- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 06 March 2017 17:05
- Hits: 1981
บล.เคจีไอ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ ( รักพงศ์ ไชยศุภรากุล เลขทะเบียนฯ: 19838)
ไซด์เวย์ / บวกกรอบแคบๆ
KGI คาด SET วันจันทร์ไซด์เวย์/บวกแคบๆ ฟันด์โฟลว์หุ้นยังไม่ชัดเจนในช่วงสั้น หลังประธานเฟดส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยเดือนนี้ (ศุกร์ที่แล้วดัชนีฯ แกว่งตัวลง ตามคาด) นางเจเนต เยลเลน ประธานเฟด แถลงที่ชิคาโกเมื่อคืนวันศุกร์ว่าดอกเบี้ยระยะสั้นน่าจะปรับขึ้นในการประชุม 15 มี.ค. หากตัวเลขสหรัฐฯ เป็นไปตามคาด และเธอมองว่าดอกเบี้ยเฟดอาจขึ้น 0.75% ในปีนี้ หลังแถลง เฟดฟันด์ฟิวเจอร์มองโอกาส 80% ที่ดอกเบี้ยจะขึ้นเดือนนี้ ด้านนักเศรษฐศาสตร์ KGI ปรับมุมมองเล็กน้อย คาดเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ สู่ 1.50% ณ สิ้นปี 2560 แต่ไม่น่าจะมีผลต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของไทยในปีนี้ ทั้งนี้ดัชนีเงินดอลลาร์ฯ และบอนด์ยิลด์สหรัฐฯ ร่วงลงหลังนางเยลเลนแถลง เราจึงมองว่าตลาด FX และพันธบัตรรับรู้ประเด็นนี้จบแล้ว ความเสี่ยงต่อตลาดการเงินจึงมีจำกัด แต่หุ้นเอเชียน่าจะยังเผชิญฟันด์โฟลว์ออกอยู่บ้างจนถึงช่วงประชุมเฟดจริง กลยุทธ์สั้นจึงยังเน้นหุ้นปันผลเด่น / และหุ้นที่กำไรพลิกฟื้นในปีนี้
หุ้นเด่นวันนี้ ตามปัจจัยพื้นฐาน ( สุโชติ ถิรวรรณรัตน์ เลขทะเบียนฯ: 28668)
เก็งกำไรหุ้นเล็ก ASIAN / หุ้นใหญ่ BANPU*, BBL*
ASIAN (ยังไม่มีเป้าหมาย Consensus) 1) เราประเมินแนวโน้มผลการดำเนินงานปีนี้จะฟื้นตัว YoY จาก i) ธุรกิจกุ้ง (ทั้งอาหารกุ้งและกุ้งแช่แข็ง) ฟื้นตัวตามภาพรวมอุตสาหกรรมฯ ทำให้อัตราการใช้กำลังการผลิตดีขึ้นจากปีก่อน U-rate ต่ำเพียง ±50% (รายได้จากธุรกิจกุ้งคิดเป็นประมาณ 20-25% ของรายได้รวมในปีก่อน) ii) เพิ่มสัดส่วนรายได้จากธูรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีอัตรากำไรดี (รายได้จากธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงคิดเป็น 17% ของรายได้รวมปีก่อน) 2) ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ (คาดหวังการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดเดือน มี.ค.นี้) โดยการส่งออกทั้งหมดของ ASIAN รับเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (ส่งออก 70%) 3) Valuation ยังไม่แพงด้วย Trailing PE 12.6 เท่า และยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 6.1 บาท (ตอนนี้ PBV 0.88 เท่า) และจ่ายปันผล 0.21 บาท/หุ้น Yield 3.9% (XD วันที่ 25 เม.ย.) 4) ประเมินรูปแบบราคามีโอกาสดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน 6.0 บาท และถัดไปที่ 6.6 บาท แนวรับ 5.3 - 5.4 บาท (Stop loss 5.1 บาท)
BANPU* (เป้าพื้นฐาน 23.5 บาท) 1) สำหรับการเก็งกำไรสั้น แนะนำพิจารณาแนวต้าน 20.2 บาท หากยืนเหนือแนวราคาดังกล่าวได้ แนะนำ “เก็งกำไร” แต่กรณีที่ไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว แนะนำ “ซื้ออ่อนตัว” แนวรับ 19.9 บาท และถัดไปที่ 19.6 บาท 2) ประเมิน Catalyst บวกจากประเด็นภาครัฐฯจีนอาจปรับลดเวลาการทำงานของเหมืองถ่านหินในจีนลงเป็น 276 วัน (จาก 330 วัน) คาดจะส่งผลให้บวกต่อราคาถ่านหินในระยะสั้น (ฝ่ายวิจัยฯ คาดจะรู้ผลในเดือน มี.ค.นี้)
BBL* (เป้าพื้นฐาน 189 บาท) 1) สำหรับการเก็งกำไรสั้น แนะนำพิจารณาแนวต้าน 183 บาท หากยืนเหนือแนวราคาดังกล่าวได้ แนะนำ “เก็งกำไร” แต่กรณีที่ไม่ผ่านแนวต้านดังกล่าว แนะนำ “ซื้ออ่อนตัว” แนวรับ 180 บาท และถัดไปที่ 177.5 บาท 2) เราประเมิน Valuation ยังน่าสนใจด้วย PBV 0.92 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ 1.1 เท่า
หุ้นในกระแส
หุ้นกลุ่มงานรับเหมา Oil&Gas (SRICHA, BJCHI, STPI*) เราประเมินราคาหุ้นในกลุ่มฯ Undeperform ตลาดฯในช่วงที่ผ่านมาเพราะงานรับเหมาด้าน Oil&Gas ที่ชะลอ (ผลจากราคาน้ำมันตกต่ำในปีก่อน) แต่เราคาดว่างานประมูลจะเริ่มฟื้นตัวในปีนี้ โดยเริ่มจากงานในประเทศอย่างการสร้างโรงกลั่นใหม่ของ TOP* มูลค่ารวมราว 3 – 4 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดเผย FEED (Front-End Engineering Design: หรือการออกแบบทางวิศวกรรม) และเริ่มเปิดประมูลใน 2Q60 (คาดเดือน เม.ย.-พ.ค.) แนะนำ “เก็งกำไร” SRICHA ที่คาดจะเป็นตัวเก็งประมูลครั้งนี้ (เนื่องจากเคยรับงานของ TOP*) แนวรับ 20.4 บาท แนวต้านแรก 21.4 บาท (Stop loss 19 บาท)
หุ้นมีข่าว
(+) THAI* กำลังปรับระบบการขายตั๋วใหม่แบบออนไลน์ โดยคาดหวังว่า ยอดขายตั๋วผ่านระบบใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 30% ในปีนี้ (บางกอกโพสต์) เรามีมุมมองที่ดีต่อพัฒนาการดังกล่าวของ THAI เนื่องจากจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของไทยในเชิงการแข่งขัน โดยเราเชื่อว่า แนวโน้มการขายตั๋วผ่านระบบออนไลน์อยู่ในทิศทางขาขึ้น ซึ่งการปรับเปลี่ยนของ THAI จะช่วยเพิ่มยอดขายได้ไม่ยากนัก ทั้งนี้ เรายังคงชอบ THAI จากความคาดหวังการพลิกฟื้นผลการดำเนินงานและโอกาสในการเติบโตในระยะ 2-3 ปีข้างหน้า โดยยังคงแนะนำ “ถือ” ด้วยราคาเป้าหมาย 24 บาท (อิง 1.35 เท่า P/BV FY60)
(+) ITD* ดวล ILINK ชิงงาน APM AOT* เตรียมเปิดซองคุณสมบัติ 8 มี.ค.นี้ (ข่าวหุ้น) “ITD-ILINK” ยื่นข้อเสนอชิงงานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) รอบ 2 โดย AOT เตรียมเปิดซองคุณสมบัติ 8 มี.ค.นี้ ด้าน ITD ยอมรับ TOR สุดหิน กำหนดผู้รับงานต้องโอเปอเรตให้ฟรี 5 ปี ใช้เงินกว่า 200 ล้านบาท
(+) กรมทางหลวงชงครม. 14 มี.ค.นี้ ไฟเขียวผลประมูลมอเตอร์เวย์บางปะอินฯ 12 ตอน (ข่าวหุ้น) “กรมทางหลวง” เตรียมชงครม.วันที่ 14 มี.ค.นี้ ไฟเขียวผลประมูลมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราชอีก 12 ตอน หากได้รับอนุมัติพร้อมเซ็นสัญญาทันทีวันที่ 15 มี.ค.60
(+) TSR ลุยลีสซิ่ง ขยายธุรกิจจากฐานลูกค้าเดิม 2 ล้าน ระบบตามหนี้พร้อม (ฐานเศรษฐกิจ) ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลแข่งดุเดือด "เธียรสุรัตน์" ลั่นกลองรบ เปิดให้บริการแล้ว หากำไรเพิ่มจากขายผ่อนเครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องกรองน้ำ
(+) MC ปักธงตลาดเมียนมา (โพสต์ทูเดย์) แม็คกรุ๊ปเร่งสร้างฐานธุรกิจซีแอลเอ็มวี ประเดิมเมียนมา พร้อมแตกไลน์สินค้าใหม่นอกเหนือจากเสื้อผ้า นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี บริษัท แม็คกรุ๊ป เปิดเผยว่า บริษัทจะให้ความสำคัญขยายธุรกิจในต่างประเทศมากขึ้น โดยประเทศที่จะเข้าไปทำตลาดยังเน้นที่กลุ่มซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) เนื่องจากบริษัทเข้าไปเริ่มธุรกิจในกลุ่มประเทศดังกล่าวบ้างแล้ว
หุ้นที่แนะนำก่อนหน้า
SITHAI (เป้าพื้นฐาน 2.74 บาท) ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดแล้วหลังรายงานงบ 4Q59 เป็นจังหวะในการเข้าซื้อ หากดีดพ้นแนวต้าน 2.06 บาท แนะนำ “Follow buy” มีโอกาสปรับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 2.18 บาท แนวรับ ±2 บาท (Stop loss 1.96 บาท)
CPN* (เป้าพื้นฐาน 77 บาท) แนะนำพิจารณาที่แนวราคา 55.5 บาท หากยืนได้ประเมินมีโอกาสทดสอบแนวต้านถัดไปที่ 58.25 บาท และ 59.25 บาท / แนวรับ 55 บาท (Stop loss 53.75 บาท)
COM7* (เป้า Consensus 14.6 บาท) ประเมินแนวรับ 11.7 บาท แนวต้านแรก 12.3 บาท และถัดไปที่ ±13 บาท (Stop loss 11.4 บาท) ... Valuation ถูกสุดในกลุ่มค้าปลีกด้วย PEG ±1 เท่า ขณะที่หุ้นกลุ่มค้าปลีก PEG >2 เท่า + ราคา Laggard หุ้นค้าปลีกมือถืออย่าง JMART
TASCO* (เป้าพื้นฐาน 32.5 บาท) ยืนเหนือแนวราคา 25.5 บาทได้ แนะนำ “เก็งกำไร” โดยประเมินแนวต้านแรก 27 บาท และถัดไปที่ 30 บาท เป็นจุดขายทำกำไร แนวรับ 25.5 บาท (Stop loss 24.1 บาท)
ROBINS* (เป้าพื้นฐาน 75 บาท) แนะนำ “ถือ” ประเมินแนวรับ 61 บาท / แนวต้าน 65 บาท (Stop loss 58 บาท)
KTB* (เป้าพื้นฐาน 21.4 บาท) ประเมินรูปแบบราคาแกว่งขึ้นในกรอบแนวรับ – แนวต้าน 19.4 – 20.2 บาท แนะนำ “เก็งกำไร” ในกรอบแนวรับ – แนวต้าน (ขายล๊อกกำไรหากต่ำกว่า 19.4 บาท)
Report ตามปัจจัยพื้นฐานวันนี้
CPN* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 77 บาท แม้ CPN* เตรียมแผนการ Renovate ห้างครั้งใหญ่กว่าที่ฝ่ายวิจัยฯคาด (หลักๆคือ Central world และ Central พระราม 3) แต่ประเมินผลกระทบต่อผลการดำเนินงานปีนี้ในระดับต่ำ ฝ่ายวิจัยฯยังคาดกำไรปีนี้โต +10.2% YoY และจะเติบโตเด่น +18% ในปี 2561 หลังการ Renovate เสร็จ
HMPRO* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 12 บาท ข้อมูลโดยรวมที่ได้จากการประชุมนักวิเคราะห์อยู่ในเชิงกลางๆ โดยผู้บริหารมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อการฟื้นตัวของตลาดการปรับปรุงบ้าน อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มสูงขึ้น และรายได้จากค่าเช่าที่แข็งแกร่ง คาดจะช่วยหนุนให้กำไรยังโตได้อย่างต่อเนื่องในปี 2560
GFPT แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 18.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ปรับเพิ่มคำแนะนำหุ้น GFPT จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” โดยให้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 18.60 บาท อิงจาก PER ปี 2560F ที่ 13.3x คิดเป็น +1s.d. จากค่าเฉลี่ยสามปีย้อนหลัง
SAMART* แนะนำ “ซื้อ” เป้าพื้นฐาน 14.6 บาท ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินผลการดำเนินงานพ้นจุดต่ำสุดในปี 2559 ไปแล้ว และฝ่ายวิจัยฯยังคงประเมินกำไรปี 2560 – 61 ไว้ว้าจะเติบโต 128% CAGR
Market strategy Thailand
จิตวิทยาตลาดวันนี้ --- นัยรับ 1565 จุด
วันนี้ หากดัชนี SET ดีดขึ้นหรือปิดเหนือนัยรับ 1565 จุดได้นั้น อาจผลักขึ้นในกรอบ 1565-1583 จุด แต่หากวันนี้ ดัชนี SET ลดลงปิดต่ำกว่านัยรับ 1565 จุดนั้น อาจกดราคาลงในกรอบ 1565-1552 จุด
แนวรับวันนี้: 1565/1553 แนวต้านวันนี้: 1572/1581
หมายเหตุ: (1) ระยะสั้นคือ 1-5 วันทำการ; (2) ระยะกลาง คือ 14-30 วันทำการ; (3) ระยะยาวคือมากกว่า 30 วันทำการ
อดิศักดิ์ คำมูล 66.2658.8888 ต่อ 8843 [email protected]