลงทุน 50% ในโครงการเมียนมาร์ MD-7
PTG (ราคาปิด 27.00 Bloomberg Consensus 30) เผยบ.ย่อยร่วมลงทุน 51%ในกิจการบริหารจัดการระบบกำจัดขยะมูลฝอยเพื่อผลิตไฟฟ้า
AOT (ราคาปิด 38.25 Bloomberg Consensus 42.42) เผย ITD – กลุ่ม ILINK ยื่นประมูลงาน APM ของสุวรรณภูมิ มูลค่างาน 2.89 พันลบ. คาดรู้ผลมี.ค.นี้
IEC เผยกสท.ถอนฟ้องคดีต่อบริษัท หลังเจรจายุติข้อพิพาทต่อกันได้แล้ว
ARROW มั่นใจรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10-15% มาที่ 1.5-1.6 พันลบ.รง.ผลิตท่อฯแห่งใหม่เริ่มผลิตแล้ว เผย Backlog มูลค่า 270 ลบ.จะรับรู้เป็นรายได้ใน 3 เดือน,ตั้งเป้ารักษาระดับงานในมือที่ 250-300 ลบ.
VTE จะเพิ่มทุน 332.23 ล้านหุ้น ส่วนใหญ่ขายผถห.เดิมตามสัดส่วนขาย PP จัดหาแหล่งเงินรองรับขยายธุรกิจ
TH เผยบ.ย่อยรับข้อเสนอเข้าบริหารร้านค้าปลีก"เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล"รวม 2 สาขา
CIG เพิ่มทุน 216.19 ล้านหุ้น รองรับออกวอร์แรนต์ให้ฟรีผถห. 5:1
ประเด็นบวกกลุ่มก่อสร้าง - ประธานคณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง (ซุปเปอร์บอร์ด) คาดได้ข้อสรุป TOR โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางสัปดาห์หน้า สำหรับในส่วนของผู้รับเหมาเอกชนที่มายื่นซองไปแล้วสำหรับโครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางนั้น ตอนนี้ยังถือว่า On Hold จนกว่าจะได้ข้อสรุปในเรื่องของ TOR ส่วนอีก 2 เส้นทางฉะเชิงเทรา- คลองสิบเก้า - แก่งคอย และ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น ยังให้ดำเนินการก่อสร้างต่อไป

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : +2.74 จุด
  ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,005.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.74 จุด หรือ +0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,870.75 จุด เพิ่มขึ้น 9.53 จุด หรือ +0.16% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,383.12 จุด เพิ่มขึ้น 1.20 จุด หรือ +0.05% หลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า เฟดพร้อมที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หากเศรษฐกิจมีการขยายตัวที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเจ้าหน้าที่เฟด โดยความเคลื่อนไหวครั้งล่าสุดของนางเยลเลนเป็นไปในทิศทางเดียวกับที่เจ้าหน้าที่หลายคนของเฟดได้ออกมาส่งสัญญาณก่อนหน้านี้

ตลาดน้ำมัน NYMEX : +0.72 USD/Barrel
  สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 72 เซนต์ หรือ 1.4% ปิดที่ 53.33 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งข่าวการอพยพคนงานที่ท่าเรือขนส่งน้ำมันเอสไซเดอร์ ในประเทศลิเบีย อันเนื่องมาจากเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ใกล้เคียง อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้นในสหรัฐยังคงสร้างแรงกดดันต่อตลาดและสกัดแรงบวกของราคาน้ำมัน โดยล่าสุดเบเกอร์ ฮิวจ์รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันสหรัฐมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน

ส่องหุ้น
M แนวรับ 18.70 , 18.40-18.30 บาท แนวต้าน 19.10-19.40 บาท
  ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 5 วันได้อีกครั้ง และปิดได้ในระดับสูงของวัน ในขณะที่วอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อย หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 18.70 บาท หรือเต็มที่ไม่หลุดเส้นค่าเฉลี่ย 5 และ 10 วันแถวๆ 18.40-18.30 บาทซะก่อน ระดับราคาจึงจะมีลุ้นดีดกลับขึ้นต่อได้แถวๆ 19.10-19.40 บาทต่อไป

TFG แนวรับ 6.55-6.50 บาท แนวต้าน 6.70-6.80 , 6.95 บาท
  ระดับราคาเริ่มดีดกลับขึ้นมาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 25 วันได้อีกครั้งในรอบเกือบ 1 เดือน โดยปิดได้ในระดับสูงสุดของวันและมีวอลุ่มซื้อขายเพิ่มสูงขึ้นประกอบกับ MACD กำลังดีดกลับขึ้นเหนือศูนย์ใน 1-2 วันนี้ หากวันนี้ระดับราคาไม่ถอยกลับลงมาหรือปิดต่ำกว่าแถวๆ 6.55-6.50 บาทซะก่อน จึงจะมีลุ้นดีดกลับผ่านเส้นค่าเฉลี่ย 75 วันและเส้น BollingerTop ที่ 6.70-6.80 บาท ก่อนผ่านขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมแถวๆ 6.95 บาทต่อไป

Analyst – วิลาสินี บุญมาสูงทรง , ชัยยศ จิวางกูร, ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์-ระพีพัฒน์ ด่านไพบูลย์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!