- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 03 March 2017 17:51
- Hits: 3892
บล.ยูโอบีเคย์เฮียน : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน
ตลาดให้น้ำหนักกับการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบมี.ค.เพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังงานหนุนตลาดมีโอกาสฟื้นตัว แต่หุ้น EM ยังมีแนวโน้ม Underperform ยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อหลังเฟดส่งสัญญาณเศรษฐกิจฟื้น แต่ให้ระวัง de-rating ในหุ้นแพง ส่งท้ายปีเก่า 2559 ต้อนรับปีใหม่ 2560
เราคาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มแกว่งลง สอดคล้องกับหุนโลก หลังความ่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบมี.ค.เพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยผลสำรวขของ Bloomberg ประเมินโอกาสขึ้นบอกเบี้ยสูงถึง 90% จากเพียง 30% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้นกดดันต่อราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ขณะที่ ฟันโฟลว์ต่างชาติยังคงมีการไหลออกจากลุ่ม TIP (ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) ทำให้ตลาดยังน่าจะเคลื่อนไหวโดยไม่มีทิศทาชัดเจน ระหว่างรอติดตามวามเห็นของประธานเฟดในการปล่าวสุนทรพจน์วันนี้ และผลการประชุมเฟด 14-15 มี.ค. การลงทุนยังเป็นการเลือกซื้อแบบเจาะจงในกลุ่มที่ราคาและการเติบโตสมเหตุผล และผ่านจุดที่แย่สุดไปแล้ว อาทิ ธนาคาร เช่าซื้อ ท่องเที่ยว เดินเรือ // หุ้นแนะนำ BANPU / เก็งกำไร JWD*, TTA*, TK*
US Dollar แข็งค่าขึ้นแรง- หลังความน่าจะเป็นในการปรับขึ้นดอกเบี้ยรอบ มี.ค.ปรับเพิ่มขึ้นถึง 90% ในขณะที่จำนวนผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงมากกว่าคาด โดยปรับตัวลง 19,000 ราย สู่ระดับ 223,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 25 ก.พ. ซึ่งเป็นจำนวนน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2516 หรือในรอบเกือบ 44 ปี
กลุ่มรับเหมา – วันนี้ติดตามคณะกรรมการ รฟท.จะประชุมแก้ไขการประกวดราคา (ทีโออาร์) ก่อสร้างรถไฟทางคู่ทั้ง 5 สัญญา มูลค่า 1.36 แสนล้านบาท และจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกำกับการจัดซื้อจัดจ้าง หรือซูเปอร์บอร์ดเป็นลบต่อหุ้นรับเหมา แต่หากมีความชัดเจนมากขึ้นในเรื่องกรอบเวลาอาจเป็นบวกต่อหุ้นได้
กลุ่มการบิน – อาจไม่กระทบเพราะไม่มีรายใดตั้งค่าตั๋วชนเพดาน แต่คาดจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบจากการที่ รมว.คมนาคม มอบหมายให้การบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ศึกษาโครงสร้างอัตราค่าโดยสารสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ (โลว์คอสต์แอร์ไลน์) ให้ทันสมัยมากขึ้น จากปัจจุบันกำหนดเพดานสูงสุดที่ 13 บาท/กิโลเมตร (กม.) เท่ากับสายการบินประเภทฟูลเซอร์วิสต์
IUU – คณะทำงานของสภภาพยุโรปมีกำหนดตรวจประเมินปัญหาค้ามนุษย์และแรงงานทาสเดือนนี้ ซึ่งจากความคืบหน้าในด้านต่างๆทำให้ไทยมีโอกาสหลุดใบเหลือง ซึ่งจะบวกต่อกลุ่มอาหารทะเล และห้องเย็น ได้แก่ TU, JWD, ASIAN เป็นต้น
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:3มี.ค.–การแถลงของประธานเฟด (US) / 6 มี.ค. –SUPER-W3 ซื้อขายวันสุดท้าย / 14-15 มี.ค. – ประชุมเฟด / มี.ค. – ธปท.ปรับเพิ่ม GDP ปี 2560
คำแนะนำทางกลยุทธ์:เงินทุนไหลออกจากการปรับพอร์ตของต่างชาติในภูมิภาค ทำให้การฟื้นตัวยังจำกัดที่ 1570-1610ก่อนเฟดประชุม 14-15 มี.ค. โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือSET Index ต้องไม่กลับไปหลุด 1560 จุดและเรายังคงแนะนำระวัง de-rating ในหุ้นแพง (PER สูง) // สำหรับหุ้น top pick วันนี้ BANPU / เก็งกำไร JWD*, TTA*, TK*
แนวรับ 1560/แนวต้าน : 1570-1580จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 40% : พอร์ตหุ้น 60%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นที่มีการเติบโตปี 2560 เด่น: TU, MAJOR, SQ, BANPU
หุ้นที่ผลงานผ่านจุดแย่สุด: MAJOR, SGP*, SIMAT*, JWD*, TSR* TU
กลุ่มการเงินที่ Valuation สมเหตุผล: SCB, TK*, S11*, AMNAH*, GCAP*
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%) คาดตลาดหุ้นไทยมีโอกาสฟื้นหลังจากปรับลดลงแรงถึง 14 จุด จากการผลักดันของหุ้นในกลุ่มพลังงาน ซึ่งมีแนวโน้มจะฟื้นตามราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามหุ้นในตลาดเกิดใหม่ (EM) ยังมีแนวโน้มจะปรับขึ้นได้น้อยกว่า หรือมีการเคลื่อนไหวที่ด้อยกว่า (Underperform)ตลาดพัฒนาแล้ว เนื่องจากค่าเงินสหรัฐฯ ที่แข็งค่ากดดันเงินทุนไหล ขณะที่ตลาดพัฒนาแล้วเงินทุนไหลเข้าจากเศรษฐกิจที่มีโอกาสได้ผลดีจากการฟื้นตัวของสหรัฐฯ มากกว่า โดยเรามองตลาดยังมีแรงผลักดันในหุ้นที่ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วหรือกำลังจะผ่านจุดต่ำสุด อาทิ เช่าซื้อท่องเที่ยว อสังหาริมทรัพย์เดินเรือ เป็นต้น// หุ้นแนะนำวันนี้ BANPU, KBS, TASCO / เก็งกำไร SQ, TTA*
โภคภัณฑ์–ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวจากคาดการณ์โอเปคสามารถดำเนินการปรับลดการผลิตได้ตามที่สัญญา ในขณะที่ราคาโลหะฟื้นตัวเล็กน้อย ส่วนสินค้าเกษตรฟื้นตัวดี นำโดยราคาน้ำตาลที่ดีดตัวขึ้นมากกว่า 2%/ ราคายางธรรมชาติ TOCOM ยังผันผวน / ดัชนี BDI ปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 5 วันทำการ โดยขึ้นอีก2% บวกต่อการเก็งกำไรกลุ่มเดินเรือ
กลุ่มการบิน –เริ่มมีปัจจัยบวกจากการที่ผู้ประกอบการเริ่มทยอยได้รับการรับรองมาตรฐาน นำโดย BA ได้ใบรับรองผู้ดำเนินอากาศ (AOC) ใหม่ 27 ก.พ.นี้ ส่วน AAV-THAI มี.ค. 60 โดยICAO จะเข้าตรวจสนามบิน 2 แห่ง "สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง" ตามโครงการ USAP ระหว่างวันที่ 13-21 ก.ค. 60
AOT– ธนารักษ์สรุปเบื้องต้น เก็บค่าเช่าสนามบินสุวรรณภูมิเป็น 2 ส่วน พื้นที่กิจการบินคิดเท่าเดิม 5% แบบส่วนแบ่งรายได้ ส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์คิด 3% ของมูลค่าทรัพย์สินหากสูงไปกว่าเดิม 1.5 พันล้านต่อปีต่อรองได้อีก ผอ. AOT คาดทุนเพิ่ม 300-400 ล้านบาท หากใช้ ROA โดยเริ่มพ.ย.60
JAS – ระมัดระวังแรงทำกำไร แม้การขายสินทรัพย์อาจทำให้มีกำไรก้อนใหญ่ และตามมาด้วยการประกาศจ่ายปันผลพิเศษได้ แต่คาดการดำเนินเกิดขึ้นช่วงปลายปี ขณะที่กำไรไตรมาส 1-2/60 คาดลดลงอย่างมีนัยสำคัญจากการไม่มีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เช่นในปี 2559
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:28 ก.พ. – อาจมีการเปิดเผยแผนการลดภาษีในการแถลงต่อสภาคองเกรสของทรัมป์ (US)
คำแนะนำทางกลยุทธ์ :แกว่งตัวในกรอบ 1550-1580 และยังไม่กลับเป็นบวกหากไม่ผ่าน 1580 จุด ซึ่งในสถานการณ์ที่ดี ตลาดจะพักฐานในเชิงของเวลาทั้งนี้ความผันผวนของตลาดรวมเริ่มเพิ่มขึ้น ยังคงระวัง de-rating ในหุ้นแพง (PER สูง) การเข้าเก็งกำไร เลือกหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและไม่ไล่ราคา หรือหุ้นที่มีปัจจัยผลักดันเฉพาะตัวที่ชัดเจน// สำหรับหุ้น top pick วันนี้ BANPU, KBS, TASCO / เก็งกำไร SQ, TTA*
แนวรับ 1570/แนวต้าน : 1585จุด สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นเด่นจากสัมมนา 21 ม.ค. – TU, MAJOR, PTTGC /เก็งกำไร VNG*, WHA*, JWD*, TSR*, TTA*
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%) เราประเมินหุ้นไทยยังมีโอกาสฟื้นตัวต่อเนื่องจากวานนี้ หลังเฟดมีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจทั้งญี่ปุ่น ยุโรป และสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ออกมาดี ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ไม่ได้แข็งขึ้นมากนักและยังอยู่ในทิศทางอ่อนตัวเนื่องจากนักลงทุนที่ถือสถานะ long สุทธิใน USD ในระดับสูงมากอยู่แล้ว ทำให้ค่าเงินสหรัฐแข็งค่าในระยะสั้นได้ยาก เป็นปัจจัยบวกต่อการฟื้นตัวของโภคภัณฑ์ในภาพรวมกลยุทธ์เรายังขอเลือกเก็งกำไรรายตัว ในหุ้นที่ขึ้นไม่มาก หรือมีปัจจัยบวกเฉพาะตัวเพื่อรอจังหวะสะสมหุ้นดีจากการแกว่งตัว//หุ้นแนะนำวันนี้ IVL, KBS/ เก็งกำไร SF*, TSR*, SGP*
ก.พ.มีแนวโน้มเสี่ยงพักฐานเพิ่มขึ้น: เนื่องจากความผันผวนในตลาดเงินจากนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ อีกทั้งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรทั่วโลกที่เร่งตัวขึ้น กดดันต่อความน่าสนใจของการลงทุนในหุ้น โดยเฉพาะหากผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนออกมาไม่ดี จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการปรับฐานของตลาดในช่วงหลังการประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/60 (ก.พ.) อย่างไรก็ตามเรายังคงมุมมองการลงทุนครึ่งปีแรกเป็นบวกและคงมุมมองตลาดมีโอกาสทดสอบเป้าหมาย 1640 จุด ในช่วงครึ่งแรกของปี
ระมัดระวังการเกิด de-rating: ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาเราเตือนให้นักลงทุนระวังแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ PER สูงและขึ้นมามาก เนื่องจากภาวะเงินเฟ้อที่กลับมาและดอกเบี้ยขาขึ้น จะทำให้ส่วนชดเชยความเสี่ยง (risk premium) และอัตราคิดลด (discount rate) เพิ่มสูงขึ้น และกดดันอย่างมากต่อมูลค่าของหุ้นเติบโตที่ซื้อขายด้วย PER สูง โดยในภาวะเช่นนี้หุ้นใรเชิงมูลค่า หรือหุ้นที่มีการเติบโตกับความแพงในระดับราคาที่เหมาะสม จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า // ตัวอย่าง สัญญาณของ de-rating คือ SET Index ปรับขึ้นจาก 1504-1600 จุด (22 ธ.ค.-26 ม.ค.) แต่หุ้นอย่าง PTG, COM7, KCE, BLA, STPI, ROBINS, TRUE, BEAUTY, TKN, GL, CPALL กลับปรับตัวลดลง
เงินเฟ้อ:ม.ค. เพิ่มขึ้น 1.55% สูงสุดรอบ 28 เดือน สูงสุดรอบ 28 เดือน บวกต่อการขึ้นค่าน้ำของ EASTW
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:3 ก.พ.- การจ้างงานนอกภาคเกษตร สหรัฐฯ/ 10 ก.พ.- MSCI rebalancing
คำแนะนำทางกลยุทธ์ :มีโอกาสกลับขึ้นทดสอบ 1,585-1,600 แต่ยังคงระวัง de-rating ในหุ้นแพง (PER สูง) การเข้าเก็งกำไร เลือกหุ้นที่ยังขึ้นไม่มากและไม่ไล่ราคาหรือหุ้นที่มีปัจจัยผลักดันเฉพาะตัวที่ชัดเจน// สำหรับหุ้น top pick วันนี้IVL, KBS / เก็งกำไร SF*, TSR*, SGP*
แนวรับ/แนวต้าน : 1570/1585 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 50% : พอร์ตหุ้น 50%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นเด่นจากสัมมนา 21 ม.ค. –TU, MAJOR, PTTGC/เก็งกำไร VNG*, WHA*, JWD*, TSR*, TTA*
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, SCB, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก: AMATA, WHA*, CCP*, EASTW*
หุ้น Laggard: JWD*, SCN*, BA*, WHA*, SCC, TU, EGCOและอสังหาฯ เช่น SPALI, PSH, AP
หุ้นพลังงานทดแทนที่น่าสนใจ: PSTC*, TSE*, CHOW*, TLUXE*
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%) ในวาระส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด มหาชน ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก โปรดจงดลบันดาลให้ท่านนักลงทุนและครอบครัว พบแต่ความสุขความเจริญ ปราศจากโรคภัย และประสพความสำเร็จในการลงทุนสมดังที่ท่านตั้งใจทุกประการ
เราคาดดัชนีหุ้นไทยวันสุดท้ายยังแกว่งตัวบวกเล็กน้อยได้ ปริมาณการซื้อขายวานนี้อยู่ที่ 3.20 หมื่นล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิถึง 5,396 ล้านบาท และมีสถานะ Long สุทธิอีก 18,941 สัญญา ซึ่งคาดว่ามาจากการทำ Windows dressing เนื่องจากการปรับขึ้นมาจากการซื้อช่วงท้ายตลาดในหุ้นขนาดใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีหุ้นใหญ่อย่าง FTTHL ปิดปรับขึ้น 1.08% เหนือกว่า FSTHM และ FSTHS (หุ้นกลางและเล็ก) ที่ขึ้นเพียง 0.47% และ 0.82%ตลาดยังมีโอกาสซึมขึ้นจากเงิน LTF/RMF ที่เข้ามาและการฟื้นตัวขึ้นของราคาน้ำมันอย่างไรก็ตาม เราประเมินโภคภัณฑ์ยังต้องเผชิญกับราคาที่อาจอ่อนตัวลงจากปัจจัยด้านฤดูกาลในช่วงม.ค.60อาจกดดันหุ้นไทยในช่วงต้นปีหน้า ทำให้ในเชิงกลยุทธ์เรามองหุ้นที่ยัง Laggard และมีปัจจัยผลการดำเนินงานไตรมาส 4/59-1/60 แข็งแกร่ง น่าสนใจ รวมทั้งกลุ่มที่ใช้โภคภัณฑ์เป็นต้นทุนอย่าง รับเหมาและสายการบินฟื้นตัวในช่วงปลายปี-ต้นปี หุ้นแนะนำวันนี้ STEC,BDMS / เก็งกำไร BA*, TIP*, DTAC*, PSTC*
สำหรับปัจจัยติดตามที่สำคัญ:30 ธ.ค. –Chicago PMI, จำนวนแท่นขุดเจาะ(สหรัฐฯ)
คำแนะนำทางกลยุทธ์ :สำหรับผู้ต้องการใช้สิทธิ์ลดภาษี ซื้อ LTF/RMF เป็นวันสุดท้าย ทั้งนี้เรายังมองตลาดมีการแกว่งตัวลงบ้างในช่วง ม.ค.60 ซึ่งจะเป็นจุดซื้อที่ดี ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงจากการที่ตลาดแข็งแกร่งกว่าที่คาด ทำให้ในเชิงการเก็งกำไร เราขอเลือกหุ้นที่น่าจะทนกับการแกว่งได้หรือปัจจัยบวกเฉพาะตัว เน้นหุ้นที่ Laggard และทยอยสะสมหุ้นเด่นปี 2560 ซึ่งได้แก่ BANPU, PTTEP, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*// สำหรับหุ้น top pick วันนี้STEC,BDMS / เก็งกำไร BA*, TIP*, DTAC*, PSTC*
แนวรับ/แนวต้าน : 1530/1540-1550 สัดส่วนการลงทุน : เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%
ประเด็นเก็งกำไรเชิงกลยุทธ์
หุ้นเด่นปี 2560: BANPU, PTTEP, TU, STEC, DTAC*, PSTC*, KSL*, BA*
การประมูลโครงการขนาดใหญ่ปีหน้า: STEC, SEAFCO*, PYLON*, UNIQ*, CK
(* หุ้นที่ไม่อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH หรือหุ้นแนะนำเชิงกลยุทธ์ ผู้ลงทุนควรพิจารณาจุดตัดขาดทุน ราว 3-5%)
Market Summary
Opportunity day:3 มี.ค. –ORI, SC, GC, JWD, JSP, BA, AS / 6 มี.ค. –L&E, HMPRO, APCO / 7 มี.ค. –VIBHA, HPT, TK, K, TRC, KTIS, TSE / 8 มี.ค. –BCPG, WAVW, BM, WICE, PAP, CPN
หุ้นแนะนำ
BANPU (26) : รายงานกำไรไตรมาส 4/59 ที่ 1.5 พันล้าน ดีกว่าที่ตลาดคาด คาดกำไร 2560 เติบโตโดดเด่น อีกทั้งผลการดำเนินงานปัจจุบันผันผวนน้อยลงจากการมีธุรกิจไฟฟ้า (BPP)เป็นสัดส่วนถึง 35%และได้รับการปรับเพิ่มน้ำหนักลงทุนจาก MSCIมีผลสิ้นก.พ.60 ช่วยจำกัดความเสี่ยงของหุ้น
JWD* (12) :ผลการดำเนินงานผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 3/59 และมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้การพ้นธงเหลือง IUU จะช่วยเร่งการฟื้นตัวของธุรกิจห้องเย็น และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร
TTA* (12) :แม้รายงานขาดทุนไตรมาส 4/59 แต่ค่าระวางเรือเข้าสู่ช่วง high season ขณะที่ราคาปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชีที่ 11.50 บาท อีกทั้งบริษัทยังมีเงินสดในมือรอการลงทุนอีกมาก
TK* (15) : ผ่านจุดที่แย่ที่สุดไปแล้วจากการตั้งสำรอง ขณะที่ยอดการเช่าซื้อจักรยานยนต์เริ่มกลับเป็นบวก นอกจากนี้มีแผนเข้าสู่การปล่อยสินเชื่อที่กัมพูชาและอินโดนีเซียตามลำดับ
หุ้นที่มีประเด็นเก็งกำไรJWD*, ERW, SAWAD*, SF*,SQ, CPN*, DTC*
นักกลยุทธ์: กิจพล ไพรไพศาลกิจ Email: [email protected]